พาณิชย์ลงพื้นที่ศรีสะเกษ ตรวจเข้มราคา–ปริมาณสินค้าจำเป็น ดูแลศูนย์พักพิงกว่า 500 แห่ง ย้ำไม่ให้ฉวยโอกาสขึ้นราคา พร้อมเดินหน้ามหกรรมธงฟ้าและดันการค้าออนไลน์ช่วยเศรษฐกิจชายแดน

ร้อยตรี จักรา ยอดมณี รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้เดินทางลงพื้นที่อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อรับฟังสถานการณ์ด้านราคาและปริมาณสินค้า รวมทั้งความต้องการสิ่งของอุปโภคบริโภคจำเป็น โดยจังหวัดศรีสะเกษมีประชาชนที่ต้องอพยพจากที่อยู่อาศัยจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชากว่า 110,000 คน จาก 20 อำเภอ ซึ่งพักอาศัยอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว 529 แห่ง และส่วนหนึ่งพักอาศัยอยู่ที่บ้านญาติ ในส่วนของศูนย์พักพิงชั่วคราวที่ว่าการอำเภอกันทรารมย์ที่ได้เดินทางไปลงพื้นที่ในวันนี้ (20 ธ.ค. 68) มีผู้อพยพประมาณ 700 คน จึงจำเป็นต้องใช้สิ่งของอุปโภคบริโภคเป็นจำนวนมาก

กระทรวงพาณิชย์ได้นำสิ่งของอุปโภคบริโภคที่ได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชนไปมอบให้แก่ศูนย์พักพิงชั่วคราวฯ รวมกว่า 255,000 ชิ้น มูลค่าประมาณ 7.45 ล้านบาท เช่น ผงซักฟอก น้ำยาล้างจาน น้ำยาทำความสะอาด ผ้าอนามัย ครีมอาบน้ำ แชมพู ยาสีฟัน แปรงสีฟัน โจ๊กคัพ นม และยารักษาโรค เป็นต้น นอกจากนี้ได้มอบหมายให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสนับสนุนการปฏิบัติงานของฝ่ายปกครอง ท้องถิ่น และอาสาสมัครต่างๆ ที่ได้ทำงานกันอย่างเข้มแข็งในการดูแลความเป็นอยู่และความปลอดภัยของประชาชนตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา

จากนั้นรองปลัดกระทรวงพาณิชย์ได้เดินทางต่อไปยังตลาดสดเทศบาลตำบลกันทรารมย์ เพื่อติดตามสถานการณ์การค้า พบว่าของกินของใช้จำเป็น ทั้งของสดและของแห้งมีจำหน่ายตามปกติ และไม่พบการฉวยโอกาสจำหน่ายสินค้าในราคาแพงเกินสมควร

ทั้งนี้ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ยังได้เน้นย้ำให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั้ง 7 จังหวัดชายแดนไทย – กัมพูชา ติดตามสถานการณ์ราคาและปริมาณสินค้าในพื้นที่อย่างใกล้ชิดและกำกับดูแลไม่ให้มีปัญหาสินค้าขาดแคลนและให้จำหน่ายสินค้าในราคาที่เป็นธรรม หากประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรมด้านราคาและปริมาณสินค้าสามารถแจ้งได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัด หรือสายด่วน 1569

นอกจากนี้กระทรวงพาณิชย์จะจัดมหกรรมธงฟ้า สินค้าราคาประหยัดกระตุ้นเศรษฐกิจชายแดนอย่างต่อเนื่อง โดยนำสินค้าราคาประหยัดไปจำหน่ายในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเพื่อลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชน ในขณะเดียวกันจะมีการจัดงานจำหน่ายสินค้าและเปิดพื้นที่จำหน่ายให้แก่ผู้ประกอบการจาก 7 จังหวัดชายแดน รวมทั้งสนับสนุนด้านการตลาดในรูปแบบใหม่ๆ และการค้าออนไลน์ เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าออกไปยังนอกพื้นที่ให้มากขึ้น ซึ่งได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน.