DITP ชี้โอกาสไทยส่งออก ‘สี’ พร้อมลงทุนบริการติดตั้ง–บำรุงรักษาระบบทำความเย็นไม่ใช้ไฟฟ้าในอินเดีย

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เผยอินเดียเดินหน้าส่งเสริมระบบการทำความเย็นแบบไม่ใช้พลังงานไฟฟ้า ที่มุ่งใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีสีเขียว ชี้เป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทย ทั้งส่งออกสีเคลือบหลังคา การให้บริการติดตั้ง บำรุงรักษา พร้อมจับมือบริษัทก่อสร้างหรือผู้ผลิตวัสดุในอินเดียในการทำตลาด

นางสาวสุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้มอบนโยบายให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในประเทศต่างๆ ทำการสำรวจลู่ทางการค้า และโอกาสการส่งออกสินค้าไทยไปยังประเทศที่ประจำอยู่ ตามนโยบายนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ล่าสุดได้รับรายงานจากนางสาวสัญฉวี พัฒนจักร ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองมุมไบ อินเดีย ถึงการเติบโตของระบบการทำความเย็นแบบไม่ใช้พลังงานไฟฟ้า ซึ่งเป็นวัตกรรมและเทคโนโลยีสีเขียว และโอกาสในการเข้าไปทำตลาด โดยเฉพาะการเข้าไปทำธุรกิจบริการ และสร้างพันธมิตรทางการค้ากับบริษัทก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์ และผู้ผลิตวัสดุในอินเดีย เพื่อสร้างโอกาสในการทำธุรกิจของไทย

โดยทูตพาณิชย์ได้รายงานว่า จากสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง การขยายตัวของเมือง ความหนาแน่นของประชากรในเขตเมืองที่เพิ่มขึ้น ทำให้อินเดียมีความต้องการเข้าถึงระบบทำความเย็นเพิ่มขึ้น แต่ก็นำมาซึ่งการใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างมาก ขณะที่อินเดียยังคงพึ่งพาไฟฟ้าจากถ่านหินเป็นหลัก ทำให้ความต้องการใช้ไฟฟ้ามีผลต่อการปล่อยก๊าซคาร์บอนเพิ่มขึ้น อินเดียจึงมีนโยบายพัฒนาการทำความเย็นแบบไม่ใช้พลังงานไฟฟ้า ซึ่งเป็นนวัตกรรมและเทคโนโลยีสีเขียว เช่น สีสะท้อนแสงที่ช่วยลดอุณหภูมิหลังคา ระบบระบายอากาศแบบพาสซีฟ ที่เพิ่มการไหลเวียนของอากาศ เทคโนโลยีระบายความร้อนแบบแผ่รังสีที่สามารถปลดปล่อยความร้อนกลับสู่บรรยากาศ และห้องเก็บผลผลิตแบบไม่ใช้พลังงาน ที่สามารถเก็บรักษาผลไม้และผักสดได้หลายวันโดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้า

นอกจากนี้ รัฐบาลอินเดียยังมีนโยบายชัดเจน โดยมีแผนปฏิบัติการทำความเย็นแห่งชาติ กำหนดเป้าหมายลดความต้องการทำความเย็นในทุกภาคส่วน ลดการใช้สารทำความเย็น และลดความต้องการใช้พลังงานเพื่อทำความเย็น และหันมาใช้การทำความเย็นแบบไม่ใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ทั้งการการปรับปรุงอาคาร การใช้วัสดุเคลือบสะท้อนความร้อน การติดตั้งระบบทำความเย็นแบบพาสซีฟ

ทั้งนี้ จากแนวนโยบายดังกล่าว พบว่า เป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการไทย โดยไทยเริ่มมีการผลิตสินค้า ในกลุ่มเหล่านี้ เช่น สีเคลือบหลังคาและผิวเคลือบเซรามิกที่ใช้เทคโนโลยีสะท้อนรังสีอินฟราเรดและรังสีแสงอาทิตย์  ที่สามารถลดอุณหภูมิพื้นผิวหลังคาได้ 5–14 องศาเซลเซียส ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจำหน่ายทั้งในระดับอุตสาหกรรม และสำหรับที่อยู่อาศัย และมีแบรนด์ไทยที่มีศักยภาพ Sunproof และ BegerCool Roof ที่ได้รับการพัฒนาจนสามารถแข่งขันและสร้างชื่อเสียงในระดับภูมิภาค แต่ปริมาณการส่งออกโดยรวมยังคงอยู่ค่อนข้างจำกัด

ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการไทยที่สนใจในตลาดเทคโนโลยสีเขียวข้างต้น อาจพิจารณาศึกษาความต้องการของตลาดอินเดีย เพื่อให้สามารถพัฒนาการบริการเชิงนวัตกรรมควบคู่ไปกับการสำรวจตลาดและนำเสนอบริการครบวงจร ตั้งแต่การประเมินพื้นที่ ติดตั้งไปจนถึงการบำรุงรักษา จะช่วยสร้างความแตกต่างและความน่าเชื่อถือแก่ผู้ประกอบการไทย และการสร้างพันธมิตรกับบริษัทก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์ หรือผู้ผลิตวัสดุในอินเดีย จะช่วยให้เข้าถึงตลาดได้รวดเร็วขึ้น เข้าใจข้อกำหนดทางกฎหมายและระบบโลจิสติกส์ในพื้นที่มากขึ้น ตลอดจนลดความเสี่ยงทางธุรกิจจากการดำเนินงานในต่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ สำหรับผู้สนใจข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เว็บไซต์ www.ditp.go.th หรือสายด่วน 1169 และสำหรับผู้ที่สนใจสมัครเป็นผู้ขายบนเว็บไซต์หรือติดตามข้อมูลการค้าและคำสั่งซื้อจากทั่วโลกสามารถเข้าไปที่ แพลตฟอร์มการค้าออนไลน์ระหว่างประเทศ thaitrade.com.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password