ส.อ.ท.เผย ยอดผลิตรถยนต์ เดือน พ.ย.68 ลดลงจากเดือน ต.ค. ร้อยละ 4.03

ส.อ.ท.เผย ยอดผลิตรถยนต์ เดือน พ.ย.68 มีจำนวน 130,222 คัน ลดลงจากเดือน ต.ค. ร้อยละ 4.03 เช่นเดียวกับยอดส่งออกลดลงร้อยละ 12.22 ขณะที่ยอดผลิตรถยนต์นั่งไฟฟ้า เพิ่มขึ้นร้อยละ 1,974.14
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยจำนวนการผลิต ยอดขายภายในประเทศ และการส่งออกรถยนต์ ในเดือนพฤศจิกายน 2568 ดังต่อไปนี้ จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนพฤศจิกายน 2568 มีทั้งสิ้น 130,222 คัน ลดลงจากเดือนตุลาคม 2568 ร้อยละ 4.03 แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 11.06 จากการผลิตเพื่อขายในประเทศที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 57.49 เพราะต้องผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชดเชยในอัตรา 1.5 เท่าของยอดรถไฟฟ้านำเข้ามาจำหน่ายในปี 2565 – 2566 ที่ยังผลิตไม่ครบในปีที่แล้ว ส่งผลให้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 1,974.14 และผลิตรถกระบะเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.34 จากการผลิตเพื่อขายในประเทศที่ผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 44.31จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,341,714 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 1.64
ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนพฤศจิกายน 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 51,044 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคม 2568 ร้อยละ 8.53 และเพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 20.65 จากรถยนต์นั่งไฟฟ้าที่ขายได้เพิ่มขึ้นเพราะราคาจับต้องได้มากขึ้นและจากรถกระบะดัดแปลง PPV ที่บางบริษัทเพิ่งขายในปีนี้ รถกระบะไฟฟ้าและรถกระบะไฟฟ้าเพิ่มระยะทางที่เริ่มขายในปีนี้รวมทั้งหลักฐานการเงินของผู้ซื้อรถกระบะแข็งแรงขึ้น ช่วยให้ยอดขายรถกระบะไม่ลดลงเป็นเดือนแรก ขอขอบคุณธนาคารแห่งประเทศไทยที่ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงซึ่งจะส่งผลลดภาระให้ผู้เช่าซื้อและผู้มีหนี้ลง ชำระคืนเงินต้นได้มากขึ้น มีเงินเหลือไปจับจ่ายซื้อสินค้าจำเป็นอื่น ๆ ได้มาตรฐาน โรงงานผลิตมากขึ้น จ้างงานเพิ่มขึ้น ประชาชนมีรายได้มากขึ้น เป็นการเริ่มต้นสร้างเศรษฐกิจให้เติบโตขึ้นเสียที
รถยนต์สำเร็จรูป ส่งออกได้ 78,692 คัน ลดลงจากเดือนที่แล้วร้อยละ 5.26 และลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 12.22 จากการเลิกผลิตรถยนต์นั่งเครื่องยนต์สันดาปภายในบางรุ่นเพื่อส่งออก ส่งผลให้ส่งออกรถยนต์นั่งเครื่องยนต์สันดาปภานในลดลงถึงร้อยละ 43.53 และส่งออกรถกระบะลดลงร้อยละ 6.39 แต่ยังคงส่งออกรถกระบะไฟฟ้าและรถยนต์นั่งไฟฟ้าต่อเนื่องมาตั้งแต่กลางปี ตลาดส่งออกเพิ่มขึ้นมีแค่เอเชีย ออสเตรเลียและโอเชียเนีย เท่านั้น และชิ้นส่วนรถยนต์ส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.19
เดือนพฤศจิกายน 2568 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า ประเภท BEV จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 129,044 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – พฤศจิกายนปีที่แล้วร้อยละ 44.28
ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท HEV จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 10,912 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วร้อยละ 29.77
ยานยนต์ประเภทไฟฟ้า ประเภท PHEV จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 1,072 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วร้อยละ 39.40
ยานยนต์ประเภทไฟฟ้า ประเภท PHEV จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 1,072 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วร้อยละ 39.40.






