ส่งออกไทย ชะลอแต่ยังโตต่อเนื่อง ต.ค.ขยายตัว 5.7% เติบโตยาว 16 ด. คาดทั้งปีโต 10.7–11.4%

สนค. เผยส่งออกเดือน ต.ค. 68 ยังขยายตัว 5.7% แม้ชะลอลงจากเดือนก่อน แต่ยังเติบโตต่อเนื่อง 16 เดือน มูลค่าส่งออก 10 เดือนแรกโต 13% หนุนจากสินค้าอิเล็กทรอนิกส์–ยานยนต์ ขณะที่สินค้าเกษตรยังติดลบ คาด 2 เดือนสุดท้ายยังมีแรงขับทำมูลค่าส่งออกเฉลี่ย 2.5–2.6 หมื่นล้านดอลลาร์ ดันทั้งปีโตกว่า 10% พร้อมจับตาศาลสหรัฐกรณีภาษีทรัมป์ ซึ่งอาจเป็นบวกหากตัดสินว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย

นายนันทพงษ์ จิระเลิศพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ แถลงการณ์ส่งออกของไทยในเดือนตุลาคม 2568 มีมูลค่า 28,835.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (910,316 ล้านบาท) ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 16 ที่ร้อยละ 5.7 หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย ขยายตัวที่ร้อยละ 15.7 การส่งออกไปยังตลาดหลักอย่างสหรัฐฯ จีน และสหภาพยุโรป รวมถึงตลาดรอง เช่น เอเชียใต้ ตะวันออกกลาง และลาตินอเมริกา ที่ยังคงขยายตัวได้ดี แม้ว่าจะมีแรงกดดันจากการปรับขึ้นภาษีของสหรัฐฯ แรงสนับสนุนหลักมาจากการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ยังมีอยู่ต่อเนื่อง รวมถึงสินค้ากลุ่มยานยนต์ และภาคการผลิตโลกที่อยู่ในภาวะขยายตัว จากผลผลิตและคำสั่งซื้อใหม่ อย่างไรก็ตาม การส่งออกสินค้าเกษตรของไทยยังคงอยู่ในภาวะหดตัว ทั้งนี้ การส่งออก 10 เดือนแรกของปี 2568 ขยายตัวที่ร้อยละ 13.0 หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย ขยายตัวที่ร้อยละ 13.8 

ขณะที่มูลค่าการค้ารวมในรูปเงินดอลลาร์สหรัฐ เดือนตุลาคม 2568 การส่งออก มีมูลค่า 28,835.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 5.7 เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน การนำเข้า มีมูลค่า 32,272.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 16.3 ดุลการค้า ขาดดุล 3,436.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภาพรวม 10 เดือนแรกของปี 2568 การส่งออก มีมูลค่า 282,982.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 13.0 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การนำเข้า มีมูลค่า 286,848.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 12.4 ดุลการค้า ขาดดุล 3,866.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หากเทียบมูลค่าการค้าในรูปเงินบาท เดือนตุลาคม 2568 การส่งออก มีมูลค่า 910,316 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 1.3 เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน การนำเข้า มีมูลค่า 1,032,034 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 11.4 ดุลการค้า ขาดดุล 121,718 ล้านบาท ภาพรวม 10 เดือนแรกของปี 2568 การส่งออก มีมูลค่า 9,307,535 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 5.1 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การนำเข้า มีมูลค่า 9,548,691 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 4.6 ดุลการค้า ขาดดุล 241,155 ล้านบาท

ทั้งนี้ การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร หดตัวร้อยละ 5.1 (YoY) หดตัวต่อเนื่อง 3 เดือน โดยสินค้าเกษตร หดตัวร้อยละ 14.6 หดตัวต่อเนื่อง 3 เดือน ในขณะที่สินค้าอุตสาหกรรมเกษตร ขยายตัวร้อยละ 6.2 ขยายตัวต่อเนื่อง 2 เดือน โดยมีสินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ ขยายตัวร้อยละ 168.9ขยายตัวต่อเนื่อง 3 เดือน (ขยายตัวในตลาดอินเดีย มาเลเซีย เมียนมา เกาหลีใต้ และศรีลังกา) ผลิตภัณฑ์ข้าวสาลีและอาหารสำเร็จรูปอื่นๆ ขยายตัวร้อยละ 8.0 ขยายตัวต่อเนื่อง 22 เดือน (ขยายตัวในตลาดจีน เมียนมา ลาว ญี่ปุ่น และเวียดนาม)ผลไม้กระป๋องและแปรรูป ขยายตัวร้อยละ 15.0 ขยายตัวต่อเนื่อง 25 เดือน (ขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ เนเธอร์แลนด์ ออสเตรเลีย แคนาดา และญี่ปุ่น) และกุ้งสดแช่เย็นแช่แข็ง ขยายตัวร้อยละ 24.3 ขยายตัวต่อเนื่อง 6 เดือน (ขยายตัวในตลาดจีน สหรัฐฯ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และเกาหลีใต้) ขณะที่สินค้าสำคัญที่หดตัว อาทิ ยางพารา หดตัวร้อยละ 12.5 หดตัวต่อเนื่อง 6 เดือน (หดตัวในตลาดญี่ปุ่น มาเลเซีย สหรัฐฯ เกาหลีใต้ และสเปน แต่ขยายตัวในตลาดจีน เวียดนาม โรมาเนีย ฟิลิปปินส์ และสหราชอาณาจักร) ข้าว หดตัวร้อยละ 38.6 หดตัวต่อเนื่อง 12 เดือน (หดตัวในตลาดสหรัฐฯ แอฟริกาใต้ อิรัก จีน และมาเลเซีย แต่ขยายตัวในตลาดโกตดิวัวร์ แทนซาเนีย แคนาดา แองโกลา และฮ่องกง) อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป หดตัวร้อยละ 4.8 หดตัวต่อเนื่อง 5 เดือน (หดตัวในตลาดสหรัฐฯ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย อียิปต์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แต่ขยายตัวในตลาดลิเบีย แคนาดา ซาอุดีอาระเบีย อิสราเอล และชิลี) ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง และแห้ง หดตัวร้อยละ 35.8 หดตัวต่อเนื่อง 3 เดือน (หดตัวในตลาดจีน สหรัฐฯ มาเลเซีย เวียดนาม และฮ่องกง แต่ขยายตัวในตลาดอินโดนีเซีย ญี่ปุ่น อินเดีย สหราชอาณาจักร และแคนาดา) ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง หดตัวร้อยละ 19.2 หดตัวต่อเนื่อง 4 เดือน (หดตัวในตลาดจีน ญี่ปุ่น มาเลเซีย ไต้หวัน และสหรัฐฯ แต่ขยายตัวในตลาดเกาหลีใต้ อินเดีย เวียดนาม แอฟริกาใต้ และแคนาดา) และเครื่องดื่ม หดตัวร้อยละ 9.8 หดตัวต่อเนื่อง 3 เดือน (หดตัวในตลาดจีน กัมพูชา อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ และกานา แต่ขยายตัวในตลาดเวียดนาม เมียนมา ลาว ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย) ทั้งนี้ 10 เดือนแรกของปี 2568 การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร ขยายตัวร้อยละ 0.03

ส่วนการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมมูลค่าการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม ขยายตัวร้อยละ 8.8 (YoY) ขยายตัวต่อเนื่อง 19 เดือน โดยมีสินค้าสำคัญที่ขยายตัว อาทิ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ขยายตัวร้อยละ 67.8 ขยายตัวต่อเนื่อง 19 เดือน (ขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ จีน เนเธอร์แลนด์ สิงคโปร์ และมาเลเซีย) รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ขยายตัวร้อยละ 16.3 ขยายตัวต่อเนื่อง 2 เดือน (ขยายตัวในตลาดออสเตรเลีย เม็กซิโก ฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น และสหรัฐฯ) เครื่องโทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ขยายตัวร้อยละ 21.5 ขยายตัวต่อเนื่อง 5 เดือน (ขยายตัวในตลาดสิงคโปร์ เม็กซิโก ไอร์แลนด์ จีนและเมียนมา) อัญมณีและเครื่องประดับ (ไม่รวมทองคำ) ขยายตัวร้อยละ 25.8 ขยายตัวต่อเนื่อง 12 เดือน (ขยายตัวในตลาดอินเดีย ฮ่องกง สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เยอรมนี และสหราชอาณาจักร) เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ ขยายตัวร้อยละ 17.1 ขยายตัวต่อเนื่อง 6 เดือน (ขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ ญี่ปุ่น อินเดีย มาเลเซีย และอินโดนีเซีย) แผงสวิตซ์และแผงควบคุมไฟฟ้า ขยายตัวร้อยละ 49.2 ขยายตัวต่อเนื่อง 22 เดือน (ขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ สิงคโปร์ เวียดนาม มาเลเซีย และญี่ปุ่น)

ทั้งนี้ สินค้าสำคัญที่หดตัว อาทิ เคมีภัณฑ์ หดตัวร้อยละ 5.0 หดตัวต่อเนื่อง 6 เดือน (หดตัวในตลาดอินเดีย จีน อินโดนีเซีย มาเลเซีย และเมียนมา แต่ขยายตัวในตลาดญี่ปุ่น สหรัฐฯ เวียดนาม เนเธอร์แลนด์ และลาว) เม็ดพลาสติก หดตัวร้อยละ 6.6 หดตัวต่อเนื่อง 4 เดือน (หดตัวในตลาดจีน อินเดีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย แต่ขยายตัวในตลาดเวียดนาม ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน ลาว และฮ่องกง) เครื่องสำอาง สบู่ และผลิตภัณฑ์รักษาผิว หดตัวร้อยละ 10.6 กลับมาหดตัวหลังจากขยายตัวในเดือนก่อนหน้า (หดตัวในตลาดญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ ออสเตรเลีย จีน และมาเลเซีย แต่ขยายตัวในตลาดเวียดนาม ลาว อินโดนีเซีย ฮ่องกง และสหรัฐฯ) เครื่องรับวิทยุ โทรทัศน์และส่วนประกอบ หดตัวร้อยละ 13.7 หดตัวต่อเนื่อง 5 เดือน (หดตัวในตลาดสหรัฐฯ เยอรมนี เวียดนาม เม็กซิโก และเนเธอร์แลนด์ แต่ขยายตัวในตลาดญี่ปุ่น อินเดีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย และฮ่องกง) ทั้งนี้ 10 เดือนแรกของปี 2568 การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม ขยายตัวร้อยละ 17.5

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า ยอดการส่งออกในเดือน ต.ค.68 หดตัว มาจากการชะลอตัวลงสั่งสินค้านำเข้าไปตลาดต่างๆ ทั่วโลกเริ่มน้อยลงและลดความกังวลต่อกรณีเรียกเก็บภาษีของสหรัฐอเมริกาที่ชัดเจนขึ้น ทำให้ยอดการส่งออกโดยรวมของไทยในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาเป็นบวกมากขึ้น แม้ว่าในเดือน ต.ค.68 เริ่มชะลอตัวลงมาบ้าง แต่ทิศทางช่วง 2 เดือนที่เหลือปี 68 ยอดการส่งออกเฉลี่ยค่อเดือนจะยังขยายตัวเป็นบวกอยู่ คาดว่าจะมีมูลค่าสูง 25,000-26,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่งผลให้ยอดส่งออกตลอดปี 68 เป็นบวกได้อยู่ที่ 10.7-11.4 % หรือคิดเป็นมูลค่า 332,982.1-334,982.1 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนการส่งออกในปี 69 อยู่ระหว่างพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน คาดว่าจะสามารถเคาะตัวเลขส่งออกในปีหน้าได้ก่อนสิ้นปีนี้ แต่เชื่อว่ายังส่งออกเป็นบวกได้อยู่ หลังความชัดเจนภาษีสหรัฐลงตัว แต่คงต้องจับตา หากผลการพิจารณาของศาลสหรัฐต้นปีหน้าตัดสินค้าแต่แนวทางเรียกเก็บภาษีของรัฐบาลทรัมป์ไม่ชอบด้วยกฎหมายถึงขั้นกลับไปใช้ภาษีตามเดิมก็เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อภาคการส่งออกทั่วโลกได้.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password