“กรมบัญชีกลาง”ขยายเวลา เปลี่ยนเครื่อง EDC ที่ใช้งานครบ 5 ปี รองรับ”บัตรคนจน” รอบใหม่
“กรมบัญชีกลาง” ขยายเวลาให้ ผู้ประกอบการร้านค้า ที่มีเครื่อง EDC ใช้งานมาครบ 5ปี เปลี่ยนเครื่องเป็น แอปพลิเคชันถุงเงิน รองรับการใช้สิทธิ”บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” รอบใหม่ ถึง 26 เม.ย.นี้
วันที่ 30 มี.ค.2566 นางสาววารี แว่นแก้ว รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ตามที่กรมบัญชีกลาง ได้แจ้งแนวทางการเปลี่ยนเครื่องรับชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ (EDC) ที่มีอายุการใช้งานครบ 5 ปี โดยให้ร้านค้าแจ้งความประสงค์ขอเปลี่ยนเครื่อง EDC เป็นแอปพลิเคชันถุงเงิน หรือ ขอใช้เครื่อง EDC ต่อ ภายในวันที่ 29 มีนาคม 2566 หากร้านค้าไม่ดำเนินการภายในเวลาที่กำหนด บมจ. ธนาคารกรุงไทย จะทำการระงับสัญญาณ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2566 เป็นต้นไป แต่เนื่องจากกรมบัญชีกลาง ได้รวบรวมรายงานการส่งคืนเครื่อง EDC (กรณีอุปกรณ์ครบ/อุปกรณ์ชำรุดหรือสูญหาย) และ การขอใช้งานเครื่อง EDC ต่อ
พบว่ามีร้านค้าจำนวนมากยังไม่มาติดต่อแจ้งความประสงค์ขอเปลี่ยนเครื่อง EDC เป็นแอปพลิเคชันถุงเงิน หรือขอใช้เครื่อง EDC ต่อ ซึ่ง กรมบัญชีกลาง กรมการค้าภายใน และ บมจ. ธนาคารกรุงไทย ได้หารือร่วมกันแล้ว เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับผู้มีสิทธิตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ที่จะเริ่มใช้สิทธิในวันที่ 1 เมษายน 2566 จึงได้ขยายเวลาการเปลี่ยนเครื่อง (EDC) ที่มีอายุการใช้งานครบ 5 ปี เป็นแอปพลิเคชันถุงเงิน ไปจนถึงวันที่ 26 เมษายน 2566 ดังนั้น ขอให้ร้านค้าที่รับชำระค่าสินค้าด้วยวงเงินสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ ติดต่อกรมบัญชีกลาง/สำนักงานคลังจังหวัด เพื่อดำเนินการเปลี่ยนเครื่อง (EDC) ที่มีอายุการใช้งานครบ 5 ปี เป็นแอปพลิเคชันถุงเงิน หรือขอใช้เครื่อง EDC ต่อ เพื่อให้สามารถขายสินค้าให้แก่ผู้มีสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐได้อย่างต่อเนื่อง
หากร้านค้าไม่ติดต่อภายในเวลาที่กำหนด บมจ. ธนาคารกรุงไทย จะทำการระงับสัญญาณตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2566 เป็นต้นไป กรณีร้านค้าที่ถูกระงับสัญญาณประสงค์ขอเปลี่ยนเครื่อง EDC เป็นแอปพลิเคชันถุงเงิน หรือ ขอใช้เครื่อง EDC ต่อ ให้ติดต่อมายังกรมบัญชีกลาง/สำนักงานคลังจังหวัด ตั้งแต่วันที่ 1 – 31 พฤษภาคม 2566 หากร้านค้าติดต่อตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2566 เป็นต้นไป จะสามารถเปลี่ยนเครื่อง EDC เป็นแอปพลิเคชันถุงเงินได้เพียงอย่างเดียว สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Call Center ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 0 2109 2345 หรือ Call Center กรมบัญชีกลาง 0 2270 6400 ในวัน เวลาราชการ.