“บิ๊กโจ๊ก” บินด่วน! หารือ ผบ.ตร.กัมพูชา ประสานความร่วมมือกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ต่างชาติในดินแดนเขมร เผย! มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลบหนีอยู่ในกัมพูชาอีก 9 คน หวังขจัดให้สิ้นหลังรุกหนักหลอกเหยื่อผ่านแอปฯเงินกู้ในไทย ด้าน ท่านทูตฯไทย พร้อมช่วยเหลือคนไทยที่ถูกหลอกลวงมาทำงานร่วมแก๊งคอลเซ็นเตอร์  

สถานการณ์แก๊งคอลเซ็นเตอร์จากนอกประเทศ บุกกระหน่ำดูดเงินจาก “เหยื่อคนไทย” ในประเทศตัวเอง กำลังระบาดหนักทั่วไทย นั่นจึงเป็นมูลเหตุสำคัญทำให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ส่งมือดี อย่าง “บิ๊ก’โจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. และคณะฯ อาทิ…พล.ต.ท.พนัญชัย ชื่นใจธรรม ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.ศุภเศรษฐ์ โชคชัย รอง ผบช.ทท. ฯลฯ เดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชา นับแต่วันที่ 4 กันยายน ที่ผ่านมา เพื่อประสานความร่วมมือในการติดตามจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาสมาชิกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และเกี่ยวเนื่องกับเหตุสลดฆ่ายกครัวในพื้นที่ สภ.บางแก้ว ภ.จว.สมุทรปราการ ก่อนหน้านี้ เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายยังประเทศไทย

หลังจากคณะของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เดินทางเข้าพบ นายเชิดเกียรติ อรรถากร เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ เพื่อเข้าเยี่ยมคารวะในโอกาสเยือนราชอาณาจักรกัมพูชา และหารือเพื่อช่วยเหลือคนไทยที่ถูกหลอกลวงให้เดินทางมาทำงานกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยที่ผ่านมา สตช.เอง ได้ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์มาอย่างต่อเนื่อง และสามารถช่วยคนไทยที่ถูกหลอกลวงกลับไปได้เป็นจำนวนมาก ซึ่ง เอกอัครราชทูตไทย ได้แสดงความมั่นใจ พร้อมตอบรับความมุ่งมั่นของ สตช.ในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างจริงจัง และพร้อมให้การสนับสนุนในการประสานงานช่วยเหลือคนไทยอย่างเต็มที่

จากนั้น ทีมตำรวจไทย ได้เดินทางเข้าพบและหารือร่วมกับ พล.ต.อ.ซอ เทต ผบ.ตร.กัมพูชา ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติกัมพูชา เพื่อประสานความร่วมมือในการติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับของไทย โดยเฉพาะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่หลอกลวงคนไทยผ่าน “แอปฯเงินกู้” ซึ่ง ผบ.ตร.กัมพูชา พร้อมให้ความร่วมมือในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เช่นที่ได้เคยประสานงานร่วมกันมาโดยตลอด ทั้งนี้ จะได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกัมพูชาประสานข้อมูลกับเจ้าหน้าที่สืบสวนของไทยอย่างใกล้ชิด เพื่อติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้งชาวไทยและชาวจีนในขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์นี้ให้ครบถ้วนทั้งหมด ซึ่งในคดีดังกล่าวได้มีการออกหมายจับ ผู้ต้องหารวมทั้งสิ้น 22 ราย ดำเนินการจับกุมและอายัดตัวแล้ว 11 ราย ยังหลบหนีอีก 11 ราย โดยในจำนวนนี้มีอยู่ 9 รายที่หลบหนีอยู่ที่ประเทศกัมพูชา ซึ่งจะอาศัยความร่วมมือกับทางการกัมพูชาในการจับกุมตัวมาดำเนินคดีในประเทศไทย

“คณะฯได้มีโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะท่านเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ ซึ่งท่านพร้อมให้การสนับสนุนในการช่วยเหลือคนไทยที่ถูกหลอกลวงมาทำงานคอลเซ็นเตอร์ในกัมพูชา นอกจากนี้ยังได้เข้าพบหารือร่วมกับ พล.ต.อ.ซอ เทต ผบ.ตร.กัมพูชา ซึ่งได้ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี รวมทั้งให้คำมั่นว่าจะประสานความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับตำรวจไทย ในการติดตามจับกุมผู้ต้องหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทั้งหมดทั้งชาวไทยและชาวจีน เพื่อร่วมมือกันปราบปรามปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้หมดไป” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ย้ำสรุป.