นายกฯรัฐมนตรี เผย ได้รับรายงานตำรวจไซเบอร์ค้นบ้าน ‘บิ๊กโจ๊ก’ เอี่ยวพนันออนไลน์ แล้ว เตรียมตั้ง คกก. ดึงคนนอกร่วมสอบล้างบาง ด้าน’บิ๊กโจ๊ก’แฉเดือด!! โดนการเมืองในสำนักงาน ตร.เล่นงาน หวังดิสเครดิต รู้ล่วงหน้ามาหลายวัน

วันที่ 25 ก.ย.2566 เวลา 09.35 น. ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์กรณีตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) หรือ ตำรวจไซเบอร์ นำหมายค้นเข้าตรวจค้นบ้านพัก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ภายในหมู่บ้านย่านวิภาวดีรังสิต กทม. หลังพบมีเส้นทางการเงินเชื่อมโยงกับพนันออนไลน์ ว่า ตอนนี้ได้รับรายงานแล้ว ซึ่งจากรายงานยังไม่มีการขยายผล โดย พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อยู่ระหว่างการดำเนินการสืบสวนสอบสวนอยู่ แต่เดี๋ยวจะมีการตั้งคณะกรรมการด้วย เพราะเรื่องนี้ถือว่าเป็นปัญหาใหญ่มาก

ผู้สื่อข่าวถามว่า เบื้องต้นนายกรัฐมนตรีได้สั่งการอย่างไรหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ยังไม่ได้สั่งการ เพราะยังสั่งไม่ได้ เนื่องจากยังไม่ทราบข้อมูลทั้งหมด แต่ได้มีดำริไว้กับที่ปรึกษาไว้ว่า น่าจะมีการตั้งคณะกรรมการที่มีบุคคลที่ไม่ใช่ข้าราชการตำรวจร่วมอยู่ด้วย เพราะปัญหานี้เรื่องใหญ่มากแล้ว ผูกพันกับหลายๆ เรื่อง ทั้งนี้ต้องขอดูข้อมูลอีกที และต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายด้วย เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เป็นเรื่องขวัญและกำลังใจของพี่น้องประชาชนด้วย

เมื่อถามว่า ถือเป็นส่วนหนึ่งของแนวนโยบายในการกวาดล้างผู้มีอิทธิพลด้วยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า แน่นอน ควบคู่กับการที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย พูดด้วย ซึ่งก็ต้องดูด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า จะเกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติด้วยหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่แน่ใจ อาจจะต้องดูความเกี่ยวข้องทั้งหมด ส่วนการพิจารณาชื่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่นั้น ตามกำหนดการเป็นวันที่ 27 ก.ย. จะมีการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.)

ทางด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. แถลง เมื่อเวลา 12.50 น. ที่สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต กทม.ถึง กรณีที่ตร.คอมมานโดและตำรวจไซเบอร์เข้าค้นบ้าน 5 หลังของตนเองว่า การขอหมายค้นดังกล่าวเป็นการกระทำโดยไม่สุจริตเป็นการหลอกศาลออกหมายค้น บอกเพียงบ้านเลขที่โดยไม่ระบุชื่อว่าเป็นบ้านของตนซึ่งการออกหมายค้นบ้านนายตำรวจระดับผู้ใหญ่จะต้องมีเส้นเงินแต่ตนเองไม่มีเส้นเงินเกี่ยวข้อง

ต่อเขาถามว่า เนื่องมาจากใบเสร็จให้เงินลูกน้องไปจ่ายค่าไฟฟ้านั้น “บิ๊กโจ๊ก” กล่าวว่า ตำรวจคนดังกล่าว เป็นชั้นประทวนที่ทำงานขับจักรยานยนต์ส่งงานให้ตน ส่วนเงินค่าไฟแต่ละเดือนหลักหมื่น ซึ่งตนเองทำงานไม่มีเวลาไปจ่ายเอง จึงให้ลูกน้องไปจ่ายให้ และไม่ได้เป็นการโอนเงินแต่อย่างใด

ส่วนตำรวจที่เป็นลูกน้องของตนเองที่ถูกออกหมายจับนั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยอมรับว่า เป็นคนใกล้ชิด และมีส่วนในการทำคดีสำคัญ ซึ่งก็ต้องประกันตัวส่วนคดีก็ทำต่อ ทั้งนี้ ตำรวจที่ถูกกล่าวหาก็ต้องไปดูว่าเส้นเงินเกี่ยวข้องพนันออนไลน์หรือไม่ถ้าหากทำผิดก็ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ตราบที่ศาลยังไม่พิพากษาก็ยังเป็นผู้บริสุทธิ์ และก็ต้องต่อสู้คดีไป หากนิ้วไหนเป็นนิ้วร้ายก็ต้องตัด แต่ก็มีความมั่นใจในลูกน้อง ถ้าเป็นคนดีคนไหนเป็นคนดีก็ก็จะสามารถพ้นผิดได้

ต่อข้อถามการเข้าค้นวันนี้เนื่องมาจาก ทำคดีสำคัญทั้งกำนันนก และ 140 ล้านใช่หรือไม่ พล.ต.อ.กสุรเชษฐ์ กล่าวว่า ต้องยอมรับว่า มีการเมืองในตำรวจ ซึ่งการปฏิบัติการเข้าค้นบ้านตนเองวันนี้ โดยธรรมชาติหวังผลเป็นการดิสเครดิตให้เสียชื่อเสียง ซึ่งก็รู้ว่ามีการตระเตรียมการมาหลายวันแล้ว ตนมั่นใจว่าเป็นขบวนการดิสเครดิตทั้งหมด

ส่วนกรณีที่มีภาพปรากฏว่าลูกน้อง อยู่กับหญิงสาวรายหนึ่ง ในงานที่บิ๊กโจ๊กเป็นผู้จัดงานเลี้ยงนั้น พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ยอมรับว่า งานดังกล่าว จัดให้กับลูกน้องส่วนลูกน้องจะไปสนิทกับใคร และมีเส้นเงินเกี่ยวข้องกับเว็บพนันหรือไม่ก็เป็นหน้าที่ที่เจ้าตัวจะต้องไปต่อสู้คดีและชี้แจงกับศาล พิสูจน์ความบริสุทธิ์กันไป

ทั้งนี้ยืนยันว่า บริสุทธิ์ใจ 100% ตนไม่มีเส้นเงินแม้แต่เส้นเดียวที่เกี่ยวกับเว็บพนัน ซึ่งเป็นผลมาจากการทำงานคดีสำคัญ มีเส้นทางการเงิน เข้าไปเกี่ยวข้องกับตำรวจเยอะและไปขัดขวางผลประโยชน์ ของคนหลายส่วน นอกจากนี้ยังมีเด็กๆทำงาน มีความขัดแย้งก็ว่ากันไปแต่วันนี้มาลามถึงตน

อย่างไรก็ตามจากผลกระทบการทำงานทำคดีสำคัญที่เกิดขึ้นยืนยันว่าไม่สามารถบั่นทอนการทำงานของตนเองได้ และถ้าวันนี้ตนไม่ทำ ใครจะทำ ซึ่งจะส่งผลเสียต่อการ ปกครอง สำหรับการดำเนินการที่มีการเข้าค้นบ้านของตนเองนั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า วันนี้ตนได้มีการตั้งทีมกฎหมายแล้ว และจะไล่ดูว่าถ้าใครผิดก็ต้องเรียกความเป็นธรรมให้กับตัวเอง.