GPSC ปลื้มกำไร 9 เดือนปี 68 โต 60% พร้อมรับโอกาส นโยบาย Direct PPA ผลิตไฟสะอาด ป้อน Data Center

GPSC รายงานผลประกอบการงวด 9 เดือนปี 2568 มีกำไรสุทธิ 4,901 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 60 สะท้อนประสิทธิภาพการบริหารต้นทุน การจัดการทางการเงิน และการสร้างมูลค่าเพิ่มจากการลงทุนในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง พร้อมรับโอกาสนโยบายรัฐผลักดันโครงสร้างพื้นฐานขับเคลื่อนพลังงานหมุนเวียนผ่านกลไก Direct PPA ดึงเงินทุน Data Center เข้าไทย

นายวรวัฒน์ พิทยศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC แกนนำนวัตกรรมธุรกิจไฟฟ้ากลุ่ม ปตท. เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน ปี 2568 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิรวม 4,901 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 60 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนความแข็งแกร่งของการดำเนินงานหลัก (Core Operation) และประสิทธิภาพในการบริหารจัดการต้นทุน บริษัทฯ ได้รับรู้กำไรพิเศษจากการขายหุ้นใน Avaada Energy Private Limited (AEPL) สัดส่วนร้อยละ 3.03 คิดเป็นมูลค่าสุทธิ 745 ล้านบาท

พร้อมทั้งบริหารต้นทุนทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพจากการชำระคืนเงินกู้บางส่วน และบริษัทฯได้รับประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวลดลง สำหรับ ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและการร่วมค้าเพิ่มขึ้น 310 ล้านบาท หรือเพิ่มร้อยละ 500 โดยได้รับแรงหนุนจากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของ บริษัท ไซยะบุรี พาวเวอร์ จำกัด (XPCL) สปป.ลาว ซึ่งสามารถผลิตไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้นจากปริมาณน้ำที่มากขึ้นจากประเทศจีนและปรากฏการณ์ลานีญา

ขณะเดียวกัน AEPL มีผลประกอบการปรับตัวดีขึ้นจากการเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ของโครงการใหม่เพิ่มขึ้น โดยในช่วง 9 เดือนปี 2568 มีการจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์รวมเพิ่มขึ้น 905 เมกะวัตต์ สะท้อนการเติบโตอย่างต่อเนื่องของธุรกิจพลังงานหมุนเวียนในอินเดียภายใต้พอร์ตการลงทุนของ GPSC

สำหรับผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ปี 2568 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิรวม 1,742 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 14 จากไตรมาสก่อน สาเหตุหลักมาจากปัจจัยด้านฤดูกาลและอัตราแลกเปลี่ยน ขณะที่ผลการดำเนินงานหลัก (Core Operation) ยังคงแข็งแกร่ง โดยมีกำไรขั้นต้น 5,717 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 12 จากไตรมาสก่อน และร้อยละ 9 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้าจากการฟื้นตัวของอุปสงค์ในกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมและราคาก๊าซธรรมชาติที่ลดลง ขณะโรงไฟฟ้า IPP มีการบริหารต้นทุนเชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ส่วนต่างพลังงาน (Energy Margin) ปรับตัวดีขึ้น ขณะที่ผลตอบแทนจากบริษัทร่วมลดลงตามฤดูกาล อาทิโครงการพลังงานลมนอกชายฝั่ง Changfang และ Xidao (CFXD) และ AEPL อย่างไรก็ตาม โรงไฟฟ้า XPCL มีผลการดำเนินงานดีขึ้นจากปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้น และโครงการน้ำลิก 1 (NL1PC) จากกำไรจากการปรับสัญญาซื้อขายไฟฟ้า รวมถึงรับรู้เงินปันผลจากบริษัท ราชบุรี เพาเวอร์ จำกัด 53 ล้านบาท

นายวรวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับ กลไก Direct PPA ดึงเงินลงทุน Data Center เข้าไทย GPSC มุ่งขยายพอร์ตพลังงานสะอาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับโอกาสจากนโยบาย Direct PPA ที่เปิดทางให้ภาคเอกชนสามารถทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับผู้ผลิตได้โดยตรง โดยเฉพาะกลุ่ม Data Center และธุรกิจเทคโนโลยีขั้นสูง ที่ต้องการพลังงานสะอาดและมีเสถียรภาพสูง บริษัทฯ พร้อมต่อยอดศักยภาพด้านเทคโนโลยีและการบริหารจัดการ เพื่อสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างยั่งยืน” ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงติดตามสถานการณ์ด้านราคาพลังงาน นโยบายการค้าระหว่างประเทศ และความคืบหน้าโครงสร้างค่าไฟฟ้าใหม่ภายใต้แผน PDP รวมถึงนโยบายเปิดเสรีระบบโครงข่ายไฟฟ้า (Third Party Access: TPA) ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการแข่งขันและการลงทุนพลังงานสะอาดในวงกว้าง

โดยคาดว่าภาครัฐจะเริ่มโครงการนำร่อง Direct PPA สำหรับ Data Center ผ่านระบบ TPA ปริมาณรวมไม่เกิน 2,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 2570 ซึ่งจะเป็นโอกาสให้ GPSC ขยายการลงทุนพลังงานหมุนเวียนในประเทศ ทั้งในพื้นที่ EEC และพื้นที่ศักยภาพอื่น รองรับความต้องการพลังงานสะอาดที่เพิ่มขึ้นในอนาคต.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password