ศุภจี ถกเอกชน ลุยสกัดสินค้าด้อยคุณภาพ–สวมสิทธิ เตรียมชงกรอบทำงานเสนอ’เอกนิติ’

รมว.พาณิชย์ประชุมร่วมหน่วยงานรัฐ–เอกชน วางกรอบรับมือสินค้าต่างประเทศราคาถูก–ผิดกฎหมาย แข่งขันไม่เป็นธรรม และปัญหาสวมสิทธิถิ่นกำเนิดสินค้า เตรียมเสนอแผนทำงานต่อที่ประชุมคณะกรรมการ คสธก. 9 ธ.ค.นี้ พร้อมเผยกรมศุลกากรเดินหน้าเข้มแพลตฟอร์มออนไลน์ ตรวจมาตรฐานสินค้า–ราคา ก่อนขาย และเตรียมจัดเก็บภาษีนำเข้าตั้งแต่ 1 บาท ตั้งแต่ 1 ม.ค. 2569 เป็นต้นไป

วันที่ 14 พฤศจิกายน เวลาประมาณ 16.00 น. นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังประชุมรวมพลังเสริมแกร่งสู่ความยั่งยืนของหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องและภาคเอกชน ว่า เป็นการประชุมเพื่อติดตามสถานการณ์และกำหนดกรอบการทำงาน รวมถึงเป้าหมายการดำเนินการ ครอบคลุมใน 3 ด้าน ได้แก่ 1.ปัญหาสินค้าราคาถูก ด้อยคุณภาพและผิดกฎหมายจากต่างประเทศ 2.ปัญหาสินค้าเข้ามาแข่งขันอย่างไม่เป็นธรรม ก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้ผลิตไทย 3. ปัญหาการสวมสิทธิถิ่นกำเนิดสินค้า(Transshipment) เพื่อนำไปสู่การเข้มงวดคัดกรองสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ ลดปัญหาสินค้าด้อยคุณภาพทะลักเข้าประเทศไทย และสร้างตระหนักรู้ในเรื่องระบบการตรวจถิ่นกำเนิด เพื่อเป็นการรองรับภาษีสหรัฐ ที่อยู่ระหว่างการเจรจาและมีเป้าหมายร่วมจะได้ข้อสรุปภายในสิ้นปี 2568 นี้

นางศุภจี กล่าวว่า เป็นการเตรียมข้อมูล ก่อนเข้าไปหารือในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย (คสธก.) ครั้งแรก ที่มีนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน ที่กระทรวงการคลัง ในวันที่ 9 ธันวาคมนี้ โดยมีหน่วยงานรัฐและเอกชนเข้าร่วม 12 หน่วยงาน ซึ่งจะมีการกำหนดแนวทาง เป้าหมาย และตั้งคณะทำงาน
ทั้งนี้ ในการประชุมกรมศุลกากร ได้รายงานต่อประชุมว่า กรมฯขอความร่วมมือกับเจ้าของผู้ให้บริการแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ดำเนินการในไทย แจ้งรายละเอียดข้อมูลจำนวนและราคา พร้อมกับกำกับสินค้าขายบนออนไลน์ต้องได้มาตรการฐานไทยก่อนเปิดการขายและห้ามนำเข้าโดดเด็ดขาด และตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2569 จะมีการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากต่างประเทศตั้งแต่ราคา 1 บาท จากเดิมผ่อนปรนจัดเก็บสินค้านำเข้าที่มูลค่าเกิน 1,500 บาท.








