ต้นปี 2567 จะมีการเปิดตัว ‘เรือสำราญที่ใหญ่ที่สุดในโลก’ สัญชาติสหรัฐ-นอร์เวย์ ที่ชื่อว่า Icon of the Seas ของบริษัทยักษ์ใหญ่ Royal Caribbean International ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับเรือสำราญ

ซึ่งเมื่อมีการเผยแพร่ภาพออกไป หลายคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า นี่ไม่ใช่เรือสำราญ แต่เป็น เกาะสวรรค์ที่ลอยทะเล เพราะมีขนาดใหญ่ เฉพาะน้ำหนักอยู่ที่ 250,800 ตัน ส่วนความยาวอยู่ที่ 365 เมตร หรือ ประมาณ เกือบ 1,200 ฟุต เทียบเท่าสนามฟุตบอล 3 สนามต่อกัน ขณะที่ ตัวเรือมีความสูงเท่ากับอาคาร 20 ชั้น มีลิฟในตัวทั้งหมด

โดยภายในมีความหรูหรา โอ่อ่า สะดวกสบาย มีห้องพักมากถึง 2,800 ห้อง สามารถบรรจุผู้โดยสารได้ทั้งหมด 7,600 คน ลูกเรืออีกกว่า 2,000 คน ดังนั้น Icon of the Seas จะสามารถรองรับผู้โดยสารทั้งหมดได้ 10,000 คน ซึ่งเมื่อวันที่ 22 มิ.ย.66 ที่ผ่านมา ได้มีการทดลองนำออกมาวิ่งแล้ว ด้วยมีการใช้พลังงานสะอาด ทำให้เสียงเบาไม่รบกวนสภาพแวดล้อม แต่กำหนดการที่จะเริ่มท่องโลกจริงๆ ครั้งแรก คือ ในวันที่ 27 ม.ค.67

สำหรับเส้นทางเดินเรือจะออกจากท่าเรือไมอามี่ ไปทางทิศตะวันออก และ ทิศตะวันตก ในขณะที่บนเรือ ถูกแบ่งออกเป็นโซนต่างๆ สวยงาม อลังการ อาทิ สวนน้ำขนาดมหึมา, สไลเดอร์ติดอันดับโลก, สระว่ายน้ำ มีให้เลือกถึง 7 แบบ อย่าง สระแบบ Hideaway คือ ให้บรรยากาศเหมือนชายหาด หรือ Infinity Pool แบบไร้ขอบเขต, อควาโดม พื้นที่สำหรับจัดการแสดงในร่ม

อีกทั้ง ยังมีเกาะจำลอง อยู่บนเรือชื่อว่า ชิลไอแลนด์ (Chill Island) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญสำหรับลูกค้าที่ต้องการปลีกวิเวก รวมถึง ยังมีสวนสาธารณะอยู่บนเรือ กิจกรรมต่างๆ ก็มีทั้งหน้าผาจำลอง บาร์ ร้านอาหาร

โดยขณะนี้เริ่มเปิดให้จองตั๋วแล้ว สนนราคาสำหรับ 7 วันอยู่ที่ 70,000 บาท ซึ่งขณะนี้ ยอดจองมีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่อง จากเดิมที่ธุรกิจการท่องเที่ยวเรือสำราญได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด ซึ่งช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจเกิดการฟื้นตัว ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวอันดับ 1 ของโลกที่ชอบท่องเที่ยวเรือสำราญก็คือ ชาวสหรัฐอเมริกา ตามมาด้วยนักท่องเที่ยวชาวจีน และ ชาวเยอรมัน ตามลำดับ แต่สำหรับคนไทยนั้น ยังไม่นิยมมากนัก แต่มาแรงและเริ่มสดใสขึ้น

ขอบคุณข้อมูลจาก: รายการวันเวิลด์ ช่องวัน 31 และสำนักข่าว CNN