“ภูมิธรรม” จับเข่าหน.พรรคร่วม เคลียร์ปมรื้อรธน. ชี้เป็นเรื่อง “วุฒิการเมือง” ช่วยเลี่ยงเกิดภาวะวิกฤต ส.ว.พันธุ์ใหม่ หนุน เอาให้ชัด “จริยธรรม” คืออะไร ขณะ ปชป.- อดีต สว. ชูธงต้าน อย่านำการเมืองเข้าสู่จุดเสี่ยง
วันที่ 23 ก.ย.2567 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ ถึงความคืบหน้าการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราว่า ขณะนี้มีความเป็นไปได้ ซึ่งเรื่องของรัฐธรรมนูญที่เดินมาขณะนี้เกือบจะครบกระบวนแล้ว แต่มีปัญหา ที่กฎหมายประชามติ จึงเป็นเรื่องที่ต้องแก้ไข โดยการทำประชามติ ก่อนจึงจะสามารถแก้ไขได้ ขณะนี้กฎหมายประชามติ ก็เข้าสู่วาระที่จะสำเร็จแล้ว เมื่อเรื่องเข้าสภาแล้วขอร้องว่าอย่าเอาแต่ใจตัวเอง ต้องคำนึงถึงความถูกต้องเป็นธรรม มีกระบวนการอยู่แล้วหากสามารถทำได้

ตามกระบวนการที่จะให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม ก็จะเกิดขึ้นแต่ที่เราคิดไว้ ก็มีหลายเรื่องที่ยังไม่ควรไปแตะ เพราะจะเกิดความขัดแย้งในสังคม การวิพากษ์วิจารณ์หรือด่าว่าจะเป็นอย่างโน้นอย่างนี้ไม่สนใจ เพราะถือว่าสิ่งนี้คือหนทางที่จะหลีกเลี่ยงการเกิดภาวะวิกฤตในประเทศและสามารถจะแก้ไขได้

แต่ถ้ายังยืนยันว่าไม่สามารถที่จะดำเนินการได้ ก็กลับไปใช้รัฐธรรมนูญฉบับเดิมเท่านั้นเอง ไม่อยากจะใช้คำแรงว่าเรื่องนี้ มันเป็นวุฒิภาวะทางการเมือง เป็นความเข้าใจทางการเมือง ถ้าเข้าใจจะเห็นกระบวนการการเปลี่ยนแปลงที่จะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น ส่วนการแก้รายมาตรานั้น ไม่ได้มีเจตนาจะแก้เพื่อพรรคการเมืองหรือนักการเมือง

“ได้มีการพูดคุยกับพรรคร่วมบ้างแล้วอย่างไม่เป็นทางการ แต่ในส่วนของประเด็น ที่อยากแก้อาจจะไม่เท่ากัน ซึ่งขณะนี้ในส่วนของวิปรัฐบาล ได้มีการคุยกันบ้างแล้ว แต่สำหรับหัวหน้าพรรค ขณะนี้ได้ประสานแล้วจะนัดวันเวลาให้ตรงกันเพื่อที่จะพูดคุยร่วมกันทั้งหมด ไม่วันอังคาร ก็วันพุธนี้ เพราะส่วนตัวคิดว่า ไม่ว่าจะอย่างไรทั้งหมด ก็ขึ้นอยู่กับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล เมื่อวิปรัฐบาลคุยชัดเจนแล้ว หัวหน้าพรรค ก็จะได้เคลียร์กัน เพื่อให้กระบวนการการแก้ไขจะได้เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม คิดว่ารัฐบาลนี้ไม่น่าจะอายุสั้น หากการบริหารงาน มีทิศทางในลักษณะนี้ และเชื่อมั่นว่ารัฐบาลอยู่ครบวาระแน่” นายภูมิธรรม กล่าว

นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงการยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ2560 ที่มีการหยิบยกประเด็นเกี่ยวกับการแก้ไขจริยธรรมสส. และรัฐมนตรี ว่า พรรคประชาธิปัตย์จะมีการหารือกันในที่ประชุมสส.วันที่ 24 ก.ย.นี้ แต่ความเห็นส่วนตัวคิดว่ารัฐธรรมนูญปี 60 ควรแก้ไขอยู่แล้วเพื่อให้รัฐธรรมนูญเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น แต่ตนไม่สนับสนุนให้มีการแก้ไขเรื่องจริยธรรม เพราะคนที่จะเข้าสู่ตำแหน่ง ทุกคนต้องยินดีที่จะให้ตรวจสอบมาตรฐานจริยธรรม และคณะกรรมการจริยธรรมที่มีอยู่เขาคงไม่ตีความเรื่องเล็กๆน้อยๆ เขาต้องตีความในเรื่องที่เป็นหลักการ

“ผมคิดว่าผู้บริหารประเทศทุกคน ต้องพร้อมได้รับการตรวจสอบ ถ้ากระดุมเม็ดแรกไม่ผ่านก็ไม่ควรเป็นผู้บริหารประเทศ ผมคิดว่าเรื่องการตรวจสอบจริยธรรมเราไม่ควรไปแตะ ควรแตะเรื่องการทำงานดีกว่า วันนี้กฎหมายของประเทศ นอกจากรัฐธรรมนูญแล้วยังมีกฎหมายลูกที่หลายองค์กรยังปัญหาอยู่ เราก็ต้องผลักดันแก้ไขให้ได้” นายชัยชนะกล่าว

น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กลุ่มพันธุ์ใหม่ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคการเมืองเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราว่า ก็เห็นด้วย เพื่อลดจุดบกพร่อง โดยเฉพาะเรื่องจริยธรรมนักการเมืองต้องระบุให้ชัดมากกว่าเดิม “นี่ไม่ใช่เรื่องของประโยชน์ทับซ้อน และหากจะบรรจุเข้าไปในกฎหมาย ควรต้องกำหนดให้ชัดว่าพฤติกรรมไหนผิดหรือไม่ผิดจริยธรรม และไม่ควรต้องย้อนกลับไปเมื่อชาติที่แล้ว ว่าเขาเคยทำอะไรไว้เมื่อ 20 ปีก่อน ก็เอามา ทั้งที่ตอนนั้นเขายังไม่ได้ตัดสินใจจะเป็นนักการเมืองด้วยซ้ำไป แต่กลับถูกนำเรื่องนี้มาดำเนินคดีกับเขา” น.ส.นันทนา กล่าว

นายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา(สว.) โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง “แก้รัฐธรรมนูญสุดซอย เพื่อใคร” ตั้งข้อสังเกตุว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญหนนี้ คงจะนำพาประเทศชาติ เข้าสู่จุดเสี่ยงวิกฤตการเมืองอย่างแน่นอน #เตือนมาด้วยความหวังดี #เลิกเถอะอย่าดันทุรัง.