ป.ป.ส.อายัดทรัพย์ ‘สว.อุปกิต’ เงิน 28 บัญชี-ที่ดิน 285 ล้าน พบเงินต่างประเทศอีก 600 ล้าน
สำนักงาน ป.ป.ส. มีคำสั่งอายัดทรัพย์สิน “อุปกิต ปาจรียางกูร” สมาชิกวุฒิสภา 28 บัญชี รวมกว่า 3 ล้านบาท ที่ดิน29แปลง กว่า 282 ล้าน และยังพบเงินในต่างประเทศอีก 600 ล้าน หลัง ศาลมีคำพิพากษา มีความเห็นฐานฟอกเงิน และมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรข้ามชาติ
วันที่ 23 พ.ย.2566 ที่ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส. ) พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วย ผบ.ตร. รักษาราชการแทนเลขาธิการ ป.ป.ส. เปิดเผยความคืบหน้าการติดตามยึดอายัดทรัพย์สินของนายอุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ.2564 ว่า
เมื่อวันที่ 15 พ.ย. ตนได้ออกคำสั่งอายัดทรัพย์สินต่างๆ อาทิ บัญชีธนาคาร 28 บัญชี เป็นเงินกว่า 3,000,000 บาท และวานนี้ (22 พ.ย.) ได้อายัดที่ดิน จำนวน 29 แปลง มูลค่า 282 ล้านบาท และจะต้องทยอยอายัดอย่างต่อเนื่องเพราะมีการสืบทรัพย์สินรายการอื่นๆ อยู่ที่ใดบ้าง
“หากเป็นรถยนต์หรู ก็จะต้องหาตัวรถให้เจอถึงจะดำเนินการได้ และหลังจากนี้ก็จะมีการเปิดปฏิบัติการอีกครั้งหนึ่งสำหรับการสืบทรัพย์สินที่เหลือว่าอยู่ที่ไหน และทรัพย์สินเหล่านั้นมีที่มาที่ไปอย่างไร ทั้งนี้ หากย้อนไปเมื่อวันที่ 25 ต.ค.65 นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. ในขณะนั้น ได้มีการออกคำสั่งอายัดทรัพย์สิน โดยอายัดเป็นเงินสดของ สว.อุปกิตไว้แล้ว จำนวน 200,000 บาท”
นอกจากนี้ ได้ตรวจสอบพบว่ายังมีทรัพย์สินที่เป็นเงินมูลค่ากว่า 600 ล้านบาท ที่ถูกถ่ายโอนไปยังต่างประเทศ จากนี้จะขอความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยการทำหนังสือส่งไปยังอัยการสูงสุดเพื่อประสานกองความร่วมมือระหว่างประเทศ ดำเนินการยึดอายัด พร้อมให้ความมั่นใจว่า ป.ป.ส. ยังคงอยู่ระหว่างการตรวจสอบรายการทรัพย์สินอื่นๆ เพิ่มเติม และจะออกคำสั่งยึดและอายัดต่อไป เพราะจะต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าทรัพย์สินรายการใดบ้างที่มาจากการกระทำความผิดในเรื่องยาเสพติด หรือทรัพย์สินนั้นมาจากการประกอบอาชีพสุจริตจริงๆ
โดยก่อนหน้านี้ พนักงานอัยการคดียาเสพติด ร่วมกับพนักงานสอบสวน บช.ปส.3 เห็นควรสั่งฟ้องนายอุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา (สว.) สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและ มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเมื่อวันที่ 26 ก.ค.2566 พนักงานอัยการสำนักงานคดียาเสพติด ได้นัดนายอุปกิตมาฟังคำสั่งคดีของอัยการ เเต่นายอุปกิต ได้เเจ้งขอเลื่อนนัดฟังคำสั่งโดยอ้างว่า อยู่ระหว่างสมัยประชุมสภาฯ ซึ่งได้รับสิทธิ์คุ้มครองตามกฎหมาย ซึ่งอัยการพิจารณาแล้ว จึงให้เลื่อนฟังคำสั่งคดีออกไปก่อนตามกฎหมายเป็นวันที่ 28 ส.ค.นี้ ต่อมา ศาลได้มีคำพิพากษา นายอุปกิต ปาจรียางกูร มีความผิดจริงตามข้อกล่าวหาของอัยการ.