‘จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์’ รมช.คลัง ระบุ กระทรวงพาณิชย์ สามารถดึงร้านค้าร่วม ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ ได้ 3 ล้านร้านค้า แจงร้านสะดวกซื้อเอาด้วยแค่ 5 หมื่นร้าน

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงกรณีรายการห้ามซื้อในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ว่าขณะนี้ยังคงปรับเพิ่มปรับลดได้ เพื่อความยืดหยุ่นในการทำโครงการ แต่หลักคิดของเราคือเมื่อนำเงินลงไปแล้วต้องกระตุ้นเศรษฐกิจ เกิดการจ้างงาน เกิดการผลิตภายในประเทศ สินค้าที่โดนตัดออกล้วนแล้วแต่เป็นการนำเข้าประเทศ เช่น น้ำมัน มือถือที่เมื่อซื้อแล้วเงินออกประเทศทันที เป็นต้น ดังนั้น จึงมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) โดยความยินยอมคณะอนุกรรมการกำกับนโยบาย เป็นผู้ดูแลด้านนี้ อย่างไรก็ตามมีการพูดคุยถึงเรื่องว่าจะซื้อยุทโธปกรณ์ได้หรือไม่ ตามหลักคิดก็คือไม่ได้ แต่ทั้งนี้ก็มอบหมายให้ พณ.พิจารณาเพิ่มเติม

“ประเด็นเรื่องข้อห่วงใยร้านใหญ่ร้านเล็ก เราพยายามสูงที่สุดในการพยายามกำหนดพื้นที่ตั้งแต่ระดับอำเภอ กำหนดขนาดร้านค้า เพื่อให้เงินตกอยู่กับรายย่อยมากที่สุด ยืนยันว่าจะสามารถดึงร้านค้าเข้าร่วมโครงการไม่ต่ำกว่า 2-3 ล้านร้านค้า เช่น ร้านค้าที่อยู่ในกลุ่มของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ร้านธงฟ้า ร้านในกลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน ร้านโชว์ห่วย หาบเร่ แผงลอย ตลาดนัด ซึ่งให้กรมปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินการ”นายจุลพันธ์ กล่าว

นายจุลพันธ์ กล่าวต่อว่า ประเด็นเรื่องร้านค้าส่ง ค้าปลีก ร้านสะดวกซื้อ จะมีเพียง 5 หมื่นร้านที่น่าจะเข้าร่วม ส่วนมากเป็นร้านขนาดเล็กของประชาชน ร้านสหกรณ์ แต่ต้องเข้าใจว่าโครงสร้างเศรษฐกิจไทยมีความสุ่มเสี่ยงที่จะไหลไปทางนั้นได้ สำหรับรัฐบาลพยายามกระตุ้นให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ การจะดัดโครงสร้างทางธุรกิจด้วยกลไกนโยบายนี้คงไม่ได้ แต่เราก็ต้องอุดหนุนให้ร้านค้าขนาดเล็กมีความเข้มแข็ง แม้เงินบางส่วนอาจต้องใช้ในร้านค้าที่ฝ่ายค้านเป็นห่วง แต่ต้องยอมรับว่าร้านค้าเหล่านี้ไม่ใช่ผู้ผลิต สุดท้ายยังต้องส่งต่อเม็ดเงินไปยังผู้ผลิตสินค้าต่อไป.