ไต่สวนมูลฟ้องสว. “อุปกิต ปาจรียางกูร” ฟ้องหมิ่น “รังสิมันต์ โรม” “อภิปราย”เช็ก บิลไทยดำ-จีนเทา” เนื้อหาเข้าข่ายหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน ! ด้าน “รังสิมันต์ โรม” มั่นใจชนะคดี เพราะทำเพื่อประโยชน์สาธารณชน

วันที่ 26 มิ.ย.2566 เวลา 09.00 น.ที่ ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องคดีหมายเลขดำ อ.468/2566 ที่นายอุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ยื่นฟ้อง นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ( ก.ก.) ในความผิดฐาน “หมิ่นประมาท,หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา, ดูหมิ่นด้วยการโฆษณา” พร้อมเรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท

จากกรณีการอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริง หรือ เสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี ในช่วงคืน ของวันที่ 15 ก.พ.2565 โดยนายรังสิมันต์ โรม ได้อภิปรายในหัวข้อ เช็ก บิลไทยดำ-จีนเทา โดยมีเนื้อหาเข้าข่ายหมิ่นประมาทพาดพิงนายอุปกิต ทำให้ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง ทั้งนี้ นายรังสิมันต์ โรม ได้เดินทางมาพร้อมทนาย พร้อมกล่าวว่า การไต่สวนมูลฟ้องศาลจะรับฟังพยานจากฝั่งโจทย์ว่ามีมูลมากพอให้ฟ้องหรือไม่ และวันนี้ก็ไม่ทราบว่าศาลจะมีคำสั่งรับฟ้องหรือไม่?

ขณะที่ นาย อุปกิต ปาจรียางกูร พร้อมทนาย เดินทางมาศาลอาญาโดยมีประชาชนจำนวนหนึ่งมารอมอบดอกไม้ พร้อมทำป้ายส่งกำลังใจให้ โดย นายอุปกิต กล่าวว่า ครั้งนี้มาตามนัดที่ต้องเลื่อนจากครั้งที่แล้ว เนื่องจากตอนนั้นติดประชุม โดยเตรียมพยานมา 2 ปาก คือตนเองและบุคคลที่ 3 ซึ่งไม่มีความกังวลใจอะไร เพราะเป็นคนฟ้องคดี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากการไต่สวนมูลฟ้องเสร็จสิ้น นายอุปกิต ปาจรียางกูร กล่าวว่า ตนได้เตรียมหลักฐานมาครบทุกอย่าง และอยากฝากถึงนักการเมืองที่บอกว่า เป็นคนรุ่นใหม่ การจะกล่าวหาใครหรือใส่ร้ายใครขอให้ไตร่ตรองให้ดี เวลาขึ้นอภิปรายก็มีการหมิ่นประมาทมาโดยตลอด และพยายามทำทุกอย่างทุกวิถีทางเพื่อกดดันกระบวนการยุติธรรม ทำไมคดีน้องชายของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวไกล จึงไม่ไปเร่งรัดอัยการบ้าง 2ปียังไม่ได้ฟ้องเลย จึงอยากขอฝากไปถึงนักการเมืองที่อ้างว่าเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ แต่ใช้วิธีการยิ่งกว่าเก่า ถ้ายังไม่หยุดจะฟ้องต่อไปอีกหลายกรรมหลายวาระ เพราะทำให้ตนเสียชื่อเสียงเป็นอย่างมาก

ส่วนนายรังสิมันต์ โรม กล่าวว่า วันนี้เป็นการไต่สวนมูลฟ้อง ว่าคำฟ้องที่ นายอุปกิต ฟ้องตนนั้นจะมีมูลเพียงพอที่จะให้ศาลประทับรับฟ้องหรือไม่ ซึ่งจะมีการนัดฟังคำวินิจฉัยของศาลในวันที่ 11 ก.ค .นี้ เวลา 09.00 น. ซึ่งตนมั่นใจว่าจะชนะคดีนี้ เพราะเป็นการพูดตรงไปตรงมา ทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญในหน้าที่ของราษฎร มุ่งไปสู่รัฐบาลคือ พล.อ .ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เป็นนายกรัฐมนตรีในเวลานั้น และปัญหาของยาเสพติด ข้าราชการการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้อง หรือ แม้กระทั่งตัวของรัฐบาลอาจจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งไม่ได้รู้สึกหนักใจอะไร เพราะสิ่งที่ตนทำเป็นการเปิดโปงที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะและประชาชน เมื่อพิจารณาจากข้อมูลพยานหลักฐานต่างๆก็แน่นอนว่าไม่มีหลักฐานเท็จ.