‘ดร.เอก์’ นำทัพต่อ ส.นักข่าวต้านโกง สมัยที่ 4 – ประกาศเดินหน้าสร้างต้นกล้าธรรมภิบาล
‘ดร.เอก์ เหลืองสอาด’ ฉลุยนั่งนายกฯ สื่อต้านโกง! สมัยที่ 4 ลุยเชิงรุก “ส่อง จนท.รัฐคอร์รัปชั่น” พร้อมเดินหน้าดันสภาธรรมาภิบาลฯ ดัน “สภาธรรมาภิบาลนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย” ให้เกิดเป็นรูปธรรมโดยเร็ว พร้อมรุดหารือ รมว. อว. สร้างแนวทางดำเนินงาน ด้าน “อลงกรณ์ พลบุตร” พร้อมหนุนสร้างต้นกล้าที่เห็นความสำคัญของหลักธรรมาภิบาล และร่วมต่อต้านการคอร์รัปชั่นในทุกรูปแบบ
เมื่อช่วงสายวันที่ 18 พฤษภาคม 2567 ณ สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต, สมาคมผู้สื่อข่าวต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) ภายใต้การนำของ ดร.เอก์ เหลืองสอาด นายกสมาคมฯ จัดประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2567 โดยมีสมาชิกสมาคมฯ ซึ่งเป็นตัวแทนสื่อมวลชนทุกแขนง ทั้งหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ และสื่อออนไลน์ เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง ทั้งนี้ วาระการประชุมฯที่สำคัญ คือ การเลือกตั้งนายกสมาคมฯ และกรรมการบริหารสมาคมฯ ชุดใหม่ แทนชุดเก่าที่หมดวาระการดำเนินงานลงมาก่อนหน้านี้ ซึ่งผลการเลือกตั้ง ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์เลือก ดร.เอก์ เหลืองสอาด ให้ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมฯ อีกสมัย นับเป็นสมัยที่สี่ติดต่อกัน
ดร.เอก์ กล่าวขอบคุณสมาชิกฯ ทุกท่าน ที่ไว้วางใจให้ทำหน้าที่นายกสมาคมฯ อีกสมัย พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติรณรงค์ต่อต้านการทุจริตอย่างเข้มข้น เพื่อประโยชน์ของประชาชนและชาติบ้านเมือง จะทำหน้าที่สื่อที่ดีสอดส่องการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐที่ส่อไปในทางทุจริต ประพฤติมิชอบ ตีแผ่ความไม่โปร่งใสในองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน เพื่อเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ สมาคมฯ ได้เร่งผลักดันโครงการ “สภาธรรมาภิบาลนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย” ให้เกิดเป็นรูปธรรม ล่าสุดได้ประสานความร่วมมือกับสถาบันอุดมศึกษาทั่วประเทศ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ก่อนที่จะนำข้อสรุปโครงการดังกล่าวเข้าปรึกษาหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เพื่อเป็นแนวทางการดำเนินงานโครงการสำคัญนี้ต่อไป
ด้าน นายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานการจัดมอบทุนการศึกษาแก่บุตรธิดาของสมาชิกสมาคมฯประจำปี 2567 เพื่อแบ่งเบาภาระให้ครอบครัวพี่น้องสื่อมวลชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจในปัจจุบัน กล่าวถึงโครงการ “สภาธรรมาภิบาลนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย” ตอนหนึ่งว่า ตนได้ทราบถึงความตั้งใจจริงในการขับเคลื่อนสมาคมผู้สื่อข่าวต้านคอร์รัปชั่นฯ มาโดยตลอด ซึ่งการทุจริตคอร์รัปชั่น เป็นปัญหาใหญ่ของประเทศมายาวนาน ในฐานะที่ตนเคยทำหน้าที่ประธานคณะกรรมการตรวจสอบทุจริตของพรรคร่วมฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ก็ได้ติดตาม ตรวจสอบการคอร์รัปชั่นมาอย่างต่อเนื่อง จนมีคดีความฟ้องร้องกันในกระบวนการยุติธรรมหลายคดี ทั้งนี้ การจัดอันดับดัชนีความโปร่งใส หรือ CPI คอร์รัปชั่นไทยสูงถึงอันดับ 101 จากต้นตอปัญหามากมาย ทั้งซื้อตำแหน่ง กินสินบาทคาดสินบน หรือแม้กระทั่งส่วย ซึ่งต้องยอมรับว่าปัจจุบัน กระบวนการบังคับใช้กฎหมาย อยู่ในขั้นวิกฤติ
นายอลงกรณ์ ย้ำว่า วิถีชีวิตสื่อมวลชนที่ทำหน้าที่ตรวจสอบ ชี้เบาะแส นำเสนอข่าวสารให้สาธารณชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับรู้ถึงปมทุจริตต่างๆ ทำให้สื่อมวลชนมีความเสี่ยง ต้องเผชิญกับอันตรายที่อาจจะขึ้น เพราะผลประโยชน์ที่เข้าไปปกป้องประเทศชาติและส่วนรวม ได้ไปทลายผลประโยชน์ของพวกทุจริต ดังนั้น สื่อมวลชนจึงมีบทบาทสำคัญยิ่งต่อการลดคอร์รัปชั่นในประเทศไทย เนื่องจากในแต่ละปี เราได้สูญเงินงบประมาณแผ่นดินไม่น้อยกว่า 3 แสนล้านบาท ที่ถูกขบวนการคอร์รัปชั่นกัดกินไปจากผืนแผ่นดินไทย
“การที่สมาคมผู้สื่อข่าวต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) ได้จัดตั้งสภาธรรมาภิบาลนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย จึงเป็นเรื่องที่ดีและทุกฝ่ายควรจะสนับสนุน ทั้งนี้ ในเมื่อเราไม่สามารถเอาไม้แก่มาดัดได้ ก็ต้องสร้างต้นกล้าที่เห็นความสำคัญของหลักธรรมาภิบาล และร่วมต่อต้านการคอร์รัปชั่นในทุกรูปแบบ จึงขอเป็นกำลังให้กับสมาคมฯ ในการขับเคลื่อนธรรมาภิบาล ต่อต้านการทุจริตในสังคมไทยต่อไป” นายอลงกรณ์ ระบุ.