‘พาณิชย์’ ชง 5 มาตรการคุมเข้มจดตั้งธุรกิจ สกัด ‘นอมินี–บัญชีม้า’

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ออก 5 มาตรการ เพิ่มขั้นตอนแสดงตัว–ตรวจฐานะการเงิน–คัดกรองกลุ่มเสี่ยง พร้อมบูรณาการข้อมูลหลายหน่วยงาน คาดบังคับใช้ครบก่อนปี 2569 หวังปิดช่องทุจริตตั้งแต่ต้นทาง ลดปัญหานอมินีธุรกิจต่างชาติ

วันที่ 24 พฤศจิกายน นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการป้องกันและสกัดปัญหานอมินีบัญชีม้า กรมฯจะได้ออก 5 มาตรการในทางปฎิบัติ ประกอบด้วย 1.ขยายการตรวจสอบบุคคลกลุ่มเสี่ยง (HR-03) ที่เริ่มดำเนินการแล้ว ซึ่งได้มีหน่วยงานส่งรายชื่อให้กรมตรวจสอบแล้ว 9 หมื่นราย พบว่าเจอเข้าข่ายเสี่ยง 40 ราย  2.บูรณาการข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับสถานะทางการเงิน โดยส่วนนี้กรมฯขอความร่วมมือจากกระทรวงการคลัง ส่งรายชื่อผู้ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีอยู่แล้ว 13.4 ล้านคน เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่าจะมีขบวนการหลอกลวงหรือนำชื่อผู้ถือบัตรสวัสดิการมาให้ยื่นจดตั้งบริษัท ดังนั้น จากนี้ผู้มีชี่อยื่นจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทต้องมาแสดงตัวพร้อมหลักฐานต่างๆ โดยเฉพาะฐานะการเงิน เป็นทางหนึ่งที่จะปิดกั้นมิฉาชีพนำชื่อหรือหลอกให้ลงชื่อเพื่อมาจดตั้งบริษัทเถื่อนหรือถือหุ้นแทน(นอมินี)

3. พัฒนาระบบตรวจจับพฤติกรรมกลุ่มเสี่ยง มาตรการนี้จะเน้นการตรวจสอบรายละเอียดส่วนบุคคล ซึ่งที่ผ่านมา เจอชื่อบุคคลยื่นจดตั้งบริษัทหรือเป็นกรรมการในหลายบริษัท และยังมีที่ตั้งสำนักงานเดียวกัน จากนี้ผู้ที่มีชื่อจดตั้งบริษัทต้องแสดงตน พร้อมหลักฐานต่างๆ โดยเน้นตรวจสอบสถานที่เดียวกันแต่เป็นที่ตั้ง 5 บริษัท  4.ปรับปรุงระเบียบ/คำสั่ง ประเด็นนี้ที่ผ่านมา การยื่นจดตั้งบริษัทหรือดำเนินการเปลี่ยนแปลงใดๆ กว่า 85 % เป็นการว่าจ้างบริษัทรับดำเนินการจดตั้งบริษัท อาทิ คนทำบัญชี สำนักงานบัญชีและทนายความ เป็นต้น จากนี้ ผู้รับจ้างและผู้รับรองลายมือชื่อ ต้องมาแสดงตนและลงลายมือชื่อต่อหน้าเจ้าหน้าที่พนักงาน เพื่อเป็นการแสดงตัวตน และ 5.ระงับสิทธิผู้ใช้งานระบบจดทะเบียนที่ฝ่าฝืนเงื่อนไขและข้อตกลง  ซึ่งส่วนนี้มีผู้เกี่ยวข้องกว่า 8 หมื่นราย และเป็นประเด็นต่อเนื่องจากข้อ 4. ถ้าหากพบว่ากลุ่มนี้กระทำผิด จะถูกดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องและถูกถอดใบอนุญาตประกอบธุรกิจ ซึ่งทั้ง 5 แนวทางดังกล่าวจะใช้เป็นแนวทางปฎิบัติก่อนได้รับการอนุมัติจัดตั้งบริษัทใหม่ ซึ่งระยะเวลาการพิจารณาจะยังเหมือนเดิมเพียงเพิ่มการแสดงตัวตนและเอกสารประกอบให้ชัดเจนมากขึ้น

 ใน 5 มาตรการที่จะดำเนินการ บางส่วนสามารถเริ่มได้เลย เช่น การตรวจสอบข้อมูลบุคคลกลุ่มเสี่ยง ซึ่งหน่วยงานในและนอกที่ร่วมกันบูรณาการแล้ว จัดส่งรายชื่อมาให้ตรวจสอบ หรือ กรณีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เราก็สามารถเข้าไปตรวจสอบได้เลยว่า ถูกหลอกหรือมีการรับจ้างเป็นนอมินีหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาเวลาเจอปัญหา มักเจอบุคคลที่มีบัตรเหล่านี้ถูกมิจฉาชีพนำชื่อหรือดึงเลขบัตรประชาชนมายื่นจดบริษัทหรือแอบใช้ชื่อเป็นกรรมการ หรือ นำชื่อไปเปิดบัญชีม้า ส่วนบางเรื่องต้องเปิดรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานและประชาชนทั่วไปก่อน เช่น การแสดงตัวตน ก่อนได้รับการอนุมัติจดตั้งธุรกิจ หรือ เปลี่ยนรายชื่อ เพื่อสกัดการถูกหลอกหรือแอบอ้างใช้ชื่อ โดยขั้นตอนเปิดรับฟังความคิดเห็นจะดำเนินการภายใน 15 วัน จากนั้นออกประกาศของกรม เพื่อบังคับใช้ต่อไป คาดว่าทั้ง 5 มาตรการจะใช้ครบทุกขั้นตอนก่อนปีใหม่ 2569 นี้ เชื่อว่าจะเป็นการลดปัญหานอมินีและบัญชีม้าที่กำลังเป็นปัญหาระดับชาติ ให้ลดลง เป็นการสกัดตั้งแต่ต้นทาง โดยจะนำประเด็นนี้เข้าหารือในการประชุม ประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างชาติที่ฝ่าฝืนกฎหมาย(คสธก.)ที่มีนายเอกนิติ  นิติทัณฑ์ประภาศ  รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในวันที่ 9 ธันวาคมนี้ “ นายพูนพงษ์ กล่าว

นายพูนพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผลการตรวจสอบนอมินี ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ได้มีการส่งดำเนินคดีแล้ว 72 ราย และอยู่ระหว่างการตรวจสอบเชิงลึก โดยเป็นธุรกิจใหญ่อีก 448 ราย ซึ่งกรมจะลงลึกตรวจสอบรายธุรกิจ อาทิ อสังหาริมทรัพย์ ที่ตอนนี้มีทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในไทยจำนวนมาก.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password