“โฮมโปร” เผย “ช้อปดีมีคืน-ท่องเที่ยวฟื้น” หนุนกำลังซื้อไตรมาสแรก เตรียมทุ่มงบ 4,000-5,000 ล้านบาท ลงทุนเปิด 10 สาขาใหม่ แย้มเตรียมแตกไลน์บริษัทรุกให้บริการ Home Solar เน้นตลาดลูกค้าที่อยู่อาศัย

21 มี.ค. 2566 นายวีรพันธ์ อังสุมาลี กรรมการผู้จัดการ บมจ. โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ หรือ HMPRO เปิดเผยว่า ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2566 พบว่าภาพรวมตลาดสินค้าเพื่อบ้านมีแนวโน้มที่ดีขึ้น เป็นผลมาจากมาตรการของรัฐอย่าง “ช้อปดีมีคืน” ทำให้ยอดใช้จ่ายเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าที่ได้รับนิยมจะเป็นเรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์โครงสร้างพื้นฐานของบ้าน เช่น เซรามิกส์ กระเบื้อง สุขภัณฑ์ เป็นต้น โดยสาขาในกรุงเทพฯและปริมณฑลจะได้รับประโยชน์ เนื่องจากมีกลุ่มที่ทำงานประจำ รวมถึงปัจจัยจากภาคการท่องเที่ยวที่ส่งผลให้ธุรกิจโรงแรมและธุรกิจบริการต่างเติบโตขึ้น

สำหรับแนวทางการดำเนินธุรกิจปี 2566 เตรียเงินลงทุนประมาณ 4,000-5,000 ล้านบาท ในการลงทุนเปิดสาขาเพิ่ม 10 สาขา แบ่งเป็นเมกาโฮม 8 สาขา ซึ่งเปิดไปแล้ว 3 สาขา ได้แก่ ทำเลรัตนาธิเบศร์ ,ติวานนท์ และบางพลี จ.สมุทรปราการ โดยเตรียมสาขาที่ จ.นครปฐม , เชียงใหม่ ,ภูเก็ต ,บางแสน และ ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ส่วนโฮมโปรมี 2 สาขา งบลงทุนสาขาละ 400-500 ล้านบาท รวมทั้งหมด 4,000-5,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้บริษัทมีสาขาทั้งหมด 113 สาขา ทั้งในประเทศไทยและรวมประเทศมาเลเซีย โดยโฮมโปร 2 สาขา ได้แก่ ภายในห้างสรรพสินค้า ซีคอน บางแค และ ในซอยวัดลาดปลาดุก เนื่องจากสาขาโฮมโปรที่ติดอยู่กับบิ๊กซี บางใหญ่จะหมดสัญญาเช่าลงกลางปีหน้า

ล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวบริการ Home Solar จะเริ่มตั้งแต่การให้คำปรึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าภายในบ้านโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ความน่าเชื่อถือของโฮมโปร โดยในระยะแรกเน้นให้บริการกลุ่มลูกค้าทั่วไปติดตั้งในระดับครัวเรือน พื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล เบื้องต้นปีนี้จะบุกที่อยู่อาศัยได้ 60 หลังคาเรือน คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 40-50 ล้านบาท นอกจากนั้น มีแผนแตกไลน์ไปสู่ธุริจพลังงานสะอาด ขณะนี้ได้จัดตั้งเป็นบริษัทเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะเห็นภาพชัดเจนในปี 2567