“พิชัย นริพทะพันธุ์” นำทีม “รมต.ป้ายแดง” เข้ากระทรวงฯ วันแรก พร้อมสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงฯ เผย! ยังไม่เรียกประชุมข้าราชการ แต่นัดหมายกันแล้ว “ดีเดย์” 16 ก.ย.นี้ พร้อมแบ่งงาน “2 รมช.” ย้ำ! ขอเดินหน้าแก้สินค้าแพง วอนแบงก์ชาติ ผ่อนคลายกฎการเงิน หวังต่อลมหายใจ “SME ไทย” ให้เดินหน้าธุรกิจต่อไปได้

เมื่อช่วงสายวันที่ 11 กันยายน 2567 ณ กระทรวงพาณิชย์, นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ “คนใหม่” พร้อมรัฐมนตรีช่วยฯและคณะ ถือฤกษ์เดินทางเข้ากระทรวงพาณิชย์ในวันแรก เพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงฯ โดยในวันนี้ยังไม่มีการเรียกประชุมข้าราชการ แต่ได้นัดหารือ พร้อมแบ่งงานกับรัฐมนตรีช่วยอีก 2 คน ในวันจันทร์ที่ 16 กันยายนนี้  จากนั้น ตนจะได้แถลงนโยบายการทำงานที่ชัดเจนอีกครั้ง ภายหลังการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาของรัฐบาลชุดปัจจุบัน พร้อมกันนี้ ยังได้กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรี (นส.แพทองธาร ชินวัตร) ที่ได้แต่งตั้งให้ตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งตนรู้สึกดีใจ และพร้อมทำงานร่วมกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ทั้ง 2 คน

โดยยืนยันว่า จะทำงานอย่างเต็มที่ เชื่อว่าปัญหาหลายหลายอย่างที่เกิดขึ้นเราต้องช่วยกันแก้ไขเพราะว่าเศรษฐกิจไทยที่แย่มาหลายปี จะต้องร่วมกันแก้ไข และกระทรวงพาณิชย์ จะเป็นกลไกในการปลดล็อกปัญหาหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ

ส่วนปัญหาของกลุ่มผู้ประกอบการ SME นั้น รมว.พาณิชย์ ย้ำว่า  มีความจำเ มีความจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยเฉพาะมาตรการช่วยเหลือทางการเงินเรื่องการตัดหนี้  และไม่ควรยึดหลัก Moral hazard มากเกินไป เพราะช่วง2-3 ปีที่เกิดสถานการณ์ โควิด-19 ถือเป็นความโชคร้ายของเศรษฐกิจทั้งโลก ดังนั้น การช่วยเหลือให้ผู้ประกอบการ สามารถกลับมามีรายได้ จะทำให้เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไปได้ ซึ่งหากปล่อยไว้ เศรษฐกิจก็จะแย่ลงเรื่อยๆ และหนี้ก็จะเพิ่มขึ้น ท้ายที่สุด ก็ต้องตัดหนี้อยู่ดี ดังนั้น ความร่วมมือจากแบงก์ชาติและธนาคารพาณิชย์เป็นเรื่องสำคัญ

ขณะที่ นโยบายเร่งด่วนที่จะดำเนินการ เบื้องต้นได้พูดคุยกับ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ แล้ว โดยเฉพาะเรื่องการช่วยเหลือเรื่องความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น / และดูแลราคาสินค้า เช่นเดียวกับการดูแลราคาสินค้าเกษตร ที่ต้องวางมาตรการเชิงรุกบริหารจัดการล่วงหน้า ทั้งนี้ ตนรับรู้ปัญหาของกลุ่มโรงสีข้าวแล้ว ที่ต้องการให้ช่วยเหลือสภาพคล่อง ซึ่งก็ต้องบอกกลับไปที่ ธปท. อีก เพราะขณะนี้ ไม่ใช่เฉพาะกลุ่มเกษตรกรที่ขาดสภาพคล่อง แต่ภาคธุรกิจทั้งหมด ก็ประสบปัญหานี้ด้วย ซึ่ง ธปท. ควรเติมสภาพคล่องให้มากกว่านี้ และอย่าไปกลัวเรื่องหนี้เสียที่จะเพิ่มขึ้น ควรหาแนวทางแก้ไข และอย่าเอาเรื่องหนี้เสียมาเหมารวมกัน เพราะตอนนี้เศรษฐกิจยังไม่ฟื้น ดังนั้น ต้องหาแนวทางช่วยภาคธุรกิจให้ฟื้นตัวโดยเร็ว

สำหรับ การดูแลเรื่องสินค้าจากต่างประเทศทะลักเข้าไทย นายพิชัย กล่าวว่า ไม่อยากใช้คำว่า “สินค้าจีน” เพียงอย่างเดียว เพราะจะกลายเป็นต่อต้าน โดยจีนเองก็กังวล และเห็นไทยเป็นพี่เป็นน้อง ที่ต้องหาทางออกร่วมกัน อย่างไรก็ตาม ภาพรวมงานด้านต่างประเทศ หากไทยเรามีแนวทางที่ชัดเจน ก็เชื่อว่า จะฟื้นเศรษฐกิจได้เร็ว เพราะขณะนี้จะเห็นเรื่องการลงทุนไหลเข้าประเทศเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ทั้งนี้ แนวทางการทำงานของกระทรวงพาณิชย์ นั้น เบื้องต้น จะมีการมอบนโยบาย ให้กับข้าราชการในวันจันทร์ที่ 16 ก.ย.นี้ และจะแถลงนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ที่ชัดเจนอีกครั้ง ส่วนเรื่องการแบ่งงานให้ 2 รัฐมนตรีช่วย ก็จะมีการหารือกัน คาดว่าคงไม่มีปัญหาอะไร  ซึ่งที่ผ่านมา ตนได้ทำงานทันทีหลังมีการถวายสัตย์ปฏิญาณ โดยได้หารือกับ ฑูตอินเดีย และได้พูดคุยเจรจาการค้าระหว่างประเทศร่วมกัน เพราะอินเดียถือเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่และมีความต้องการสินค้าและบริการจำนวนมาก.