ฉายาสภา’68

(“รังหนอนสีเทา – รังของหนู” สะท้อนศรัทธาที่ร้าวลึก! ของฝ่ายนิติบัญญัติ)

นักข่าวสภาฯ ตั้งฉายาปี 2568 สะท้อนภาพนิติบัญญัติ “รังหนอนสีเทา – รังของหนู” วุฒิสภาถูกตั้งคำถามหนัก จริยธรรม–อำนาจ–ความเป็นกลาง งดตั้งฉายาบางตำแหน่ง หวั่นถูกใช้เป็นอาวุธการเมืองช่วงเลือกตั้ง

วันที่ 29 ธันวาคม 2568 ผู้สื่อข่าวประจำรัฐสภา ได้ร่วมกันตั้ง “ฉายาสภา” ประจำปี 2568 ตามธรรมเนียมที่ปฏิบัติต่อเนื่องมา เพื่อสะท้อนมุมมองต่อการทำหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ ทั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา ซึ่งเต็มไปด้วย ข้อถกเถียงด้านจริยธรรม บทบาททางการเมือง และความสัมพันธ์เชิงอำนาจที่ถูกจับตาอย่างเข้มข้น

สภาผู้แทนราษฎร : “รังหนอนสีเทา”

ฉายานี้สะท้อนมุมมองของนักข่าวสภาฯ ที่ เปรียบสภาผู้แทนราษฎรเป็นร่างกายของประชาชน แต่กลับถูกมองว่ามี “หนอน” คอยชอนไชจากภายใน การทำหน้าที่ของ สส.จำนวนไม่น้อยถูกตั้งคำถามว่า ไม่ยึดโยงกับประโยชน์สาธารณะ หากแต่หมุนรอบผลประโยชน์ส่วนตน กลุ่มการเมือง และเครือข่ายอำนาจ

คำว่า “หนอน” ยังสื่อถึงปรากฏการณ์ทางการเมืองที่เดิมเรียกว่า “งูเห่า” แต่พัฒนาไปสู่รูปแบบที่แนบเนียนกว่า สส.บางส่วนไม่แสดงตัวชัดเจน แต่แฝงอยู่ในพรรคหรือกลไกนโยบาย เพื่อเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกันในลักษณะ “ธุรกิจการเมือง” ที่แทบไม่เหลือพื้นที่ให้ประชาชนในสมการ

ขณะที่คำว่า “สีเทา” สะท้อนภาพรวมของนักการเมืองในสภาที่ถูกมองว่า ไม่มีใครขาวสะอาดอย่างแท้จริง หลายกรณีเชื่อมโยงกับผลประโยชน์ทับซ้อนในระดับที่กฎหมายเข้าถึงได้ยาก ทำให้ภาพลักษณ์ของสภาในปีนี้ถูกมองว่าห่างไกลจากอุดมการณ์ผู้แทนปวงชนอย่างมีนัยสำคัญ

วุฒิสภา : “รังของหนู”

สำหรับ วุฒิสภา ผู้สื่อข่าวประจำรัฐสภามองว่า แม้จะประกอบด้วยบุคคลจากหลากหลายสาขาอาชีพ แต่บทบาทและพฤติกรรมกลับถูกตั้งข้อครหาว่าเป็นกลไกของผู้มีอำนาจ และมีความใกล้ชิดกับพรรคการเมืองบางพรรคอย่างชัดเจน

ฉายา “รังของหนู” จึงสะท้อนภาพการรวมกลุ่ม การเดินเกมแบบ “พวกมากลากไป” และการใช้กลไกด้านจริยธรรมเป็นเครื่องมือทางการเมือง โดยเฉพาะต่อเสียงข้างน้อย แม้รัฐบาลจะยืนยันว่าไม่สามารถสั่งการ สว.ได้โดยตรง แต่พฤติกรรมการลงมติในหลายวาระ โดยเฉพาะการเลือกองค์กรอิสระ ก็ยังถูกตั้งคำถามถึงความเป็นอิสระและความชอบธรรม

ประธานวุฒิสภา : “หมงล้งบุรีรัมย์”

นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ได้รับฉายา “หมงล้งบุรีรัมย์” สะท้อนภาพลักษณ์ที่ถูกมองว่าบทบาทโดดเด่นในสายตาสาธารณะ ไม่ใช่การทำหน้าที่ประมุขฝ่ายนิติบัญญัติสภาสูง หากแต่เป็นการสวมบทบาท “เถ้าแก่ล้งผลไม้” พรีเซนต์ทุเรียน มังคุด และผลผลิตขึ้นชื่อของจังหวัดบุรีรัมย์อย่างคึกคัก

ตรงกันข้าม เมื่อเผชิญคำถามทางการเมืองหรือประเด็นร้อน นายมงคลมักใช้เหตุผลเรื่องความเป็นกลาง และหลีกเลี่ยงการให้ความเห็น จนถูกเปรียบเปรยว่า “ขายทุเรียนเสียงดัง แต่การเมืองเงียบกริบ” และทำให้ภาพจำของประธานวุฒิสภาในปีนี้เอนเอียงไปทางนักธุรกิจมากกว่านักรัฐสภา

ดาวดับแห่งปี : เงาของอำนาจกับพฤติกรรมที่บั่นทอนศรัทธา

ผู้สื่อข่าวประจำรัฐสภา มีมติให้ตำแหน่ง “ดาวดับ” แก่ 4 ราย ได้แก่…นายมงคล สุระสัจจะ, นายอลงกต วรกี, นายเศรณี อนิลบล และ นายธนกร ถาวรชินโชติ

กรณีของ นายอลงกต ถูกวิพากษ์จากพฤติกรรมที่พยายามสร้างสีสันเกินขอบเขต ทั้งการแสดงออกในที่ประชุมและการให้สัมภาษณ์ด้วยภาษาต่างประเทศ จนถูกมองว่าไม่เหมาะสมกับบทบาท สว.
ขณะที่นายเศรณี ถูกวิจารณ์อย่างหนักจากคลิปเหตุปะทะคารมกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยรัฐสภา ซึ่งสะท้อนทัศนคติด้านอำนาจและการใช้อารมณ์

ส่วน นายธนกร ถูกศาลจังหวัดฉะเชิงเทราตัดสินจำคุก 4 ปี ในคดีลักทรัพย์ผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ และยังถูกยื่นสอบจริยธรรมในกรณีล่วงละเมิดทางเพศ แม้คดีจะยังไม่ถึงที่สุด แต่ก็ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของสภาสูงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

วาทะแห่งปี : คำพูดที่กลายเป็นคำสัญญาทางการเมือง

วาทะแห่งปีตกเป็นของ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ

“วันนี้เราไม่ได้เลือกคุณอนุทินมาบริหารประเทศ เราเลือกคุณอนุทิน ชาญวีรกูล มายุบสภาผู้แทนราษฎร ภายใต้กรอบเวลาที่ตกลงกัน”

ถ้อยคำดังกล่าว กลายเป็นกรอบความหมายของการเมืองตลอดช่วงปลายปี 2568

เหตุการณ์แห่งปี : จากนายกฯ ชั่วคราว สู่สภาที่ถูกยุบ

เหตุการณ์สำคัญเริ่มจากวันที่ 5 กันยายน 2568 ที่ รัฐสภาโหวตเลือก อนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ แพทองธาร ชินวัตร พ้นจากตำแหน่ง

ต่อเนื่องด้วย การประชุมรัฐสภาเดือนตุลาคม ที่ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของฝ่ายค้านได้รับเลือกเป็นร่างหลัก และ ปะทุอีกครั้งในเดือนธันวาคม เมื่อการถกเถียงเรื่องอำนาจ สว. นำไปสู่การประกาศยุบสภาในวันที่ 12 ธันวาคม 2568 ตามกรอบเอ็มโอเอทางการเมือง

คู่กัดแห่งปี : พิสิษฐ์–นันทนา ปะทะอำนาจในสภาสูง

คู่กัดแห่งปี ได้แก่ นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ และ น.ส.นันทนา นันทวโรภาส “2 สว.ต่างขั้ว” ที่ปะทะคารมกันแทบทุกวาระ โดยเฉพาะ ประเด็นการเลือกองค์กรอิสระ และคดีฮั้ว สว. ซึ่งสะท้อนรอยร้าวภายในวุฒิสภาอย่างชัดเจน

งดตั้งฉายา : หลีกเกมการเมืองช่วงเลือกตั้ง

ท้ายที่สุด ผู้สื่อข่าวประจำรัฐสภา มีมติ งดตั้งฉายา “ประธานสภาผู้แทนราษฎร” “ผู้นำฝ่ายค้าน” และ “ดาวเด่น” เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกนำไปใช้เป็น เครื่องมือโจมตีทางการเมืองในช่วงหาเสียง และป้องกันความเสี่ยงด้านกฎหมายเลือกตั้ง.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password