ทางด่วนฟรี! กลยุทธ์ ‘บริหารจราจรเชิงระบบ’

รัฐบาลยอมสละรายได้ค่าผ่านทางกว่า 272 ล้านบาท เปิดฟรี! “ทางด่วน – มอเตอร์เวย์” 10 เส้นทาง…รับช่วงปีใหม่ 2569 ไม่ใช่เพียงของขวัญเทศกาล แต่คือ…การบริหารจราจรเชิงระบบ ลดต้นทุนเวลาและพลังงานของประเทศ พร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจให้เดินหน้าได้มากกว่าตัวเลขรายได้ที่หายไป

นโยบาย “ยกเว้น” ค่าผ่านทาง! ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569 ของรัฐบาล ไม่ควรถูกมองแค่เป็นเพียง “มาตรการอำนวยความสะดวก” หรือ “ของขวัญตามฤดูกาล”

หากแต่เป็น…การตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ ที่รัฐยอม “เสียรายได้ที่มองเห็นได้” เพื่อซื้อ “ประสิทธิภาพที่มองไม่เห็น” ในระดับโครงสร้าง

ทั้งด้านเวลา พลังงาน เศรษฐกิจ และความเชื่อมั่นของประชาชนต่อความสามารถในการบริหารระบบคมนาคมของรัฐ ในช่วงเวลาที่มีแรงกดดันสูงสุดของปี

มีที่ไหนบ้าง? ที่รัฐบาลเปิดให้ประชาชนได้ใช้ทางด่วนและมอเตอร์เวย์ฟรี! ลองไปสำรวจกันดูกับ 8 เส้นทางหลัก + 2 มอเตอร์เวย์สายใหม่ ดังนี้…

กลุ่มที่ 1: ฟรี 7 วัน (30 ธ.ค. 68 – 5 ม.ค. 69)

กลุ่มนี้รวมทั้งหมด 5 เส้นทาง โดยเปิดให้วิ่งฟรีตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันที่ 30 ธ.ค. 68 ถึงเวลา 24.00 น. ของวันที่ 5 ม.ค. 69:

1. มอเตอร์เวย์ M7: กรุงเทพฯ – บ้านฉาง (ช่วงกรุงเทพฯ – พัทยา – มาบตาพุด)

2. มอเตอร์เวย์ M9: วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ (ถนนกาญจนาภิเษก) ช่วงบางปะอิน – บางพลี

3. มอเตอร์เวย์ M9: วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ (ถนนกาญจนาภิเษก) ช่วงพระประแดง – บางขุนเทียน

4. ทางพิเศษบูรพาวิถี: ทางด่วนสายบางนา – ชลบุรี

5. ทางพิเศษกาญจนาภิเษก: ทางด่วนสายบางพลี – สุขสวัสดิ์

กลุ่มที่ 2: ฟรี 2 วัน (31 ธ.ค. 68 – 1 ม.ค. 69)

กลุ่มนี้รวม 3 เส้นทาง เปิดให้ใช้ฟรีตั้งแต่วันสิ้นปีจนถึงวันขึ้นปีใหม่:

6. ทางพิเศษเฉลิมมหานคร: ทางด่วนขั้นที่ 1

7. ทางพิเศษศรีรัช: ทางด่วนขั้นที่ 2

8. ทางพิเศษอุดรรัถยา: ทางด่วนสายปากเกร็ด – บางปะอิน

เส้นทางพิเศษเพิ่มเติม:

นอกจาก 8 เส้นทางหลักข้างต้น ยังมีการเปิดให้ใช้

9.มอเตอร์เวย์ M6 (บางปะอิน – นครราชสีมา) ฟรีตลอดสายรวมระยะทาง 196 กม.

และ 10.มอเตอร์เวย์ M81 (บางใหญ่ – กาญจนบุรี) ซึ่งยังคงเปิดให้วิ่งฟรีต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมงจนกว่าจะมีการเริ่มเก็บค่าธรรมเนียมในปีหน้า

สาระสำคัญของนโยบายนี้ อยู่ที่การ “เปลี่ยนบทบาท” ของด่านเก็บเงิน จาก “จุดคอขวด” ให้กลายเป็น “ทางไหล” ของระบบ!

การไม่ต้องหยุดรถเพื่อชำระค่าผ่านทางในช่วงที่มีปริมาณการเดินทางหนาแน่น นอกจากจะช่วยลดการสะสมของรถ ลดอุบัติเหตุจากการชะลอ–เร่งความเร็ว แล้ว ยังจะช่วยลดการสิ้นเปลืองพลังงานจากการจอดแช่ และทำให้การเคลื่อนย้ายแรงงาน นักท่องเที่ยว และสินค้าในประเทศดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง

นี่คือ…“หัวใจ” ของการบริหารจราจรเชิงระบบ มากกว่าการคำนวณรายได้ด่านต่อด่าน???

ในเชิงปฏิบัติ รัฐบาล…เปิดให้ใช้ฟรี! ทั้งมอเตอร์เวย์และทางพิเศษหลายเส้นทาง ครอบคลุมแกนหลักของการเดินทางออกจากกรุงเทพฯ และปริมณฑล

โดย มอเตอร์เวย์ ในความดูแลของ กรมทางหลวง เปิดให้ใช้ฟรีเป็นเวลา 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2568 เวลา 00.01 น. ถึงวันที่ 5 มกราคม 2569 เวลา 24.00 น. ประกอบด้วย…มอเตอร์เวย์สาย M7 ช่วงกรุงเทพฯ–ชลบุรี–พัทยา–มาบตาพุด ซึ่งเป็นเส้นทางหลักสู่ภาคตะวันออกและพื้นที่อุตสาหกรรมและท่องเที่ยวสำคัญ

ผลที่เกิดขึ้นคือการระบายรถออกจากกรุงเทพฯ ได้รวดเร็ว ลดแรงกดดันบนถนนสุขุมวิทและถนนบางนา–ตราด และช่วยให้การเดินทางสู่แหล่งท่องเที่ยวชายทะเลมีความต่อเนื่องมากขึ้น

มอเตอร์เวย์สาย M9 หรือ วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ช่วงบางปะอิน–บางพลี และ ช่วงพระประแดง–บางขุนเทียน ถูกเปิดใช้ฟรีในช่วงเวลาเดียวกัน ทำหน้าที่เป็นโครงข่ายกระจายรถรอบเมือง, ลดการตัดผ่านใจกลางกรุงเทพฯ และเชื่อมการเดินทางระหว่างภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ผลลัพธ์เชิงระบบคือการลดปริมาณรถสะสมในชั้นในของเมือง และลดภาระการจัดการจราจรของเจ้าหน้าที่ในเขตเมืองหลวง

ขณะที่ มอเตอร์เวย์สาย M6 ช่วงบางปะอิน–นครราชสีมา เปิดให้ทดลองใช้ฟรีตลอดสายระยะทาง 196 กิโลเมตร ตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม 2568 เป็นต้นไป

นโยบายนี้ มีนัยเชิงกลยุทธ์มากกว่าการอำนวยความสะดวก เพราะเป็นการเปิดใช้เส้นทางใหม่ในสภาวะการใช้งานจริง ทำให้รัฐสามารถเก็บข้อมูลปริมาณรถ, พฤติกรรมผู้ใช้, ความพร้อมของระบบ และจุดอ่อนเชิงโครงสร้าง ก่อนการเปิดใช้อย่างเป็นทางการในอนาคต

พร้อมทั้งลดความแออัดบนถนนมิตรภาพซึ่งเป็นเส้นหลักเดิมสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในส่วนของ ทางพิเศษ ภายใต้การดูแลของ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย มีการยกเว้นค่าผ่านทางใน 2 ช่วงเวลา โดยช่วง แรกเปิดฟรี 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2568 เวลา 00.01 น. ถึงวันที่ 5 มกราคม 2569 เวลา 24.00 น. ครอบคลุม ทางพิเศษบูรพาวิถี (บางนา–ชลบุรี) และ ทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี–สุขสวัสดิ์) ซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมกรุงเทพฯ กับภาคตะวันออกและโครงข่ายรอบนอก

ผลที่เกิดขึ้นคือ การลดแรงกดดันบนถนนคู่ขนานและด่านเก็บเงินในช่วงพีก พร้อมรองรับปริมาณรถกว่า 2.38 ล้านคันในช่วงเทศกาล

อีกช่วงหนึ่ง เปิดฟรี 2 วัน คือวันที่ 31 ธันวาคม 2568 ถึง 1 มกราคม 2569 ครอบคลุม ทางพิเศษเฉลิมมหานคร ทางพิเศษศรีรัช และทางพิเศษอุดรรัถยา เส้นทางเหล่านี้เป็นโครงข่ายหลักในเมืองและเชื่อมต่อการเดินทางออกนอกกรุงเทพฯ ทางทิศเหนือ

การเปิดฟรีในช่วงวัน “พีกที่สุด!” ของปีช่วยลดการสะสมรถหน้าด่านในเขตเมือง, ลดความเสี่ยงอุบัติเหตุ และทำให้การเดินทางข้ามคืนปีใหม่มีความปลอดภัยและคล่องตัวมากขึ้น

นอกจากนี้ การจัดแคมเปญ “คืนเงิน” เข้าบัญชี Easy Pass 50% ยังเป็นการจูงใจให้ผู้ใช้หันมาใช้ระบบอัตโนมัติมากขึ้น, ลดการใช้เงินสด และปูทางสู่การบริหารด่านแบบดิจิทัลในระยะยาว

เมื่อมองในเชิงตัวเลข การที่ รัฐยอมสูญเสียรายได้ค่าผ่านทางรวมประมาณ 272 ล้านบาท แต่ประเมินว่าจะได้ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจกลับคืนมากกว่า 673 ล้านบาท จากการประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางราว 417 ล้านบาท และเม็ดเงินสะพัดจากการท่องเที่ยวอีกราว 256 ล้านบาท

ตัวเลขเหล่านี้ สะท้อนแนวคิดการลงทุนเชิงนโยบาย ที่รัฐยอมลดรายได้ระยะสั้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของระบบเศรษฐกิจโดยรวมในช่วงเวลาสำคัญ

ในภาพใหญ่ เมื่อมอง นโยบายทางด่วนฟรีปีใหม่ 2569 จึงไม่ใช่เพียงมาตรการบรรเทาภาระประชาชน แต่เป็นการใช้โครงข่ายคมนาคมเป็นเครื่องมือขับเคลื่อนเศรษฐกิจ, ลดต้นทุนแฝงของประเทศ และสร้างความเชื่อมั่นว่า…รัฐสามารถบริหาร “การไหลของระบบ” ได้มากกว่าการบริหารรายได้หน้าด่าน

นี่คือ…ความหมายเชิงกลยุทธ์ ของคำว่า ทางด่วนฟรี ในวันที่การจราจรไม่ใช่แค่เรื่องถนน แต่คือโครงสร้างพื้นฐานของการเติบโตทั้งระบบ!!!.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password