เริ่มแล้ววันนี้ (27) กยศ.เปิดช่องลูกหนี้ทุกกลุ่มนัดวันทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้
“กยศ. พร้อมให้ผู้กู้ทุกกลุ่มที่ผิดนัดชำระได้กลับมาทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ใหม่ เริ่มจริง! 15 ก.พ.นี้เป็นต้นไป เชื่อช่วงแรกมีคนสนใจเยอะมาก จัดเวลารองรับ 09.00 – 20.00 น. ไม่เว้นวันหยุด นำร่องที่ส่วนกลาง ก่อนขยายไปยังจังหวัดอื่นๆ เผย! เปิดช่องให้ลงทะเบียนนัดวันทำสัญญาได้แล้วตั้งแต่ 27 ม.ค. 2567 มั่นใจลูกหนี้จะกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ และมีเงินส่งต่อโอกาสให้รุ่นน้อง ระบุ! คืนเงินในอัตราเท่ากันทุกเดือน ภายใน 15 แต่ไม่เกินอายุ 65 ปีเต็ม
นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้กองทุนฯ ได้เตรียมดำเนินการทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อช่วยเหลือและแบ่งเบาภาระของผู้กู้ยืมที่อยู่ระหว่างการชำระเงินคืนให้เป็นไปตามประกาศหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา และตามพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566 โดยผู้กู้ยืมที่มีสิทธิ์เข้าทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ ได้แก่ กลุ่มก่อนฟ้องคดี กลุ่มที่บอกเลิกสัญญาแล้วแต่ยังไม่ฟ้องคดี กลุ่มที่ฟ้องคดีแล้วแต่ศาลยังไม่มีคำพิพากษา กลุ่มที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วแต่ยังไม่บังคับคดีและได้บังคับคดีแล้ว รวมทั้งกลุ่มอื่น ๆ ทั้งหมด
กำหนดเงื่อนไขให้ผู้กู้ยืมจะต้องผ่อนชำระเงินคืนกองทุนฯ เป็นรายเดือนในอัตราเท่ากันทุกเดือน ผู้กู้ยืมต้องชำระภายในวันที่ 5 ของทุกเดือนให้เสร็จสิ้นภายใน 15 ปี และในการชำระเงินงวดสุดท้าย ผู้กู้ยืมต้องมีอายุไม่เกิน 65 ปีบริบูรณ์
ทั้งนี้ ผู้กู้ยืมสามารถลงทะเบียนนัดหมายเข้าทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ได้ตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม 2567 ทางเว็บไซต์ www.studentloan.or.th และจะเริ่มทำสัญญาได้ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 เป็นต้นไปที่สำนักงานของกองทุนฯ หลังจากนั้น จะเริ่มเปิดให้ผู้กู้เข้าทำสัญญาได้ตามจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ ซึ่งกองทุนฯจะได้ประกาศให้ทราบต่อไป
“ในช่วงแรกคาดว่าจะมีลูกหนี้เข้ามาทำสัญญาจำนวนมาก ดังนั้น ในช่วง 3 เดือนแรกกองทุนฯ จะเปิดให้เข้ามาทำสัญญาทุกวันไม่เว้นวันหยุดเวลา 09.00 – 20.00 น. ซึ่งการปรับโครงสร้างหนี้ดังกล่าว จะส่งผลให้ผู้กู้สามารถกลับมาชำระหนี้ได้ตามปกติ ปลดภาระผู้ค้ำประกัน รวมถึงลดกระบวนการดำเนินคดี/บังคับคดี ซึ่งคาดว่า จะมีเงินกลับเข้ามาที่กองทุนฯ อย่างต่อเนื่อง และทำให้มีเงินหมุนเวียนเพื่อส่งต่อโอกาสทางการศึกษาให้แก่นักเรียน นักศึกษา รุ่นน้องต่อไป” ผู้จัดการกองทุนฯ กล่าวในที่สุด.