สูงวัย เตรียมเฮ DAD ได้ผู้รับเหมาโครงการที่พักอาศัยผู้สูงอายุ รามาฯ-ธนารักษ์ แล้ว
คณะกรรมการบริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด หรือ DAD Asset Development อนุมัติจ้างผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการที่พักอาศัยผู้สูงอายุ รามาฯ-ธนารักษ์ จังหวัดสมุทรปราการ ผู้ได้รับสิทธิ 891 ราย เตรียมเฮ คาดก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมเข้าพักอาศัยต้นปี 2568
ดร.นาฬิกอติภัค แสงสนิท กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด เปิดเผยว่า ตามที่ คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2565 อนุมัติให้กรมธนารักษ์และบริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด หรือ DAD Asset Development ดำเนินโครงการที่พักอาศัยผู้สูงอายุ รามาฯ-ธนารักษ์ (Senior Housing Zone) โดยกรมธนารักษ์ได้ดำเนินการเปิดจองสิทธิห้องพักโครงการฯ ผ่านระบบอินเตอร์เน็ต โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ให้กับประชาชนที่มีอายุตั้งแต่ 58 ปี ขึ้นไป
จากนั้นวันที่ 19 กันยายน 2565 DAD ได้ดำเนินการจับสลากรายชื่อผู้จองสิทธิ เพื่อให้ได้หมายเลขห้องครบถ้วน จำนวน 891 ห้อง และรายชื่อผู้จองสิทธิสำรอง จำนวน 576 ราย โดย DAD ได้ประกาศผลการจับสลากผ่านทางเว็บไซต์โครงการฯ พร้อมทั้งมีหนังสือแจ้งไปยังผู้ได้รับสิทธิทุกราย
สำหรับการจัดหาผู้ดำเนินการก่อสร้างโครงการที่พักอาศัยผู้สูงอายุ รามาฯ-ธนารักษ์ DAD ได้ดำเนินการด้วยวิธี e-bidding จำนวน 3 ครั้ง ได้แก่ ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2565 แต่ต้องยกเลิกประกาศประกวดราคางานจ้างฯ เนื่องจากราคาที่เสนอเกินวงเงินงบประมาณ ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2565 แต่ต้องยกเลิกประกาศประกวดราคางานจ้างฯ เนื่องจากมีผู้ยื่นข้อเสนอเพียงรายเดียว ซึ่งในภายหลังผู้ออกแบบโครงการฯ บริษัท สถาปนิกชุมชนและสิ่งแวดล้อม อาศรมศิลป์ จำกัด ได้มีหนังสือแจ้งขอปรับปรุงราคาค่าก่อสร้าง DAD จึงได้ดำเนินการจัดหาผู้ดำเนินการก่อสร้างโครงการฯ เป็นครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2566
ต่อมาเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2566 คณะกรรมการ DAD ได้มีมติอนุมัติจ้าง บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ก่อสร้างโครงการฯ เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 1,188,587,030 บาท
โครงการที่พักอาศัยผู้สูงอายุ รามาฯ-ธนารักษ์ ได้รับการออกแบบโดย บริษัท สถาปนิกชุมชนและสิ่งแวดล้อม อาศรมศิลป์ จำกัด มีแนวคิดให้เป็นที่พักอาศัยผู้สูงอายุแบบครบวงจรในรูปแบบ Universal Design โดยคำนึงถึงความสะดวก ความปลอดภัย มีอุปกรณ์ช่วยเหลือที่ครบครันทั้งภายในและภายนอกห้อง
มีการเลือกใช้วัสดุเฟอร์นิเจอร์ที่ช่วยลดการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ไม่อึดอัด
โดยมุ่งหวังที่จะสร้างชุมชนของผู้สูงอายุให้มีชีวิตชีวา ไม่เงียบเหงา ผู้พักอาศัยได้มีปฏิสัมพันธ์ในเชิงสังคมด้วยกิจกรรมที่สนุกสนานร่วมกับเพื่อนบ้านในวัยเดียวกัน โดยพื้นที่โครงการแบ่งออกเป็น 3 โซน ได้แก่ 1. โซนศูนย์เรียนรู้และพัฒนาสุขภาวะผู้สูงอายุแบบครบวงจร และบริบาลผู้ป่วยระยะท้าย (Hospice Zone) ดำเนินงานโดยคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี 2. โซนพื้นที่สำหรับผู้สูงอายุที่ต้องการการพักฟื้น หรือฟื้นฟูสุขภาพ (Nursing Home Zone) สำหรับผู้สูงอายุที่เข้าสู่ภาวะต้องพึ่งพิง หรือติดเตียงและเป็นผู้ป่วยระยะสุดท้าย ดำเนินงานโดยคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี และ 3. โซนพื้นที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุ (Senior Housing Zone) ดำเนินงานโดย DAD
ในด้านการบริการและสิทธิประโยชน์สำหรับผู้ที่เข้าพัก สามารถพักอาศัยได้ 2 คนต่อยูนิต ในระยะเวลา 30 ปี สามารถขายสิทธิหรือโอนสิทธิให้บุคคลอื่นได้ โดยต้องได้รับความเห็นชอบจาก DAD ในฐานะผู้บริหารโครงการฯ ผู้ที่พักอาศัยยังได้รับสิทธิในด้านการดูแลรักษาพยาบาลต่าง ๆ เช่น กรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินสามารถใช้บริการของสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ หรือโรงพยาบาลตามสิทธิของบุคคลนั้น ๆ
กรณีเจ็บป่วยในระดับปฐมภูมิสามารถใช้บริการโครงการส่วนขยายห้องตรวจผู้ป่วยนอกที่ Hospice Zone ซึ่งมีค่าใช้จ่ายตามสิทธิการรักษา และยังมีการจัดโครงการส่งเสริมสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุในรูปแบบ Health Package สำหรับสมาชิก อีกด้วย
ปัจจุบันโครงการที่พักอาศัยผู้สูงอายุ รามาฯ-ธนารักษ์ (Senior Housing Zone) อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ว่า DAD ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขการเริ่มต้นก่อสร้างโครงการฯ ครบถ้วนแล้วหรือไม่ ทั้งนี้หาก สศช. พิจารณาให้ความเห็นชอบแล้ว DAD จะสามารถลงนามจ้างก่อสร้างได้ทันที ซึ่งคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในช่วงต้นปี 2568.