ส.อ.ท. ดึง “แอ๊ด คาราบาว” ปลุกกระแสใช้สินค้าไทย

ส.อ.ท.ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ด้วยสินค้า Made in Thailand ดึง “แอ๊ด คาราบาว” ร่วมปลุกกระแสใช้สินค้าผลิตในไทย ผ่านบทเพลง “เมด อิน ไทยแลนด์”

เมื่อเร็วๆนี้ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) จัดงานแถลงข่าว “ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ด้วยสินค้า Made in Thailand” โดยมี นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ร่วมแถลงนโยบายเพื่อวางแนวทางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยโดยผลักดันโครงการ Made in Thailand ส่งเสริมการใช้สินค้าที่ผลิตภายในประเทศ และเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้อุตสาหกรรมไทย เพื่อประเทศไทยที่เข้มแข็งกว่าเดิม (Strengthen Thai Industries for Stronger Thailand)

โดยมี นางสาวเพชรรัตน์ เอกแสงกุล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นายพินิจ จารุสมบัติ อดีตรองนายกรัฐมนตรี นางสาวทักษพร รักอยู่ นิติกรชำนาญการพิเศษ รักษาการผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านพัฒนาระบบงานพัสดุระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐและราคากลาง กรมบัญชีกลาง ร่วมกล่าวแนวทางความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการสนับสนุนผู้ประกอบการเข้าสู่การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ

และนายยืนยง โอภากุล หรือ แอ๊ด คาราบาว ร่วมสนับสนุนการใช้สินค้า Made in Thailand ด้วย Soft Power เพื่อสะท้อนอัตลักษณ์ความเป็นสินค้าไทยและปลุกกระแสให้เกิดแรงจูงใจในการใช้สินค้าไทย ผ่านบทเพลง เมด อิน ไทยแลนด์

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า โครงการ Made in Thailand เป็นนโยบายที่สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยผลักดันมาตลอดในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากเป้าหมายลำดับแรกเรามุ่งหวังเพิ่มโอกาสทางการค้าให้กับผู้ประกอบการที่ผลิตสินค้าไทย โดยกลุ่มสินค้า Made in Thailand จะมีโอกาสเข้าสู่ระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐได้มากขึ้น ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีจำนวนโครงการและมูลค่าการจัดซื้อจัดจ้างค่อนข้างสูงในแต่ละปี

นอกจากนี้ สินค้าที่ผ่านการรับรอง MiT จากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยจะสามารถขยายตลาดไปยังกลุ่มผู้ค้าส่งค้าปลีก (Trader) เพื่อสร้างโอกาสในการขยายการค้าไปยังผู้บริโภค รวมถึงต่อยอดธุรกิจการค้าไปยังต่างประเทศที่นิยมสินค้าไทยได้มากขึ้น ทำให้ธุรกิจของคนไทยมีศักยภาพในการแข่งขันในตลาดโลกได้ดียิ่งขึ้น เพราะสินค้าที่ได้รับเครื่องหมาย MiT จะต้องผ่านเกณฑ์ต่างๆ เพื่อให้ได้มาตรฐานตามที่กำหนด

จากสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่เข้ามาซ้ำเติมปัญหาโควิด-19 ที่มีอยู่ ทำให้โลกกำลังเสี่ยงกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย การพึ่งพาตลาดนำเข้า-ส่งออกมากจนเกินไปอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของไทยได้ การส่งเสริมให้เพิ่มการใช้สินค้าที่ผลิตภายในประเทศ เป็นแนวทางสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยทั้งห่วงโซ่การผลิต ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการไทย สามารถสร้างรายได้ เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ เกิดการจ้างงาน และช่วยพยุงเศรษฐกิจ ทำให้ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้อุตสาหกรรมไทย เพื่อประเทศไทยที่เข้มแข็งกว่าเดิม (Strengthen Thai Industries for Stronger Thailand)

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password