“ศิริกัญญา”โต้ไม่ได้อ่านรายงาน’แลนด์บริดจ์‘ผิดฉบับ ระบุแค่ข้อมูลไม่ตรงกัน แนะรื้อรายงานการศึกษาใหม่ทั้งหมดก่อนเอาไปโชว์นักลงทุน ยันไม่ได้เจตนาโจมตีโครงการ เพราะเล่นการเมือง เพียงต้องการอยากถกข้อเท็จจริง

เมื่อวันที่ 23 ม.ค.ที่รัฐสภา น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล (กก.) กล่าวถึงกรณี ที่ถูกบรรดารัฐมนตรี ออกมาตอบโต้เรื่อง รายงานกมธ.โครงการแลนด์บริดจ์ โดยระบุว่าตนอ่านรายงานผิดฉบับ และ เป็นเรื่องของจินตนาการ ว่าการอ่านรายงานผิดฉบับจริงๆแล้ว นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม อาจไม่ได้สื่อโดยตรงว่าผิดฉบับ แต่อาจจะเป็นเพราะข้อมูลไม่ตรงกัน ตนอยากเรียนว่า ตัวรายงานที่ต้องให้ความสำคัญมากที่สุดคือ รายงานของสำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ไม่ใช่รายงานของ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หรือ ของ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เพราะตัวรายงานของ สนข.จะเป็นตัวกำหนดว่า จะเป็นท่าเรือขนาด 20 ล้านตู้ทั้งสองฝั่ง รวมถึงเป็นตัวที่กำหนดเม็ดเงินการลงทุน เพราะตอนนี้เราเข้าสู่โหมด ที่จะไปเชิญชวนนักลงทุน แต่รายละเอียดหลายๆอย่างยังไม่มีความชัดเจน

ดังนั้นในวันนี้ ตนในฐานะกมธ.พิจารณาร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 67 จะเข้าร่วมประชุมด้วย หากเจอ สนข.ก็จะขอถามว่าจะทำอย่างไรกันต่อ เพราะในขณะที่ รมช.คมนาคม ยังพูดว่าท่อส่งน้ำมันมีอยู่ในรายงานของกมธ. แต่ไม่มีอยู่ในรายงานของสนข.และ เมื่อวันที่ 22 ม.ค. ที่ผ่านมา โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) ก็ออกมายืนยันว่าไม่มีท่อส่งน้ำมันเช่นเดียวกัน ดังนั้นเชื่อว่า จะต้องมีอะไรที่ผิดพลาดตรงไหนสักที่หนึ่ง ถ้าเป็นไปได้ทางออกที่ง่ายที่สุด เพื่อให้รายละเอียดต่างๆเข้าใจตรงกันและสมเหตุสมผล คือรื้อรายงานของสนข.มาพิจารณาใหม่อีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะนำไปทำเอกสาร เพื่อทำการโรดโชว์กับนักลงทุนต่างประเทศ

ต่อข้อถามว่า การทำรายงานใหม่อาจต้องใช้เวลานาน น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับว่ารายละเอียดที่เพิ่มเติมและแตกต่างออกไปมีมากน้อยเพียงใด แต่เราไม่สามารถ ที่จะใช้ตัวรายงานที่มีรายละเอียดไม่ตรงกัน ไม่ว่าจะเป็น นายกรัฐมนตรีพูดอย่าง รมช.คมนาคม ก็พูดเหมือนนายกรัฐมนตรี แต่โฆษกพรรคเพื่อไทยกลับพูดอีกอย่าง สนข.ก็พูดอีกอย่าง รายงานพูดอีกอย่าง ถ้าเป็นอย่างนี้ คงไม่สามารถผลิตเป็นตัว ที่เป็นเอกสารสำหรับเชิญชวนนักลงทุนได้ เพราะครั้งนี้เป็นการร่วมทุนแบบระหว่างรัฐกับเอกชน ไม่ได้เป็นการให้สัมปทานที่ดินกับนักลงทุนที่เขาจะไปจินตนาการอย่างไรก็ได้ ว่าเขาจะทำอะไรก็ได้กับที่ดินของรัฐ โดยที่ขอแค่ให้มีท่าเรือสองท่า และ มีทางเชื่อมระหว่างสองท่าเรือเท่านั้น แต่พอเป็นรูปแบบนี้ เราต้องลงรายละเอียดในเรื่องของการออกแบบว่า เราจะกำหนดให้เขามาสร้างและแบ่งปันผลประโยชน์กันอย่างไรในอนาคต ไม่ว่าจะใช้งบประมาณเท่าใด

“เท่าที่ทราบรัฐจะออกน้อยหน่อย คือออกแค่ค่าเวนคืน แต่ก็ยังเป็นเงินภาษีของประชาชน ที่ต้องควักตังค์จ่ายในเรื่องของแลนด์บริดจ์อยู่ดี ดังนั้นต้องเคลียร์รายละเอียดให้สมเหตุสมผล รวมไปถึงการประมาณการณ์ต่างๆไม่ให้มันเวอร์เกินจริง ไม่ให้มันสวยหรูเกินไป นักลงทุนอาจมีความสนใจมากขึ้นก็ได้” น.ส.ศิริกัญญากล่าว

เมื่อถามว่า ถ้ารัฐบาลไม่รับฟังและยังคงมุ่งที่จะเดินหน้าโครงการแลนด์บริดจ์ต่อไป จะดำเนินการอย่างไร น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่าจะเดินหน้ากันต่อได้อย่างไร ในเมื่อตัวรายงานยังมีปัญหาอยู่แบบนี้ ถ้าใครบอกว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวรอให้นักลงทุนเขาเข้ามาประเมินความคุ้มค่าได้ด้วยตัวเอง ดังนั้นพอ สนข.เข้ามาของบประมาณในส่วนที่เหลือของรายงานฉบับนี้ ตนขออนุญาตตัดในส่วนที่เหลือเลยแล้วกัน และไม่ต้องทำต่อแล้ว รวมถึงเอกสารเชิญชวนด้วย เพราะไม่รู้ว่าจะเอาเครื่องมือที่ไหนมาทำงานต่อว่า จะต้องไปโชว์กับนักลงทุน และ มติครม.ก็ออกมาแล้วว่าคุ้มค่าเหลือเกินใน 24 ปี แล้วเราจะทำอย่างไรกันต่อในเรื่องนี้ แต่ก็ขอให้ทบทวนกันอีกสักครั้ง เสียเวลากันอีกไม่นาน เพื่อให้เกิดความมั่นใจกับทุกภาคส่วน รวมถึงนักลงทุนด้วย

เมื่อถามว่าโครงการแลนด์บริดจ์ ดูเหมือนจะเป็นการเมืองระหว่างสองพรรคไปแล้ว น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ในเมื่อเราอยู่ในประเทศ ที่ดูเหมือนจะเป็นประชาธิปไตย จะมีเรื่องอะไรที่ไม่เกี่ยวกับการเมืองบ้าง เราไม่ได้มุ่งเข้ามาโจมตีโครงการนี้เพียงเพราะว่าต้องการดิสเครดิต หรือ ทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาล สิ่งที่เราทำคือเอาข้อเท็จจริงมาโชว์กัน ซึ่งคำถามบางที ก็ถามแต่รัฐบาล เราตั้งคำถามไปที่ตัวหน่วยงานรัฐ ดังนั้นหน้าที่ของรัฐบาลคือการออกมาให้ข้อเท็จจริง และ ความกระจ่างเพื่อให้สิ้นสงสัยเท่านั้น ทุกวันนี้ไม่ได้มีความพยายามที่จะโจมตีให้โครงการดูเลวร้ายอะไรเลย เราแค่ต้องการข้อเท็จจริงในเรื่องสมมุติฐานต่างๆของโครงการ ซึ่งเป็นเรื่องพื้นฐานมากๆ แต่ตนกลับถูกโจมตีทางการเมือง ไปเล่นว่า ตนขาดประชุมกมธ.แลนด์บริดจ์ 2 ครั้ง รวมทั้งมาสายด้วย อย่างนี้ใครกันแน่ ที่กำลังเล่นการเมือง อย่างไรก็ตาม หากเขาตอบคำถามได้ทุกประเด็นเราก็มูฟออนและไม่ได้มาสนใจโครงการนี้ต่อไป และขอฝากทวงคำถามให้ด้วย เพราะโฆษกพรรคเพื่อไทยให้มา 18 คำตอบ ไม่ค่อยตรงที่ตนถามไป 7 คำถามสักเท่าไร ซึ่งตนก็รอคอยคำตอบอยู่.