‘สรรพสามิต’ ร่วม ตร.ภูธรภาค 5 จับ ‘บุหรี่-เหล้าเถื่อน’ กว่า 13 ล. ได้ที่ บ.ขนส่งเอกชน จ.เชียงใหม่
กรมสรรพสามิต บูรณาการร่วมกับตำรวจภูธรภาค 5 บุกจับบุหรี่และเหล้าเถื่อนได้เป็นจำนวนมากที่บริษัทขนส่งเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ขณะกำลังลำเลียงพัสดุเพื่อส่งต่อ เผย! คิดปรับเป็นเงินกว่า 13 ล้านบาท
ดร. นิตยา โสรีกุล รองอธิบดีกรมสรรพสามิต ในฐานะโฆษกกรมสรรพสามิต กล่าวว่า เจ้าหน้าที่สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่เชียงใหม่nและสำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 5 ได้บูรณาการการปฏิบัติงานปราบปรามกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวน 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 จับบุหรี่ซิกาแรตต่างประเทศ และสุราต่างประเทศมิชอบด้วยกฎหมายซุกซ่อนในกล่องพัสดุ ที่โกดังขนส่งสินค้า ต.หนองผึ้ง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ของกลางแบ่งเป็นบุหรี่ซิกาแรตต่างประเทศ จำนวน 14,712 ซอง ประมาณการค่าภาษี 923,913.60 บาท ประมาณการค่าปรับ 13,858,704.00 บาท และสุราต่างประเทศ จำนวน 31 ขวด ประมาณการค่าภาษี 7,363.93 บาท ประมาณการค่าปรับ 110,458.95 บาท รวมประมาณการค่าปรับทั้งสิ้น 13,969,162.95 บาท เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2567
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สรรพสามิต ได้รับแจ้งเบาะแสว่าจะมีการลำเลียงสินค้าผิดกฎหมายผ่านบริษัทขนส่งเอกชนแห่งหนึ่งที่อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ จากการสั่งซื้อทางแพลตฟอร์มออนไลน์ จึงได้มีการสืบหาข้อมูลจนทราบผู้กระทำผิด พร้อมได้บูรณาการความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้น โดยพบผู้กระทำความผิดจำนวน 1 ราย จึงได้แจ้งข้อหาตามมาตรา 204 ขายหรือมีไว้เพื่อขายซึ่งสินค้าที่เป็นสินค้าที่มิได้เสียภาษีหรือเสียภาษีไม่ครบถ้วน แห่ง พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 เพื่อดำเนินคดีต่อไป
“การจับบุหรี่ซิกาแรตและสุราต่างประเทศที่มิชอบด้วยกฎหมายได้เป็นจำนวนมากในครั้งนี้ เป็นผลจากการที่กรมสรรพสามิตยกระดับและเร่งรัดงานปราบปรามสินค้ามิชอบด้วยกฎหมายทั้งในด้านการสืบค้นข้อมูล และการบูรณาการความร่วมมือการปฏิบัติงานด้านการปราบปรามกับหน่วยงานภายนอก ตามนโยบายของ ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต ที่ให้ความสำคัญอย่างมากกับการปราบปรามผู้กระทำผิดตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 อย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้สินค้าผิดกฎหมายหลุดลอดออกไปสู่พี่น้องประชาชน เพราะจะส่งผลต่อความปลอดภัยด้านสุขภาพ อีกทั้งยังสร้างความเสียหายต่อผู้ประกอบการที่เสียภาษีโดยสุจริตและส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ” ดร. นิตยา กล่าว
ทั้งนี้ หากประชาชนท่านใดทราบเบาะแสหรือพบเห็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับสินค้าที่ต้องเสียภาษีสรรพสามิต สามารถแจ้งโดยตรงได้ที่กรมสรรพสามิต หรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ทุกแห่งทั่วประเทศ หรือสายด่วน 1713 หรือตรวจสอบและสแกน Qr Code ที่แสดงบนแสตมป์สรรพสามิต เพื่อแจ้งเบาะแสได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรืออีเมล์ excise_hotline@excise.go.th.