‘ระนองค้าหมาก’ พา ‘หมาก’ ไทยโกอินเตอร์ – SME D Bank เติมทุนเสริมแกร่ง หนุนธุรกิจเติบโตเต็มศักยภาพ
ต้นหมากสูงเรียงราย ออกผลหลายทะลาย ถือเป็นพืชที่มากประโยชน์ จนกลายเป็นหนึ่งวัตถุดิบที่ชาวต่างชาติหมายปอง สั่งซื้อกันไม่ขาดสาย โดยมีผู้ประกอบการ “ระนองค้าหมาก” รวบรวมผลหมากของไทย พาโกอินเตอร์ต่อเนื่องมายาวนานกว่า 24 ปี
เกิดจากความบังเอิญและประสบการณ์ที่สะสม คุณนิภา ตาครุฑ หรือ คุณโบว์ เจ้าของ บริษัท ระนองค้าหมาก จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจรับซื้อและจำหน่ายหมากอบแห้ง จังหวัดระนอง เล่าถึงจุดเริ่มต้นของธุรกิจ ว่า จากมนุษย์เงินที่ทำงานประจำและหารายได้เสริม ด้วยการนำสินค้าของประเทศไทยไปขายยังประเทศเมียนมาร์ (พม่า) ทำให้ตัวเองได้รู้จักกับพ่อค้าแม่ค้าเมียนมาร์ ในเวลานั้นมีการพูดคุยขอให้หาหมากมาส่งขาย เพื่อไปจำหน่ายต่อ กลายเป็นจุดพลิกผันเริ่มเข้าสู่วงการนี้อย่างจริงจัง เพราะเห็นถึงโอกาสของธุรกิจและความต้องการของผู้บริโภคที่มีจำนวนมาก
“ช่วงแรกยอมรับว่าเป็นการทดสอบและเรียนรู้เกี่ยวกับธุรกิจค้าหมาก แต่เมื่อเราเข้าใจการทำธุรกิจแล้ว จึงลงพื้นที่ลุยตลาดเข้าไปพูดคุยกับชาวสวนที่ปลูกหมากในจังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดปัตตานี โดยรับซื้อผลผลิตจากต้นหมากสุก นำมาเข้าสู่กระบวนการปลอก หั่น และอบแห้ง เพื่อจำหน่ายเป็นวัตถุดิบให้กับพ่อค้าแม่ค้าในต่างประเทศที่สนใจ”
แกนหลักของธุรกิจ “ระนองค้าหมาก” คือ การรับซื้อและจำหน่ายหมากอบแห้ง เพื่อเป็นวัตถุดิบส่งออกไปยังต่างประเทศ เนื่องจากหมากเป็นผลผลิตทางการเกษตรที่มีความต้องการสูงในประเทศต่าง ๆ เช่น อินเดียบังกลาเทศ ปากีสถาน เนปาล และอิหร่าน รวมถึงประเทศต่าง ๆ ในตะวันออกกลาง โดยหมากอบแห้ง ถือเป็นวัตถุดิบที่สำคัญนำไปแปรรูปเป็นของกินเล่นได้มากกว่า 2,000 ชนิด รวมถึง หมากยังใช้เป็นส่วนประกอบของการทำพิธีกรรมทางศาสนาอีกด้วย
สำหรับระนองค้าหมาก ถือเป็นรายใหญ่ที่สุดในจังหวัดระนองที่รับซื้อหมากจากทั่วประเทศ ทั้งรูปแบบของพ่อค้าแม่ค้าคนกลางนำมาขายส่ง หรือเป็นผลผลิตจากชาวสวนมาขายโดยตรงก็รับซื้อเช่นกัน ส่วนราคาขึ้นอยู่กับผลผลิตที่มาจำหน่ายแตกต่างกันขึ้นอยู่กับความแห้งของหมาก หากทำการแปรรูปเป็นหมากแห้งมาและตรงกับมาตรฐานที่กำหนดไว้ก็จะได้ราคาที่สูงกว่าผลสด
คุณนิภา เล่าว่า ปัจจุบันมีสต๊อกหมาก เพื่อใช้ในการส่งออกประมาณ เดือนละ 1,000 ตัน สามารถรองรับความต้องการจากคำสั่งซื้อที่มีเข้ามาได้อย่างเสมอ แบ่งการตลาดเป็นบริษัทส่งออกตรงอยู่ที่ 50% และส่งต่อให้กับบริษัทที่รับช่วง อยู่ที่ 50% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพ่อค้าแม่ค้าจากเมียนมาร์ที่รับซื้อหมากของเราไปจำหน่ายต่อ เนื่องจากประเทศเมียนมาร์มีอาณาเขตที่ใกล้กับประเทศอินเดีย
สถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา บริษัทไม่ได้รับผลกระทบเนื่องจากการสต๊อกสินค้าที่รองรับคำสั่งซื้อได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ธุรกิจยังเดินหน้าได้ตามปกติ แต่ปัจจุบันภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำอย่างมาก เมื่อเทียบปีที่ผ่านมา ส่งผลให้กำลังซื้อปรับตัวลดลง กดดันราคาหมากปรับลดลงจากเดิมที่เฉลี่ยกิโลกรัมละ 50 บาท เหลือเพียงกิโลกรัมละ 20 บาท เท่านั้น
ปัจจุบัน “ระนองค้าหมาก” ทำตลาดด้วยการเร่งระบายสต๊อก พร้อมปิดความเสี่ยงเรื่องค่าเงิน ด้วยการการซื้อขายรูปแบบสกุลเงินบาท ควบคู่กับบริหารจัดการต้นทุน โดยกำหนดราคารับซื้อสอดคล้องกับความต้องการของตลาด ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank พาเข้าถึงแหล่งเงินทุน เสริมสภาพคล่องธุรกิจ ช่วยให้เรามีเงินทุนหมุนเวียนที่เพียงพอในการบริหารจัดการสต๊อก และรับมือกับผลผลิตจะเริ่มทยอยออกมาจำนวนมาก ช่วงเดือน กุมภาพันธ์-เมษายน ของทุกปี
ที่สำคัญ ยังเป็นการส่งต่อรายได้ให้กับคนในชุมชนโดยรอบ เพราะการรับซื้อแต่ละครั้ง เราจะส่งผลหมากสุกให้แม่บ้านในพื้นที่ที่สนใจปลอกหมาก หั่นหมาก เพื่อเข้าสู่กระบวนการอบแห้ง ช่วยให้เขาเหล่านั้นได้มีอาชีพเสริมและมีรายได้เพิ่มอีกทางหนึ่ง
สำหรับ แนวทางการทำธุรกิจ การใส่ใจรายละเอียดของข้อมูลเป็นเรื่องสำคัญ แม้ปัจจุบันราคาหมากจะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ แต่มั่นใจว่ายังเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค ควบคู่กับการลงพื้นที่ตามจังหวัดต่าง ๆ ที่ปลูกหมาก เพื่อสำรวจผลผลิตที่จะเกิดขึ้นในอนาคต นำมาวางแผนธุรกิจและกำหนดราคารับซื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ.