คลังพอใจกรอบเงินเฟ้อที่ 2% ชี้! ที่ผ่านมาต่ำกว่า 1% ต่อเนื่องนานแล้ว หวั่นกระทบภาคการผลิตและส่งออก ระบุ! หากถึงขั้นเกิดภาวะเงินฝืดยิ่งเป็นอันตรายต่อเศรษฐกิจไทย ลั่น! นัดถกแบงก์ชาติ หวังร่วมหากรอบเงินเฟ้อที่เหมาะสมต่อการขับเคลื่อนเศรษฐไทยในเร็วๆ นี้

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรอบภาวะเงินเฟ้อว่า ปัจจุบันยังคงอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำกว่าร้อยละ 1 ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อแรงจูงใจในภาคการผลิตของผู้ประกอบการ และภาคการส่งออก รวมถึงหากกรอบเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับนี้ต่อเนื่องนานๆ อาจส่งผลกระทบต่อปัญหาภาวะเงินฝืด ซึ่งเป็นเรื่องอันตรายต่อภาวะเศรษฐกิจในภาพรวมได้

อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลัง โดย สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้พิจารณาตัวเลขกรอบเงินเฟ้อในปีนี้ โดยอยู่ในช่วงร้อยละ 1-3 ซึ่งค่าเฉลี่ยที่ร้อยละ 2 เป็นสิ่งรัฐบาลและกระทรวงการคลังรับได้ โดยเร็วๆ นี้ ตนจะได้หารือกับทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อร่วมกำหนดถึงเป้าหมายของกรอบภาวะเงินเฟ้อต่อไป 

“เชื่อว่าทุกฝ่ายจะยอมรับกรอบภาวะเงินเฟ้อที่อัตราร้อยละ 2 ได้” นายพิชัย กล่าวและว่า ส่วนมุมมองที่หลายฝ่ายเห็นว่า อัตราที่เหมาะสมต่อการจะกระตุ้นเศรษฐกิจที่ดีคือควรจะเป็นร้อยละ 3 นั้น ส่วนตัวคิดว่าไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนก็จะต้องควบคุมให้ได้ ซึ่งหากกรอบภาวะเงินเฟ้อขยับขึ้นไปถึงร้อยละ 3 อาจส่งผลต่อปัญหาเงินเฟ้อบ้าง แต่เชื่อว่าเราสามารถจะควบคุมได้ 

ผู้สื่อข่าวตั้งข้อสังเกตว่า ปัจจุบันสินค้าจำเป็นหลายตัว เช่น น้ำมันดีเซล ก๊าซหุงต้ม รวมถึงไข่ไก่ต่างก็ปรับราคาขึ้นไปจนกดดันทำให้เกิดปัญหาเงินที่ระดับใกล้เคียงร้อยละ 3 อยู่แล้ว นายพิชัย กล่าวว่า เรื่องนี้คงต้องไปดูในรายละเอียดเพราะสินค้าดังกล่าวมีราคาปรับขึ้นลงได้ตามกลไกราคาตลาดและความต้องการในช่วงเวลานั้นๆ บางครั้งมีการปรับราคาขึ้นมา บางครั้งก็มีการปรับลดราคาลงไป ไม่น่าจะส่งผลต่อภาวะเงินเฟ้อมากนัก.