กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เดินหน้ารุกตลาดออนไลน์ จับมือ Shopee จัดแคมเปญ “สุขใจซื้อของไทย” รวมกว่า 1,000 ร้านค้า และเปิดตัว 3 ร้านค้าต้นแบบจากโครงการ TIJ#2 ที่สร้างยอดขายจริงบนแพลตฟอร์ม หวังยกระดับผู้ประกอบการสู่ยุคดิจิทัลเต็มรูปแบบ หนุนผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นเข้าถึงผู้ซื้อทั่วประเทศ สอดรับยุทธศาสตร์ Digital Transformation for Thai Business

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ร่วมมือกับแพลตฟอร์มการค้าออนไลน์ยักษ์ใหญ่อย่างบริษัท ช้อปปี้ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ Shopee เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการไทยให้ยกระดับธุรกิจสู่ตลาดออนไลน์ผ่านแคมเปญส่งเสริมการขายต่างๆ การฝึกอบรม และโปรโมชัน  ดึงดูดลูกค้า โดยความร่วมมือนี้ช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น สามารถเพิ่มยอดขาย และสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน

อธิบดีพูนพงษ์ฯ กล่าวต่อว่า “ล่าสุดกรมฯ ได้ร่วมมือกับ Shopee จัดกิจกรรมกระตุ้นยอดขายให้ผู้ประกอบการร้านค้าออนไลน์ภายใต้การส่งเสริมของกรมฯ กว่า 1,000 ร้านค้า ผ่านแคมเปญ Landing Page ‘สุขใจซื้อของไทย’ โดยความพิเศษของกิจกรรมในครั้งนี้คือ การเปิดตัว 3 ร้านค้าที่เป็นผู้ชนะเลิศจากโครงการ ‘The Influencer Journey รุ่นที่ 2 (TIJ#2)’ ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาเจ้าของธุรกิจให้ก้าวสู่การเป็นอินฟลูเอนเซอร์ได้ด้วยตนเอง สร้างตัวตนให้ร้านค้า และแบรนด์ที่เข้มแข็ง และเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจ”

 “โดยทั้ง 3 ร้าน ประกอบไปด้วย 1) ร้าน Prasertphanich จากกาญจนบุรี เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายข้าวสารคุณภาพหลากหลายประเภท ทั้งข้าวหอมสายพันธุ์บัวจัสมิน ข้าวหอมมะลิแท้ ข้าวขาวคัดพิเศษ และข้าวหอมไทย ในหลากหลายแบรนด์และขนาด 2) ร้าน Snackie.th จากเชียงใหม่ เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านขนมและของกินเล่นแนวสุขภาพที่โด่งดังจากการปรับตัวเข้าสู่ตลาดออนไลน์ด้วยการสร้างคอนเทนต์ที่น่าสนใจ ทำให้มีสินค้ายอดฮิตมากมาย เช่น สตอเบอร์รี่เส้นคัพ พร้อมผงคลุกรสเด็ด สตอเบอร์รี่โรล เปรี้ยวอมหวานหนึบอร่อย ผักเคลอบกรอบไม่ผ่านการทอดดีต่อสุขภาพ และมันหนึบญี่ปุ่นสูตรน้ำผึ้ง 3) ร้าน Jirapornfood หรือกล้วยตากจิราพร จากพิษณุโลก ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารแปรรูปจากกล้วยและผลไม้แปรรูป คุณภาพเยี่ยม รสชาติอร่อยและมีมาตรฐานสินค้าไทย”

 “ความร่วมมือในครั้งนี้ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของกรมฯ ที่ตั้งเป้าหมายไปสู่ Digital Transformation for Thai Business พร้อมสร้างสะพานเชื่อมโยงระหว่าง ‘คนทำของดี’ กับ ‘ผู้ซื้อทั่วประเทศ’ ผ่านการใช้เทคโนโลยีและช่องทางการตลาดออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้สินค้าคนไทยขายได้จริง มีกำไรจริง และเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล” อธิบดีพูนพงษ์ฯ กล่าวทิ้งท้าย.