กก.ชี้ประเด็น! ‘วิปรัฐบาล’ อุปสรรคขจัดโกงส่วยทางหลวง
พรรคก้าวไกลโยงอุปสรรคขจัดส่วยทางหลวง ปมจากวิปรัฐบาลขวางข้อเสนอตั้ง กมธ.วิสามัญแก้ส่วยทางหลวง หวังขจัดส่วยตรวจสภาพรถทิพย์ ชวนคนไทย 11 ต.ค.นี้ ช่วยกันจับตารัฐบาลจะเอาไง? กับปัญหาระดับชาติ
การเมืองเป็นเรื่องของผลประโยชน์ วลีนี้…เป็นจริงเสียไม่มี! ยิ่ง ใคร? หรือพรรคการเมืองใด? ถืออำนาจรัฐ และกฎหมายในมือ ย่อมสร้างโอกาสให้กับตัวเองและพวกพ้อง ไม่สนใจว่าผลกระทบที่จะมีตามมาคืออะไร? และจะสะเทือนไปถึงใครหน้าไหน?
ล่าสุด กับข้อเสนอของ พรรคฝ่ายค้าน “ก้าวไกล” ที่ได้ ส.ส.มากสุดในสภาผู้แทนราษฎร ให้มีการจัดตั้ง กมธ.วิสามัญแก้ส่วยทางหลวง ด้วยหวังจะสยบและขจัด “ตรวจสภาพรถทิพย์” แต่ทว่าข้อเสนอดังกล่าวกลับไม่ได้รับความเห็นชอบจากวิปรัฐบาล ที่มี นายอดิศร เพียงเกษ ส.ส.เพื่อไทย เป็นประธานฯ กระทั่ง นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ออกโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า…
“ก้าวไกลเสนอตั้ง กมธ.วิสามัญแก้ส่วยทางหลวง ส่วยตรวจสภาพรถทิพย์ แต่วิปรัฐบาลไม่ยอมให้ตั้ง”
ส.ส.พรรคก้าวไกล ย้ำว่า “ผมคิดว่า ภาคประชาชนรับทราบถึงความหนักหนาสาหัส ของปัญหาส่วยรถบรรทุก ที่มีมูลค่าความเสียหาย อาจจะสูงถึงปีละ กว่า 20,000 ล้านบาท และเมื่อนำไปรวม กับส่วยตรวจสภาพรถทิพย์ ที่มีมูลค่า กว่า 2,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งปัญหาเหล่านี้ มีความเกี่ยวข้องพัวพันกับหลายหน่วยงาน อาทิ ตำรวจทางหลวง ตำรวจจราจร อัยการ เจ้าหน้าที่ด่านช่าง กรมทางหลวง และนายช่างตรวจสภาพรถ กรมการขนส่งทางบก ฯลฯ”
ก่อนสำทับด้วยว่า…“การเรียกรับผลประโยชน์ มีข้อครหาที่พัวพันไปถึงนายตำรวจระดับบังคับบัญชา ข้าราชการระดับสูง และผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ปัญหานี้ใหญ่ขนาดไหน รัฐบาลคงทราบดีอยู่แล้ว เพราะมีนายตำรวจ ต้องสังเวยชีวิตจากกรณีที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ถึง 2 นาย”
และกล่าวอีกว่า.. “ด้วยเหตุนี้ พรรคก้าวไกล จึงได้เสนอญัตติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ เพื่อศึกษา การแก้ไขกฎระเบียบต่างๆ ซึ่งเป็นที่มาของการเรียกรับส่วยรถบรรทุก และส่วยตรวจสภาพรถ ซึ่งบรรจุเป็นวาระการประชุมในวันพรุ่งนี้ พุธที่ 11 ต.ค. 2566 ที่จะถึงนี้
แต่เดิม ผมมีความเชื่อว่ารัฐบาลจะให้ความร่วมมือในการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญคณะนี้ โดยที่ฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาล ตลอดจนภาคประชาชน จะได้ร่วมกันทำงาน ในการสะสางปัญหาดังกล่าว
แต่สิ่งที่น่าผิดหวัง ก็คือ ผมเพิ่งทราบว่า วิปรัฐบาลมีมติที่จะไม่ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ โดยอ้างว่าให้คณะกรรมาธิการการคมนาคมรับเรื่องไปดำเนินการ ซึ่งผมก็ต้องย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า ปัญหาส่วยทางหลวง และส่วยตรวจสภาพรถทิพย์ นั้นโยงใยกับหลายหน่วยงานมาก ไม่ได้จำกัดวงอยู่แต่เฉพาะหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมเท่านั้น
ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ ผมยังคงมีความหวังว่ารัฐบาล จะเปลี่ยนใจ และหันมาช่วยกันแก้ไขปัญหา “ส่วย” ที่เป็นการีดนาทาเร้นประชาชน ผ่านคณะกรรมาธิการวิสามัญคณะนี้ร่วมกันครับ”
ก่อนจะทิ้งท้ายทำนอง…“11 ตุลานี้ ได้เวลาที่ประชาชน จะติดตามร่วมกันว่า รัฐบาลจะเอายังไง จริงจัง จริงใจแค่ไหน กับการแก้ปัญหาปัญหาส่วยทางหลวง และส่วยตรวจสภาพรถทิพย์”.