จีนเทา – แผลไทย!!??

(จาก ‘บัตรหัวศูนย์’ ถึง ‘ห้องใต้บันได’ ในคุกพิเศษ – แผนที่ ‘อิทธิพล’ ทุนจีนเทา…ในร่างกายรัฐไทย)

“เงิน” ง้างได้ทุกสรรพสิ่ง ไม่เว้น “อำนาจรัฐ” หลังพบซื้อการ “สวมตอ” บัตรประชาชนเป็นคนไทย ซื้ออภิสิทธิ์ในคุกไทย สะท้านสะเทือนปมความมั่นคงและอำนาจรัฐไทย ที่มีมากกว่าโดนท้าทายด้วยอาชญากรรม แต่ลงลึกผ่านการแทรกซึมเชิงโครงสร้าง จนต้องตั้งคำถามว่า…รัฐไทยยังคุม “อธิปไตย” ได้จริงแค่ไหน?

การเปิดโปงกรณี “บัตรหัวศูนย์” ในพื้นที่อำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ กับ เหตุการณ์ “ห้องใต้บันได” ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ อาจดูเป็นเรื่องราว 2 เส้นที่ไม่เกี่ยวโยงกัน???

แต่หากพิจารณาใน “ภาพใหญ่” ของโครงสร้างรัฐไทย ทั้ง 2 กลับเชื่อมต่อกันอย่างชัดเจนและไร้รอยต่อ ราวกับอยู่ในผังเดียวกัน

นั่นคือ…ผังของการ “ซื้อขาย – อำนาจรัฐ” โดยกลุ่มทุนจีนเทา!!!

แทรกซึม! ทั้ง “หน้าบ้าน” ของรัฐไทย ผ่านระบบทะเบียนราษฎร และ “หลังบ้าน” ของรัฐไทย ผ่านระบบราชทัณฑ์ จนทำให้ “เครื่องมือสำคัญ” ของอำนาจอธิปไตย เช่น…บัตรประชาชนไทย และระบบลงโทษผู้กระทำผิด ฯลฯ

กลายสภาพเป็น “สินค้า” ที่นำมาซื้อขายกันได้อย่างน่าตกใจ!!!

บัตรประชาชนไทย ซึ่งควรเป็น “สัญลักษณ์สูงสุด!” ของอำนาจรัฐ และการรับรองความเป็นพลเมือง กลับถูก “ลดทอน” ให้เป็นเพียง…สินค้าราคาตลาด มีค่าระหว่าง 55,000 บาทถึง 600,000 บาท ตามชนิดของบริการ???

ไม่ว่าจะเป็น…การสวมสิทธิคนตาย, การดึงชื่อคนที่แจ้งเกิด แต่ไม่เคยแจ้งตาย, การขอสัญชาติไทย ผ่านบัตรเลข 0 หรือแม้กระทั่ง การใช้ “เลือดปลอม” จากคนไทยไปตรวจ DNA เพื่อสร้างความเชื่อว่า “ผู้ขอ” เป็นทายาทสายโลหิตของคนไทยจริง

รายงานของ “ดีเอสไอ” และ ตำรวจภูธรภาค 5 แสดงให้เห็นว่า…มีการปลอมสัญชาติให้คนต่างด้าวอย่างเป็นระบบ! ในพื้นที่ อ.เวียงแหง อย่างต่อเนื่องยาวนาน ตั้งแต่ปี 2554 ผ่านปี 2563 และกลับมาเกิดอีกในปี 2568

พื้นที่แห่งนี้…เปรียบเสมือนเป็น “เมืองหลวง” ของความผิดปกติด้านสัญชาติไทย!!??

เรื่องนี้ ไม่ใช่…การทุจริตแบบรายคน แต่คือ…โครงสร้างผิดปกติ ที่ฝังรากลึกอยู่ภายในระบบทะเบียนราษฎรของไทย

ภาพของการ “จับกุม” นายอำเภอเวียงแหง ปลัดอำเภอ ลูกจ้างอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รวมถึงนายหน้า และกลุ่มคนจีนที่เข้ามา “ซื้อสิทธิ” สัญชาติ เป็น “สัญญาณ” ชัดเจนว่า…

หน่วยงานรัฐในระดับพื้นที่ “ถูกเจาะ!” จนทะลุ

และ เงินจาก “เครือข่ายสีเทา” สามารถ “ซื้อทางลัด” เข้าสู่การเป็นคนไทยได้จริง!!!

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย โดยเฉพาะตำแหน่งหลัง…เกี่ยวโยงกับเรื่อง “สวมตอเป็นคนไทย” อย่างที่สุด! และได้กล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า…

“ส่วยสัญชาติเป็นบ่อนทำลายนิติรัฐ นิติธรรม และเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ”

และยืนยันว่า…การออกหมายจับนายอำเภอครั้งนี้เป็น ครั้งแรกของกระทรวงมหาดไทย

ก่อนจะประกาศดัง ๆ ตามมา…“ไม่ว่าจะตำแหน่งหรือสถานะใดก็ตาม หากไปถึงไหนก็ต้องโดนหมด”

ถือเป็นถ้อยคำที่เน้นย้ำว่า…รัฐบาลยอมรับแล้วว่าปัญหานี้ ไม่ได้อยู่ที่เจ้าหน้าที่ระดับล่างเท่านั้น แต่โยงขึ้นไปถึงระดับที่มีอำนาจสูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้???

ความผิดปกติในเชิงโครงสร้างนี้…ยิ่งชัดเจนมากยิ่งขึ้น! เมื่อมองไปยังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ซึ่งควรเป็น “พื้นที่ควบคุมที่เข้มงวดที่สุด!” ของกระบวนการยุติธรรม แต่กลับพบว่า…มี “นักโทษจีนเทา” บางราย? สามารถ “ซื้อ” อภิสิทธิ์! เหนือการควบคุมได้อย่างเปิดเผย

การ “จู่โจม” ของกรมราชทัณฑ์ เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายนที่ผ่านมา นำไปสู่การค้นพบ…ความผิดปกติระดับที่ผู้บริหาร เองยังยอมรับว่า…“รับไม่ได้”

เรื่องนี้ พล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ รมว.ยุติธรรม กล่าวอย่างเคร่งเครียดว่า…“ตั้งแต่รับราชการมาจนเกษียณอายุ เพิ่งเคยพบเหตุการณ์เช่นนี้”

โดยเหตการณ์นี้ ยังพบด้วยว่า..เจ้าหน้าที่เรือนจำฯ ได้นำพา “นางแบบสาวสวยชาวจีน” ไปให้บริการทางเพศแก่นักโทษกลุ่ม VIP ใน “ห้องใต้บันได” ที่อยู่ด้านล่างของห้อง ผบ.เรือนจำฯ ซึ่งถูกจัดทำเอาไว้เป็นพิเศษ เพื่อ “หลบ” กล้องวงจรปิด

ในพื้นที่ฯ ยังพบ…ถุงยาง, กล่องบรรจุอุปกรณ์ และเส้นทางการพานักโทษออกจากแดน โดยอ้างคำสั่งผู้บังคับบัญชาระดับสูง!

พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ซึ่งลงพื้นที่ด้วยตนเอง ระบุว่า…เหตุการณ์นี้ไม่ใช่ความผิดพลาดแบบโดดเดี่ยว แต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือของเจ้าหน้าที่หลายระดับ

เหตุเพราะ…การนำ “บุคคลภายนอก” เข้ามาในแดนคุมขังจำ เป็นต้องมี “การอนุมัติ” หลายขั้นตอน

การ “หลบ” กล้องวงจรปิดจะต้องมีคนรู้ระบบ

และ การจัดพื้นที่ใต้บันไดเป็น “จุดพิเศษ” แสดงให้เห็นว่า…สิ่งนี้ไม่ใช่อุบัติเหตุ? แต่เป็นการจัดตั้งพื้นที่บริการภายในคุกอย่างเป็นระบบ!!!

เมื่อเหตุการณ์ทั้ง 2 ถูกมองในภาพเดียวกัน จะเห็นได้ว่า “กลุ่มทุนจีนเทา” กำลังใช้ “วิธีเดียวกัน” ในการแทรกซึมรัฐไทย!!??

นั่นคือ…ใช้เงิน “ซื้อกติกา” แทนการหลบกติกา

การซื้อบัตรประชาชน คือ…การซื้อสถานะทางกฎหมาย

และ การซื้ออภิสิทธิ์ในคุก ก็คือ…การซื้อการลดทอนความผิด

ทั้ง 2 อย่าง…ทำให้ “ผู้กระทำผิด” สามารถจะ “เดินเกม” อาชญากรรมระดับภูมิภาค ได้โดยมี “รัฐไทย” เป็นเขตรองรับ ทั้งในฐานะ…แหล่งพักเงิน, แหล่งตั้งบริษัทบังหน้า, แหล่งผลิตคอนเทนต์สแกม และพื้นที่พักโทษที่ถูกทำให้สะดวกสบาย

แรงกดดันจากทางการจีน เอง ก็เป็น…ส่วนสำคัญ! ในปรากฏการณ์นี้ เพราะจีน…พยายามจะ “ควบคุม” อาชญากรรมข้ามชาติ ที่เชื่อมโยงกับพลเมืองจีน ทั้งที่เกิดขึ้นใน สปป.ลาว, เมียนมา และกัมพูชา

จีน…ไม่ต้องการให้ “ทุนสีเทา” เหล่านี้ “ทำลาย” ภาพลักษณ์ของชาติในเวทีโลก จึงมีแนวโน้ม…ส่งสัญญาณกดดันให้ไทย ต้องเร่ง “กวาดล้าง” เครือข่ายฟอกสัญชาติ และฟอกตัวเองในเรือนจำไทย

ซึ่งไม่เพียง “ส่งผลเสีย” ต่อความมั่นคงของไทย แต่ยังสะท้อนถึงการปล่อยปละละเลย ที่ทางการจีนเอง ก็เป็นกังวลเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ปฏิบัติการ “ตัดหมอกเวียงแหง” และ “การจู่โจมเรือนจำกรุงเทพฯ” แม้จะเป็น “สัญญาณ” ว่า…รัฐไทย “เริ่มเอาจริง!” แต่ยังเป็นเพียง…การแก้ที่ปลายเหตุ???

การจับกุมนายอำเภอ, ปลัดอำเภอ หรือผู้คุมเรือนจำ เป็นเพียงการ “ตัด” เส้นเลือดฝอย แต่เส้นเลือดใหญ่ของโครงสร้างทุจริตยังอยู่

นั่นคือ “เส้นทางเงิน” นายหน้าใช้ผูกโยงไปถึง…กลุ่มทุนการเมืองท้องถิ่น, กลุ่มผลประโยชน์จากแรงงานต่างด้าว และกลุ่มทุนจีนเทาระดับสูง! ที่เชื่อมโยงกับ…การฟอกเงิน เว็บพนันออนไลน์ ค้ามนุษย์ และสแกมเงินข้ามชาติ

หากรัฐไทยต้องการแก้ปัญหานี้จริง! ต้องมองผ่านกรอบ “ความมั่นคงด้านอัตลักษณ์ชาติ” ซึ่ง ประเทศยุโรปใช้จริงในการป้องกันการสวมสัญชาติและการฟอกตัวในระบบราชทัณฑ์

รัฐบาลภายใต้การนำของ นายกฯอนุทิน ควร “สร้างระบบฐานข้อมูลทะเบียน” ที่สามารถจะ ตรวจสอบย้อนกลับได้ทุกขั้นตอน, มีระบบ audit trail สำหรับทุกคำร้องขอทำบัตรครั้งแรก, แก้ปัญหาการแจ้งเกิด–แจ้งตายที่หลวมเกินไป และตั้งกลไกตรวจสอบอิสระที่ไม่อยู่ภายใต้อำเภอหรือจังหวัดโดยตรง

ส่วนใน ระบบราชทัณฑ์ การแก้ไขต้อง “ลงลึก!” ไปถึงโครงสร้างการกำกับดูแล ไม่ใช่เพียงแค่ “สั่งย้าย” ผู้บัญชาการอีกไม่กี่คน

สิ่งสำคัญคือ…ต้องมี “ระบบกล้องวงจรปิด” แบบ “ปิดไม่ได้” ในพื้นที่ที่เจ้าหน้าที่ร่วมกันรับผิดชอบ, ระบบตรวจสอบแบบสุ่มจากหน่วยงานภายนอก และ ระบบลงโทษเจ้าหน้าที่ที่มีผลทันที ไม่ใช่แค่ย้ายไปช่วยราชการชั่วคราว

ท้ายที่สุด! เส้นทางจาก “บัตรหัวศูนย์” ในชายแดนตอนเหนือ ถึง “ห้องใต้บันได” ในเรือนจำพิเศษกลางกรุงฯ อาจเป็นเพียง 2 ตอนในเรื่องเดียวกัน นั่นคือ…

เรื่องของรัฐไทยที่กำลัง “ถูกทดสอบ” ความสามารถในการควบคุมอำนาจอธิปไตยของตัวเอง!!!

หาก…บัตรประชาชนไทย ยังคง “ถูกซื้อ” ได้ และ ระบบราชทัณฑ์ ยัง “ถูกดัดแปลง” ให้พวก…ต่างด้าว “สีเทา” ได้ “สวมตอ” เป็นคนไทย…สร้างระบบความสะดวกสบายรองรับให้กับคนมีเงิน?

รัฐไทย…ก็จะค่อย ๆ “สูญเสีย!” ทั้งตัวตนและศักดิ์ศรีของความเป็นรัฐไปทีละน้อย…

การปฏิบัติการในครั้งนี้! จึงต้องไม่ใช่เพียง “การโชว์” ที่ว่า…รัฐบาลได้ลงมือทำแล้ว? แต่ต้องทำให้เป็น “จุดเริ่มต้น!” ของแผนยุทธศาสตร์ในการ “ปฏิรูปโครงสร้างรัฐ” ทั้งทางด้าน…ทะเบียนราษฎรและเรือนจำ

“ปิด!” เส้นทางให้ทุนต่างชาติสีเทา เพื่อไม่ให้คนเหล่านี้…สามารถจะใช้เงิน “ฟาด” เจ้าหน้าที่รัฐไทย เพื่อทำการ “สวมตอ” ซื้อร่างกายเป็น “คนไทย” ได้อีกต่อไป!!!.

ทีมข่าวยุทธศาสตร์ No.2

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password