“วิษณุ เครืองาม” ที่ปรึกษานายกฯ เผย “ดิจิทัลวอลเล็ต”ยังมีปัญหาบางจุด ต้องดูให้ถี่ถ้วน โดยเฉพาะหากมีคดีในชั้นศาล พร้อมระบุ “คาสิโนถูกกฎหมาย” รับบาล ทำได้ ไม่มีปัญหา

วันที่ 13 ส.ค.2567 เวลา 09.45 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการประชุมหารือกับแกนนำรัฐบาล ที่ตึกไทยคู่ฟ้า เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม ว่า ตนมาหารือเรื่องโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เป็นการทบทวนในวงเล็กๆ มี 2-3 คน เพราะเรื่องนี้วงใหญ่คุยมาแล้วหลายรอบ ซึ่งได้มีปัญหาบางประเด็น ที่ให้ไปทำรายละเอียดเพิ่มเติม

ผู้สื่อข่าวถามว่าที่บอกว่ามีปัญหาคือเรื่องอะไร นายวิษณุ กล่าวว่า มีปัญหาบางจุดเท่านั้นเอง ซึ่งทางเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกามาร่วมพิจารณาด้วย พบว่ายังมีปัญหาบางจุดที่สังคมอาจสงสัย ความจริงเขาเตรียมมาดีแล้ว แต่ยังมีบางรายละเอียดที่สังคมอาจสงสัย จึงต้องทำให้ตอบคำถามสังคมได้ ที่สำคัญต้องตอบศาลให้ได้ด้วย หากมีคดีขึ้นมา

เมื่อถามย้ำว่าเปิดเผยได้หรือไม่ว่า มีปัญหาอะไร นายวิษณุ กล่าวว่า ตนขอไม่เปิดเผย ส่วนเมื่อถามว่าเป็นปัญหาเกี่ยวกับงบประมาณหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า อย่าไปเปิดเผย เซ้าซี้ หรือซักไซ้เลย ขณะเดียวกันเมื่อถามว่า กังวลว่าจะกลายเป็นดาบกลับมาแทงรัฐบาลหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่กังวล เพียงแต่ยังไม่ครบถ้วน จึงต้องมาดูให้ถี่ถ้วน ซึ่งดีกว่าดูลวกๆ และผ่านไป ที่สำคัญทุกฝ่ายจะได้เกิดความมั่นใจ

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังถามถึง กรณีกฎหมายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ หรือ “บอนพนันเสรี” ที่รัฐบาลต้องการผลักดันนั้น นายวิษณุ กล่าวว่า จะทำก็ทำไปสิ และ เมื่อถามว่ามีความกังวลว่าจะเกิดปัญหากับสังคมไทย นายวิษณุ กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่ามีปัญหาอะไร เมื่อถามย้ำว่าในแง่กฎหมาย กังวลอะไรหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ถ้ายังไม่เห็นรายละเอียด ก็ต้องดูก่อน แต่ถ้าเห็นแล้ว สิ่งที่เราเป็นห่วงก็อาจจะหมดไป และเขาอาจจะแก้ไว้แล้ว ซึ่งตนไม่ทราบ เพราะยังไม่เห็น

เมื่อถามว่า ยังไม่เห็นร่างที่เปิดให้รับฟังความคิดเห็นใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เคยเห็นรอบหนึ่ง แต่ไม่ทราบว่าเขาจะเอาแบบนั้นหรือไม่ แต่เท่าที่ดู ไม่น่ามีปัญหาอะไร ซึ่งเมื่อรับฟังความคิดเห็นแล้ว ไม่รู้ว่ารัฐบาลไปแก้อะไรหรือไม่ เรื่องนี้ยังต้องไปอีกหลายที่ รวมถึงสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาด้วย เมื่อถามว่าขั้นตอนหลังจากศึกษาเสร็จ จะเป็นอย่างไรต่อ นายวิษณุ กล่าวว่า เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้วไปกฤษฎีกา ซึ่งระหว่างนั้น ต้องรับฟังความเห็นคู่ขนานไปด้วย จากนั้นส่งให้รัฐสภาพิจารณา และนำขึ้นทูลเกล้าฯ.