ทริสเรทติ้ง จัดอันดับ DAD ระดับ AA- แนวโน้มคงที่สะท้อนความสัมพันธ์ภาครัฐระดับสูง
ทริสเรทติ้ง จัดอันดับบริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด ที่ระดับ AA- (Double A Minus) แนวโน้ม “คงที่” ระบุมีรายได้ค่าเช่าที่แน่นอนจากโครงการภายในศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ คาดรายได้ค่าเช่าจากพื้นที่พาณิชย์โซน C ราว 100 ล้านบาทต่อปีในช่วงปี 2568-2569
ดร.นาฬิกอติภัค แสงสนิท กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด หรือ DAD Asset Development ผู้บริหารศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐ เปิดเผยว่า บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด (ทริสเรทติ้ง) ได้จัดอันดับเครดิตประจำปี 2566 ให้ DAD ได้อันดับเครดิตที่ระดับ “AA-” (Double A Minus) ส่วนแนวโน้มอันดับเครดิตได้กำหนดที่ระดับ“stable” หรือ “คงที่”
ทั้งนี้ทริสเรทติ้ง ได้วิเคราะห์ข้อมูลโดยพิจารณาจากรายได้ค่าเช่าของ DAD ซึ่งค่อนข้างแน่นอนและคาดการณ์ได้จากหน่วยงานภาครัฐต่าง ๆ การควบคุมอย่างใกล้ชิดในการพัฒนาโครงการ และการหาแหล่งเงินทุนโดยหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง รวมถึงความเป็นไปได้ที่ DAD จะได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากรัฐบาลในกรณีที่จำเป็น ปัจจัยเหล่านี้ช่วยลดความกังวลของทริสเรทติ้งต่อความเสี่ยงในการพัฒนาโครงการต่าง ๆ แม้จะมีระดับของภาระหนี้ที่ค่อนข้างสูง การจัดอันดับครั้งนี้ได้สะท้อนถึงความสัมพันธ์กับภาครัฐในระดับสูง เนื่องจาก DAD เป็นรัฐวิสาหกิจ สังกัดกระทรวงการคลัง มีคณะกรรมการ (บอร์ด) ซึ่งส่วนใหญ่มาจากหน่วยงานภาครัฐ เพราะจากการดำเนินงานของ DAD จะมีภาครัฐบาลเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด
ตั้งแต่ก่อตั้ง DAD มีโครงการที่พัฒนาเสร็จสิ้นแล้วจำนวน 6 โครงการ รวมถึงโครงการศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ โซน A และโซน B ปัจจุบันมีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาจำนวน 4 โครงการซึ่งรวมถึงโครงการศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ โซน C และมีโครงการที่อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้อีก 9 โครงการ โดยส่วนของการลงทุนในโครงการศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ โซน C จะมีสัญญาเช่า 30 ปีกับกรมธนารักษ์ จึงทำให้ DAD จะมีรายได้ค่าเช่าที่แน่นอนจากโครงการนี้ตลอดช่วงอายุสัญญาเช่า และเริ่มได้รับค่าเช่าจากกรมธนารักษ์ในเดือนกันยายน 2567 เป็นต้นไป นอกจากนั้น DAD ยังมีพื้นที่เช่าเชิงพาณิชย์ ในศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ โซน C ขนาด 13,000 ตารางเมตร อยู่ระหว่างการสรรหาผู้เช่า โดยคาดว่าในปี 2568 DAD จะมีรายได้จากพื้นที่เช่าดังกล่าวประมาณ 80-100 ล้านบาทต่อปี.