“ปลัดคลัง” แจงจัดงานใหญ่ ฉลอง 150 ปี หรือ 15 ทศวรรษ กระทรวงการคลัง เผย! นอกจากจัดทำบุญครั้งสำคัญในวันที่ 1 เม.ย.แล้ว ยังจัดนิทรรศการภายใต้แนวคิด “อดีต-ปัจจุบัน-อนาคต”  ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พร้อมเชิญ Guest Speakers ชั้นนำจากทั่วโลกมาร่วมเสวนา 1-3 พ.ค.ที่จะถึงนี้ อีก พร้อมจัดสร้าง “พระคลังในพระคลังมหาสมบัติ เทพประจำกระทรวงการคลัง” เปิดจำหน่าย ดีเดย์! เปิดจอง 24 ก.พ.นี้เป็นต้นไป ย้ำ! หมดแล้วหมดเลย

นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังจะมีวาระครบรอบ 150 ปี วันสถาปนากระทรวงการคลัง ในวันที่ 14 เมษายน 2568 นี้ ถือเป็นโอกาสสำคัญที่ชาวกระทรวงการคลังจะได้รวมใจกันเป็นหนึ่งเดียวในการแสดงพลังความสามัคคี การสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อการบริการประชาชนและการแสดงถึงความรับผิดชอบต่อสังคม ในวาระครบรอบวันสถาปนา 150 ปีของกระทรวงการคลังในปีนี้ จะมีการจัดงานในลักษณะเช่นเดียวกับที่กระทรวงการคลังเคยจัดงานครบรอบ 120 ปี เมื่อปี พ.ศ. 2538 โดยจะมีการจัดงานใหญ่แบ่งเป็น 2 ช่วง ดังนี้

ช่วงที่ 1  วันที่ 1 เมษายน 2568 จะเป็นการจัดงานครบรอบวันสถาปนา 150 ปีของกระทรวงการคลัง บริเวณชั้น 21 อาคาร 150 ปีกระทรวงการคลัง มีการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวง พิธีสงฆ์ และการร่วมแสดงความยินดี รวมถึงได้กำหนดให้มีพิธีมอบรางวัลข้าราชการผู้ประพฤติปฏิบัติตนชอบด้วยความซื่อสัตย์-สุจริต “เกียรติวายุภักษ์” ประจำปี พ.ศ. 2568 ของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลัง เพื่อให้บุคลากรกระทรวงการคลังที่เป็นตัวอย่างอันดีได้รับการยกย่อง ยอมรับ และเชิดชูเกียรติ ให้สมกับความมุ่งมั่นทุ่มเทที่ทำงานเพื่อประชาชนด้วยความเข้มแข็งและซื่อสัตย์

ช่วงที่ 2 วันที่ 1-3 พฤษภาคม 2568 จะเป็นการจัดงานครบรอบ 150 ปี กระทรวงการคลัง ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ภายใต้แนวคิดการจัดงาน “อดีต-ปัจจุบัน-อนาคต” รวบรวมข้อมูล ความเป็นมา และบทบาทความสำคัญของกระทรวงการคลัง ตลอดระยะเวลา 15 ทศวรรษ โดยเฉพาะบทบาทในการนำพาประเทศชาติให้เจริญรุ่งเรืองมาทุกยุคทุกสมัย ในฐานะหน่วยงานเสาหลักด้านเศรษฐกิจของประเทศ ภายในงานจะเปิดโอกาสให้ประชาชนได้สัมผัสถึงวิวัฒนาการของกระทรวงการคลัง นับจากอดีต สู่ภารกิจการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้มั่นคงในปัจจุบัน และก้าวหน้าอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต นอกจากนี้ จะมีการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลนอกสถานที่ ในงวดประจำวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 อีกด้วย

ในโอกาสเดียวกันนี้ กระทรวงการคลังได้รับการสนับสนุนจากกรมธนารักษ์ และธนาคารแห่งประเทศไทย ในการจัดทำเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกมูลค่า 50 บาท และธนบัตรที่ระลึกมูลค่า 100 บาท ซึ่งหากรวมมูลค่าของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกและธนบัตรที่ระลึกแล้ว จะเป็นตัวเลข 150 ที่บ่งบอกถึงวันครบรอบวันสถาปนา 150 ปีกระทรวงการคลัง

นอกจากนั้น ในโอกาสครบรอบวันสถาปนา 150 ปี กระทรวงการคลังได้มีการจัดสร้าง “พระคลังในพระคลังมหาสมบัติ เทพประจำกระทรวงการคลัง” ซึ่งเป็นที่เคารพบูชาของบุคคลทั่วไป ตามความเชื่อที่กล่าวขานกันว่า ใครที่ได้มีโอกาสบูชาองค์ท่านจะประสบความสำเร็จในแง่ทรัพย์สินเงินทอง การงานการเงินมั่นคง และประสบความสำเร็จตามความต้องการ โดยมีการจัดสร้างทั้งในรูปแบบองค์ลอย 3 รูปแบบ และเหรียญที่ระลึก 4 รูปแบบ ดังนี้

1.องค์ลอย

1.1 ชนิดทองคำ 96.5% ความสูง 14 เซนติเมตร น้ำหนัก 510 กรัม (ไม่รวมฐาน) ราคาองค์ละ 2,999,999.- บาท ผลิตตามยอดจอง ไม่เกิน 30 องค์ พร้อมเลเซอร์หมายเลขลำดับและที่ประทับ

1.2 ชนิดเงินรมดำ 95% ความสูง 20.6 เซนติเมตร น้ำหนัก 1,180 กรัม (ไม่รวมฐาน) ราคาองค์ละ 300,000.-บาท ผลิตตามยอดจอง ไม่เกิน 300 องค์ พร้อมเลเซอร์หมายเลขลำดับ

1.3 ชนิดสำริดชุบทอง ความสูง 20.6 เซนติเมตร น้ำหนัก 660 กรัม (ไม่รวมฐาน) ราคาองค์ละ 35,000.- บาท ผลิตตามยอดจอง ไม่เกิน 15,000 องค์ พร้อมเลเซอร์หมายเลขลำดับ

2.เหรียญที่ระลึก

2.1 ชนิดทองคำ 96.5% ความสูง 26 มิลลิเมตร น้ำหนัก 19.50 กรัม ราคาเหรียญละ 150,000.- บาท ผลิตตามยอดจอง ไม่เกิน 150 เหรียญ พร้อมเลเซอร์หมายเลขลำดับเหรียญ

2.2 ชนิดเงินรมดำพ่นทรายพิเศษ 95% ความสูง 26 มิลลิเมตร น้ำหนัก 12.20 กรัม ราคาเหรียญละ 3,000.- บาท ผลิตตามยอดจอง ไม่เกิน 1,500 เหรียญ พร้อมเลเซอร์หมายเลขลำดับเหรียญ

2.3 ชนิดทองแดง 95% รมดำพ่นทรายพิเศษ ความสูง 26 เซนติเมตร น้ำหนัก 9.50 กรัม ราคาเหรียญละ 1,000.- บาท ผลิตตามยอดจอง ไม่เกิน 3,000 เหรียญ พร้อมเลเซอร์หมายเลขลำดับเหรียญ

2.4 ชนิดทองแดง รมดำพ่นทรายพิเศษ ความสูง 32 เซนติเมตร น้ำหนัก 15 กรัม ราคาเหรียญละ 150.- บาท ผลิตตามยอดจอง ไม่เกิน 150,000 เหรียญ

การจัดสร้าง “พระคลังในพระคลังมหาสมบัติ เทพประจำกระทรวงการคลัง” ในครั้งนี้ ได้รับพระเมตตาประทานแผ่นจารจากสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (อัมพร อมฺพโร) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก วัดราชบพิตรสถิตมหาสีมาราม และเกจิอาจารย์ทั่วประเทศ อาทิ

– สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย ธมฺมธโช ป.ธ.6) วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร

– สมเด็จพระมหาธีราจารย์ (ปสฤทธ์ เขมงฺกโร ป.ธ.3) วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร

– สมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ ป.ธ.9) วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร

– สมเด็จพระพุทธจนวชิรมนี (มนตรี คณิสฺสโร ป.ธ.5) วัดเครือวัลย์วรวิหาร

– สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (สุชิน อคฺคชิโน) วัดราชบพิตรสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร

– สมเด็จพระมหาวชิรมังคลาจารย์ (สงัด ปญฺญาวุโธ ป.ธ.7) วัดกะพังสุรินทร์ พระอารามหลวง

– พระราชวัชรธรรมโสภณโกศลบริหารวรกิจ ยติคณิสสร บวรสังฆารามคามวาสี (หลวงปู่ศิลา สิริจนฺโท) วัดพระธาตุหมื่นหิน

– พระอาจารย์อดิเรก อนุตตโร วัดหนองทราย

โดยรวมเกจิอาจารย์กว่า 100 รูป จากทั่วประเทศ 77 จังหวัด และมีพิธีเทวาภิเษกในวันพุธที่ 23 เมษายน 2568 เพื่อให้ประชาชน ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และบุคลากรกระทรวงการคลัง ผู้มีจิตศรัทธาได้ร่วมบูชา เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ โดยสามารถสั่งจองได้ที่เว็บไซด์ http://150years.mof.go.th ตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ ถึง 31 พฤษภาคม 2568 หรือจนกว่ายอดสั่งจองจะครบกำหนด

“ปีที่ 150 ถือเป็นความท้าทายสำคัญของกระทรวงการคลังในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนานวัตกรรมเพื่อนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในการบริหารและการบริการประชาชนอย่างเหมาะสมให้สอดคล้องกับกระแสโลกที่มุ่งไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเฉพาะการรักษาสิ่งแวดล้อม และการใช้ทรัพยากรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ภายใต้หลักการการทำงานด้วยความโปร่งใสและการรักษาวินัยทางการคลังที่เรายึดถือเป็นหัวใจสำคัญเสมอมา” ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวและว่า…

การเปิดจองที่จะมีขึ้นในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ หากยอดจองครบตามจำนวนข้างต้น กระทรวงการคลังจะปิดรับจองในทันที สำหรับรายได้หลังหักรายจ่ายที่มีนั้น นอกจากจะนำไปใช้เพื่อการกุศลและบริจาคให้กับหน่วยงานต่างๆ แล้ว กระทรวงการคลังจะนำไปเป็นเงินกองทุนสวัสดิการดูแลข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงการคลังต่อไป.