‘ธนกร’ ส่งทีม ‘เต็มเหนี่ยว’ ปิด 2 โรงงานเถื่อน จ.สมุทรปราการ


นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม สั่งการชุดปฏิบัติการ “เต็มเหนี่ยว” กระทรวงอุตสาหกรรม นำโดย นายฐาปกรณ์ กุลเจริญ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วย นายธัญญารัตน์ พรหมสุทธิ์ อุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรปราการ และเจ้าหน้าที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรปราการ (สอจ.สมุทรปราการ) เจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ลงพื้นที่ตรวจสอบโรงงานของ นางสาวอัจฉรา ศรีศุภชัยทา ตั้งอยู่ที่ ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการซึ่งเป็นการขยายผลติดตามหลังเกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงาน เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา
โดยกระทรวงอุตสาหกรรมได้มีคำสั่งให้หยุดประกอบกิจการโรงงาน หลังพบว่าประกอบกิจการไม่ตรงกับที่ได้รับอนุญาต จากประกอบกิจการทำแบบพิมพ์โลหะและชิ้นส่วนอุปกรณ์เกี่ยวกับโลหะ เป็นประกอบกิจการคัดแยกบดสับยางรีเคลม เข้าข่ายโรงงาน ประเภท 106 และมีคำสั่งฯ ให้นำกากของเสียส่งออกไปกำจัดอย่างถูกต้อง

ซึ่งจากการตรวจสอบครั้งนี้พบว่าโรงงานฯ ไม่มีการดำเนินกิจการ แต่พบขนย้ายกากของเสียที่เกิดจากไฟไหม้ เช่น เศษยาง ออกนอกโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ จึงมีคำสั่งให้หยุดการขนกากที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายออกนอกบริเวณโรงงาน และจะดำเนินการขั้นเด็ดขาดกรณีฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติโรงงานต่อไป ทั้งนี้ ถ้าผู้ประกอบกิจการโรงงานไม่ปรับปรุงแก้ไขโรงงานหรือไม่ปฏิบัติให้ถูกต้อง ภายในเวลาที่กำหนด ให้ปลัดกระทรวงหรือผู้ซึ่งปลัดกระทรวงมอบหมายมีอำนาจสั่งปิดโรงงานได้ และในกรณีที่เป็นโรงงานจำพวกที่ 3 ให้คำสั่งปิดโรงงานดังกล่าวมีผลเป็นการเพิกถอนใบอนุญาต

“การฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าหน้าที่รัฐ ถือว่ามีความผิดรุนแรง และอาจจะทำให้เกิดผลกระทบกับชุมชนได้ ทีมเต็มเหนี่ยวจึงต้องกวดขัน ส่วนใหญ่โรงงานที่เคยทำความผิดมักมีแนวโน้มกระทำความผิดซ้ำจึงต้องเข้มงวด ลงพื้นที่ซ้ำแสดงให้เห็นว่ากระทรวงฯ จับตาดูอยู่ตลอด เพื่อให้มิให้การดำเนินกิจการเหล่านี้เกิดผลกระทบกับประชาชนและสิ่งแวดล้อม ปัญหาจะต้องลดลงจนเหลือน้อยที่สุด” นายฐาปกรณ์ กล่าว
ต่อมาชุดเต็มเหนี่ยวได้เดินทางไป ตรวจติดตาม บริษัท ไทยรุย รับเบอร์ จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 88/114 หมู่ที่ 15 ต.บางปลา อ.บางพลี จ. สมุทรปราการ ประกอบกิจการบดย่อยยางรถยนต์ ขณะเข้าตรวจสอบพบว่า บริษัทฯ มีเครื่องจักรในการประกอบกิจการ อาทิ เครื่องดึงลวด ปั๊มลม ชุดสายพานลำเลียง ชุดบดย่อยยาง ชุดเครื่องร่อนโลหะ เป็นต้น รวมกำลังเครื่องจักรกว่า 789 แรงม้า คนงานจำนวน 24 คน แต่ไม่พบใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน จึงเข้าข่ายเป็นโรงงานเถื่อน มีความผิดตาม พระราชบัญญัติ โรงงาน พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 2 พ.ศ.2562 มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่ฯ ได้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.






