“พร้อมพงษ์” ยื่นเรื่องร้องประธานสภาฯ ตรวจสอบการทำหน้าที่-จริยธรรม สส.ของ พล.อ.ประวิตร ปมขาดประชุมโหวตวาระสำคัญ รวมทั้งการเลือกนายกรัฐมนตรี 2 ครั้ง ยืนยันไม่ใช่เกมการเมืองและพร้อมตรวจสอบทุกคน
วันที่ 18 ก.ย.2567 นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ในฐานะอดีต สส.พรรคเพื่อไทย (พท.) ยื่นหนังสือถึง นายวัน มูฮะหมัด นอร์ มะทาร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ตรวจสอบเวลาการเข้าร่วมประชุมสภาฯ ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และ สส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ ว่า เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และข้อบังคับประมวลจริยธรรมของ สส.หรือไม่

หลังจากมีประชาชนร้องเรียนกรณี พล.อ.ประวิตร ไม่เข้าประชุมโหวตกฎหมาย และวาระสำคัญ รวมถึงกรณีโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ทั้งการโหวตนายเศรษฐา ทวีสิน และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ถึง 13 มติ จาก 16 มติ หรือคิดเป็นร้อยละ 81.25

นายพร้อมพงศ์ เรียกร้องให้ตรวจสอบในฐานะที่ พล.อ.ประวิตร เป็น สส. บัญชีรายชื่อ และเป็นตัวแทนประชาชน ต้องปฏิบัติตามหลักจริยธรรม ตามข้อบังคับประมวลจริยธรรม สภาผู้แทนราษฎร ปี 2563 ที่ระบุว่า สส.ต้องคำนึงถึงความเสียสละในการทำหน้าที่เข้าร่วมประชุม เว้นแต่จะมีเหตุสุดวิสัย พร้อมย้ำว่าการมายื่นตรวจสอบต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ความเป็นธรรมกับ พล.อ.ประวิตร เพราะไม่รู้ว่าเรื่องที่ประชาชนร้องเข้ามานั้นจริงหรือไม่ จึงต้องสอบถามจากประธานสภาผู้แทนราษฎร

นอกจากนี้ ยังมีความเกี่ยวข้องกับกฎหมายธรรมนูญมาตรา 101 กรณี สส.ขาดประชุม เพื่อไม่ให้เกิดข้อกังขา เพราะ พล.อ.ประวิตร ไม่ได้เป็นเพียง สส. แต่ยังเป็นหัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จึงต้องมีความรับผิดชอบทางการเมืองสูงกว่านักการเมืองทั่วไป

นายพร้อมพงศ์ ยืนยันว่า การตรวจสอบไม่ได้เลือกปฏิบัติ หากมีประชาชนร้องกรณีอื่นก็ยินดีที่จะดำเนินการตรวจสอบ เพื่อให้ความจริงปรากฏ ไม่ว่าจะเป็น สส.ฝ่ายค้าน-ฝ่ายรัฐบาล รวมไปถึงกรณี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ขอให้สบายใจได้ และย้ำว่าไม่ใช่เกมการเมือง หรือตั้งเป้าตรวจเพียง พล.อ.ประวิตร

ส่วนกรณีคลิปเสียงสนทนาคล้าย พล.อ.ประวิตร ที่มีการเผยแพร่ออกมานั้น นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า เป็นหนึ่งในประเด็นที่สังคมสนใจ และมองว่าเรื่องนี้ เกิดจากบริวารเป็นพิษ ซึ่งการที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ฟ้องผู้ดำเนินรายการที่นำคลิปสนทนาออกมาเผยแพร่ ก็เป็นสิทธิของแต่ละคน โดยช่วงนี้นายไพบูลย์ก็ต้องพิสูจน์การทำงานในตำแหน่งเลขาฯ พรรคพลังประชารัฐคนใหม่ หากเป็นไปได้ก็อยากให้ตั้งโต๊ะแถลงข้อเท็จจริงกรณีคลิปเสียง หรือให้ พล.อ.ประวิตร เข้าสภาฯ มาปฏิบัติหน้าที่ พร้อมย้ำว่าไม่รู้จัก และไม่เคยพบ พล.อ.ประวิตร

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า พล.อ.ประวิตร เป็นถึงอดีตผู้บัญชาการทหารบก น่าจะมีนายทหารฝ่ายเสนาธิการที่ใกล้ชิดสามารถสืบค้นหาคนที่อัดคลิปมาเผยแพร่ได้.