การเมืองกำลังเข้าสู่ช่วงชี้ชะตา “จุดเปลี่ยนสำคัญ!” จากปม “แก้รัฐธรรมนูญและยุบสภาฯ” ทว่า “นายกฯอนุทิน” กลับเลือกใช้ประเด็นชายแดน? เป็นสัญญาณว่า “รัฐยังนิ่งและพร้อม.!” แม้การเมืองจะร้อนแรงสักเพียงใด? ตอกย้ำว่า…ประเทศไม่เคยขาด “คน” คุมสถานการณ์บ้านเมืองไทย!!!

ขณะที่ การเมืองไทย…กำลังเดินหน้าเข้าสู่ช่วง “หัวเลี้ยวหัวต่อ” ครั้งสำคัญที่สุด!…นับตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นมา…

การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่กำลังพิจารณาในวาระที่ 2 และวาระที่ 3 กลายเป็น “เส้นทางบังคับ” สู่…การยุบสภาฯ ในเดือนมกราคม 2569 ตามกรอบเวลาที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ย้ำด้วยน้ำเสียงมั่นใจหลายครั้งว่า…

“ยุบสภาแน่นอน!!!”

แต่สิ่งที่โดดเด่นไม่น้อยไปกว่าการวาง “ไทม์ไลน์” เลือกตั้ง คือ…การที่รัฐบาล “เร่งแสดง” ศักยภาพด้านความมั่นคง ในช่วงเวลาเดียวกัน โดยเฉพาะ…การจัดการสถานการณ์ตึงเครียด! ตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชาในภาคอีสานใต้

แม้ “ผู้นำรัฐบาล” จะให้คำตอบตรงไปตรงมาว่า “ไม่มีสัญญาณบอกเหตุใหม่” แต่กลับเลือกใช้ถ้อยคำอีกด้านหนึ่งที่ ทรงพลังยิ่งกว่า และถูกหยิบย้ำหลายครั้ง นั่นคือ…

หลักการ “ระวัง…ตั้งสงบ…เตรียมรบให้พร้อม!”

เป็นหลักปฏิบัติ…ที่สะท้อนทั้ง “บทเรียน” และ “ความพร้อม” ในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็น…เหตุปะทะ, การรุกล้ำ หรือความเคลื่อนไหวใด? ที่อาจคาบเกี่ยวกับปัญหาความมั่นคงทางชายแดนไทย!

ด้วยการ…ฝึกซ้อมอพยพประชาชน, การจัดตั้งศูนย์พักพิง และการเสริมความพร้อมของชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านกับกองอาสารักษาดินแดนใน 7 จังหวัดชายแดน

ทั้งหมด…ถูกขับเคลื่อนภายใต้นโยบายที่ นายอนุทิน กำกับเอง ทั้งในฐานะ…นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย

การลงพื้นที่บุรีรัมย์…เพื่อดูการ “สาธิต” สถานการณ์จำลอง นั้น ไม่เพียงเป็นการตรวจสอบฝ่ายความมั่นคง หากยังเป็น…การสื่อสารทางการเมืองที่ชัดเจน ถึงประชาชน ว่า…

“รัฐบาลทำงานอยู่ทุกวัน แม้กำลังจะยุบสภาฯ”

โดยข้อความสำคัญที่ นายอนุทิน เลือกใช้ต่อหน้าสื่อ คือ การย้ำว่า…“ช่วงสุญญากาศทางการเมือง จะไม่ทำให้ประเทศไร้เสถียรภาพ เพราะรัฐบาลรักษาการยังมีอำนาจเต็มในการบริหารเหตุฉุกเฉิน ผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งไม่ถูกยุบตามสภาฯ ยังคงเป็นกลไกหลักในการควบคุมสถานการณ์”

และ…ไม่มีวันที่ประเทศจะไร้ผู้ตัดสินใจในเรื่องความปลอดภัยของประชาชน!!??

ในบริบททางการเมือง นี่คือ การส่งสัญญาณ ว่า…การยุบสภาไม่ใช่ “ช่องโหว่ความมั่นคง” อย่างที่หลายฝ่ายกังวล

ตรงกันข้าม? รัฐบาล…กลับใช้ช่วงเวลา “ใกล้ยุบสภาญ” เป็นเวทีแสดงความพร้อมด้านความมั่นคง ทั้งเพื่อยืนยันสถานะความเป็น “ผู้นำ” และเพื่อ “สกัด!” ทุกความพยายามจะผูกโยงปัญหาแนวชายแดน เป็นเหตุผลในการชะลอการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะโดยตรงหรือทางอ้อม…

นี่คือ ท่าทีที่ต้องการสื่อว่า…“ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น ประเทศเดินต่อได้ ไม่ต้องหยุดเพื่อรอการเมือง”

ความเคลื่อนไหวด้าน การเจรจากับกัมพูชา ภายใต้ กรอบสนธิสัญญาออตตาวา ซึ่งก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวว่า…ไม่เป็นผล??? สิ่งนี้…ได้ถูกปฏิเสธจาก นายกฯอนุทิน ที่ระบุว่า…

ไทยปฏิบัติตามหลักมนุษยธรรม ไม่รุกล้ำดินแดนเพื่อนบ้าน แต่เมื่อจำเป็น ไทยก็พร้อม “ตอบโต้ทุกรูปแบบ” หากเกิดการกระทำที่ “คุกคามอธิปไตย”

การตอบแบบชัด…นิ่ง…ไม่ยั่วยุ! เช่นนี้ เสริมภาพ “ผู้นำ” ที่รอบคอบและต้องการสร้างความเชื่อมั่น มากกว่าความตื่นตระหนก

ทั้งหมดนี้…ทำให้เห็นการ “วางจังหวะ” ของรัฐบาล ที่ล้อไปกับกระบวนการยุบสภาฯ, การแก้รัฐธรรมนูญในวาระที่ 2 วันที่ 10–11 ธันวาคม และการโหวตวาระที่ 3 ช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปีหน้า

เป็น…เส้นทางสู่ “การเลือกตั้งใหม่” ที่ นายกฯอนุทิน ได้เตรียมการเอาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ระหว่างที่ หลายพรรคการเมือง…ต่างเร่งคัดสรรผู้สมัคร ทว่า นายกฯอนุทิน กลับเลือกแสดงภาพ “ผู้นำที่ดูแลความมั่นคงของประเทศได้แม้การเมืองอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน”

นี่คือเหตุผลว่า…ทำไม? ในช่วงเวลาที่การเมืองกำลังร้อนแรง แต่รัฐบาลกลับเลือกพูดถึงปัญหาชายแดนบ่อยกว่าการต่อสู้ในสภาฯ

นั่นเพราะ…เสถียรภาพด้านความมั่นคง! คือ ความสำคัญที่หนักแน่นที่สุด!

ประเทศไทย…พร้อมเดินไปสู่การเลือกตั้งแบบไม่สะดุด! และไม่ถูกใช้เป็นข้ออ้างใด ๆ ต่อการจะหยุดกระบวนการ “รีเซ็ต” ทางการเมืองนับจากนี้ไป…

ประชาชน อาจติดตามข่าว…การอภิปรายแก้รัฐธรรมนูญ หรือ จับตาญัตติต่าง ๆ ในสภาฯ แต่ใน สายตาของรัฐบาล ภาพความมั่นคงชายแดน คือ “หมุดหมายหลักสำคัญ!” ที่จะต้องปักเอาไว้ เพื่อตอกย้ำว่า…

“ประเทศปลอดภัย แม้ในภาวะที่การเมืองกำลังร้อนฉ่า!”

และนั่น…อาจกลายเป็น “ข้อความสำคัญที่สุด!” ที่รัฐบาลต้องการส่งไปถึงคนไทยและทุกภาคส่วน ก่อนจะก้าวเข้าสู่ปีการเมือง 2569

ปีที่ประเทศไทย…จะได้ “นับหนึ่ง” ใหม่อีกครั้ง! บนสนามเลือกตั้ง…ที่หลายคน อาจกำลังรอคอย เขาคนนั้น??? มาทำหน้าที่ “หัวหน้ารัฐบาลไทย”!!!.