สร้างหัวใจด้วยธรรม กับ คุณกัลป์ชัย อารีสินพิทักษ์ 

กฎแห่งกรรมนั้นเหมือนกฎธรรมชาติ ไม่ว่าใครทำอะไรก็ย่อมได้รับผลแห่งการกระทำนั้นเสมอไป ไม่มีข้อยกเว้น หากเราเข้าใจธรรมชาติหรือธรรมแล้วจะทำให้มีแนวทางในการดำเนินชีวิต และระมัดระวังตัวบนกฏแห่งกรรมด้วยความไม่ประมาท คุณกัลป์ชัย อารีสินพิทักษ์ หรือคุณแดง “นักสร้างหัวใจด้วยธรรม” ได้ให้เกียรติมาแบ่งปันประสบการณ์ธรรมะกับการใช้ชีวิตบนเวทีธรรมบรรยาย “เรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ” ในหัวข้อ “ธรรมะทำไม ทำไมธรรมะ” เพื่อแบ่งปันแนวทางความคิดหรือแนวทางการดำเนินชีวิต 

คุณกัลป์ชัย เริ่มแนะนำตัวเองว่า เป็นคนกรุงเทพ จบปวส.จากวิทยาลัยช่างกลปทุมวัน หลังสำเร็จการศึกษาได้มีโอกาสเข้าไปทำงานที่โรงงานฮิตาชิ ซึ่งผลิตโทรทัศน์ขาว-ดำ อยู่ด้านออกแบบ ส่วนหนึ่งได้มีโอกาสไปทำงานที่ญี่ปุ่น ดำเนินชีวิตมาเรื่อยๆ อาชีพต่อมาคือจัดสรรที่ดิน และได้เปิดทำโครงการบ้านจัดสรรที่พัทยา ใช่ช่วงปี 2540 ได้เกิดเหตุการณ์วิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง ทำให้โครงการมีปัญหา ขาดสภาพคล่อง ปัญหาต่างๆเข้ามารุมเร้า ทำให้เกิดความเครียด และความเครียดนี่คือปัญหาหลัก ทำให้สุขภาพเรามีปัญหา เครียดจนเรียกว่าอยู่ในสภาพที่น็อคไปเฉยๆ คือไม่สามารถขยับตัวได้ เพียงแต่รู้สึกตัว ลืมตา อ้าปาก และก็หายใจ หลังจากนั้นหมอบอกว่าไวรัสลงตับ ความเครียดนี่สามารถทำให้เกิดโรคต่างๆได้ พอหลังผ่านไปสักพักนึง ความเครียดเริ่มลดลง ร่างกายก็เริ่มขยับได้ เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ ในตอนนั้นปัญหาที่เกิดขึ้นช่วงที่เราขยับตัวไม่ได้ ความรู้สึกได้บอกไว้ว่าถ้าร่างกายเราไม่สบาย ร่างกายเราไม่แข็งแรง ร่างกายเรามีปัญหา คงไม่สามารถแก้ปัญหาต่างๆนั้นได้ จุดแรก ก็คือ รักษาเรื่องสุขภาพให้ดี หลังจากที่ฟื้นขึ้นมาแล้วก็ค่อยๆ ขยับ และเริ่มออกกำลังกาย ร่างกายเราดีขึ้น ปัญหาต่างๆก็จะแก้ตรงนั้นได้ อีกจุดนึง ก็คือ เวลาร่างกายเรามีปัญหา ทุกอย่างมันไม่สามารถแก้อะไรได้เลย และจากวันนั้นถึงวันนี้ ก็ยังออกกำลังกายอยู่เป็นเวลาต่อเนื่อง เพราะว่าสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นทำให้รู้ว่า “สุขภาพ เป็นสมบัติที่มีค่าที่สุดของเรา”

คุณแดง เล่าต่อว่า ช่วงที่เริ่มฟื้นตัวแล้ว เริ่มที่จะทำงานแก้ปัญหาต่างๆ ได้มีโอกาสเริ่มสวดมนต์ ทำสมาธิ เพราะว่าก่อนหน้านี้ไม่คิดจะทำเลย ไม่เชื่อเรื่องกฎแห่งกรรม จนประสบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อดีขึ้นเพื่อนๆแนะนำให้ไปปฎิบัติธรรมกับหลวงพ่อจรัญ ได้มีโอกาสไปปฏิบัติธรรมกับท่านครั้งแรกในชีวิต ท่านสอนให้เดินจงกรม แค่เอามือไขว้หลัง ขวาย่างหนอ ซ้ายย่างหนอ เดินไปประมาณ 4 ก้าว สิ่งที่ไม่น่าชื่อเกิดขึ้น คือแขนของผมปวดเหมือนมีใครมาหัก เจ็บจนน้ำตาเล็ด มันไม่น่าเชื่อว่าแค่เอามือไขว้หลังเดินไป 4 ก้าวแล้วจะทำให้เจ็บได้ขนาดนั้น อยู่ๆ นิมิตหรือความรู้สึกที่อยู่จิตใต้สำนึกมันออกมา แขนเราที่เจ็บเพราะอะไร ความรู้สึกมันจะบอกมาเลยว่าเด็กๆ คือ ผมเป็นครอบครัวคนจีน สมัยนั้นมีการไหว้เจ้าก็จะซื้อเป็ดไก่ที่เป็นๆ พ่อเป็นคนเฉือด ส่วนผมเป็นคนหักปีกหักขา และทำมาเป็นสิบๆ ปี ผลมันออกมาเลยว่าสิ่งที่เราทำกับเขาเนี่ยมันเจ็บขนาดนั้น ความรู้สึกมันบอกเลยว่าในนิมิตเนี่ยเป็ดกับไก่บินมาเป็นฝูง บ่งบอกถึงว่าที่เราเจ็บเพราะเราไปทำเขา และในช่วงที่เรามาปฏิบัติธรรม เราก็เลยอธิษฐานจิตว่าเราไม่ได้ตั้งใจ เพียงแค่ช่วยเหลือพ่อแม่ เดี๋ยวจะส่งบุญไปให้ สิ่งที่ทำมาก็ขออภัย ขออโหสิกรรม และจากนี้ไปก็จะทำแต่สิ่งที่ดีๆ โดยพออธิบายเสร็จ สิ่งที่ไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้น แขนที่เจ็บอยู่ก็หายเจ็บ หายไปแบบไม่น่าเชื่อ มันเลยทำให้เรารู้ว่ากฎแห่งกรรมมีจริง ของแบบนี้มองไม่เห็นแต่มีจริง และเราสัมผัสด้วยตัวเราเอง เลยทำให้เป็นจุดเปลี่ยนในชีวิต เลิกเที่ยว ทำแต่ความดี ทุกวันนี้ก็ยังสวดมนต์ ทำสมาธิอยู่  และสิ่งที่ได้รับคือทุกอย่างมันเริ่มดีขึ้น

กฎแห่งกรรมมีจริง และกฎแห่งกรรมยุติธรรมที่สุด ทุกคนที่ได้มาฟังผมพูดในวันนี้ ถือว่าเป็นคนมีบุญ เพราะว่าการที่ได้มานั่งฟังก็เป็นบุญส่วนหนึ่ง การที่ผมได้มาเล่าให้ฟังก็ถือว่าเป็นบุญส่วนหนึ่ง เพราะว่าสิ่งต่างๆที่ผ่านมา บ่งบอกว่าสิ่งที่มองไม่เห็นแต่มันเป็นไปได้ โดยเฉพาะเรื่องของการปฏิบัติ เรื่องการทำสมาธิ เป็นการเจริญสติทำให้เรามีสติที่มั่นคง พอมีสติแล้วปัญญาก็จะเกิด แล้วก็จะสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ สามารถทำให้แก้ไขปัญหาได้ทีละเปราะ ผมมั่นใจว่าเกิดจากบุญกุศลที่เราทำ เกิดจากการสวดมนต์ เกิดจากการทำสมาธิ คุณแดง กล่าว

วิทยากรผู้ใฝ่ธรรม ยังเล่าต่อว่า ได้มีโอกาสไปช่วยหลวงพ่อสอนผู้ต้องหาในเรือนจำ นำหลักสูตรของหลวงพ่อเข้าไป ผู้ต้องขังที่อยู่ข้างในค่อนข้างมีความเดือดร้อน ทุกข์ยากทางใจ เมื่อหลวงพ่อได้เข้าไปสอนทำให้จิตใจผู้ต้องหาดีขึ้น ทำให้จิตใจได้มีการปลดปล่อย เมื่อสอนครบ 1 เดือน ผู้ต้องหาได้เล่าว่า เขาติดคุกมา 3-4 ปี ทุกวันต้องกินยานอนหลับ แต่หลังจากที่เรียนสมาธิแล้ว ชีวิตเปลี่ยนไปไม่ต้องกินยานอนหลับแล้ว เพราะว่า 1.เขาทำใจได้ 2.ยอมรับความเป็นจริง 3.สามารถผ่อนคลายจากความเครียดตรงนั้นได้จากการทำสมาธิ และวิทยากรได้พูดคุยกับผู้คุม ผู้คุมกล่าวว่าหลักจากเรียนกับหลวงพ่อจบไป ช่วงเวลาตี 3 ตี 4 ก็ลุกขึ้นมานั่งสมาธิกัน เพราะว่ามีสมาธิเป็นที่ยึดเหนี่ยว ทำให้พลังจิตที่มากขึ้น

แนะนำให้ทุกคนทำสมาธิ ไม่ว่าจะเป็นการเดินจงกรม , ยุบหนอพองหนอ , ดูลมหายใจ ,ภาวนาพุทโธ แล้วแต่ที่ทุกคนสะดวกทำ เพื่อให้นำมาปรับใช้กับชีวิตการทำงาน และเมื่อใดที่เราทำสมาธิ จิตเราก็จะใสขึ้น และการทำสมาธิที่ได้ผลคือการรักษาศีล 5 ทั้งนี้ เราเกิดมาต้องสร้างอริยทรัพย์ อริยทรัพย์ คือ บุญกุศลที่สร้างจากการทำบุญ , ทำทาน , สวดมนต์ อริยทรัพย์จะเป็นอะไรที่ติดตัวเราไปในชาติภพหน้า เป็นการรวมจิตให้นิ่งก่อนที่จะดับไป อยากฝากไว้ว่า “การฝึกสมาธิสำคัญ สร้างบุญได้ด้วยการสวดมนต์”

ก่อนจบการบรรยายคุณกัลป์ชัย ได้ฝากบทกลอนโบราณไว้ตอนท้ายว่า

“องค์พุทโธนะโมพุทธายะ เชิญพุทธะเหยียบหัวช่วยตัวข้า

เชิญพระธรรมคำสอนพระสัมมา เป็นดวงตาเห็นเหตุวิเศษไกล

เชิญหมู่สงฆ์นิทราอรหัต ประทับฐานเรือนร่างให้โรคหาย

ขอถวายชีวิตพร้อมดวงใจ พาพระรัตนตรัยไปช่วยคน

ข้าเข้าสมาธิบริสุทธ์ ฤทธิ์พระพุทธสิงสถิตทุกขุมขน

เชิญพระธรรมพร้อมสงฆ์องค์มงคล ประทับใจดลจิตข้าให้ยาดี

เชิญบิดรมารดาอันศักดิ์สิทธิ์ มาสถิตอยู่ช่วย ณ บัดนี้

ให้โรคร้ายหายสิ้นทั้งอินทรีย์ พลีชีวีรับใช้ชาวประชา

ขอเทวาอารักษ์ทั่วจักรวาล สุขสำราญและบุญแห่งตัวข้า

ขอมนุษย์ทุกชาติศาสนา พ้นโลคามีสุขทั่วทุกคน

สัตว์มีจิตวิญญาณทุกชนิด จงเลือกคิดอย่าเบียดเบียนทุกแห่งหน

อยู่ร่วมธรรมคำสอนพุทมนต์  ประสบผลสำเร็จตามต้องการ

ข้าทำบุญทุกอย่างที่ผ่านมา ให้เทวามนุษย์สัตว์ทุกสถาน

ให้เปรตผียักษ์พงศ์ยมบาล รับบุญทานสิ่งที่ข้าทำมา

อมพุทโธ อมนะโม พระพุทโธประทับในใจข้า

ช่วยดับทุกข์ดับโศกโลกโรคา ดับกิเลสบูชาด้วยพุทโธ”

พบกับกิจกรรมเรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ ได้ทุกวันศุกร์ เวลา 12:00-13:30 น. ผ่านช่องทาง facebook fanpage CPALL หรือสามารถรับฟังย้อนหลังได้ที่ช่องทางเดียวกัน พร้อมรับฟังคติธรรมดี ๆ ในช่องทาง TikTok ได้ที่ ธรรมะ TikTok.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password