นายกฯปลื้ม! ‘คนละครึ่ง พลัส’ ทำคนไทยทั่วประเทศมีสุข สั่งลุยเฟส 2

นายกรัฐมนตรี ปลื้ม! “คนละครึ่งพลัส” กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ชี้ประชาชนมีความสุข เงินหมุนเวียนทั่วประเทศ สั่งเดินหน้าเฟส 2 ให้ครอบคลุมกลุ่มเปราะบาง–ชายขอบ พร้อมมอบหมายคลัง–มหาดไทยนำผู้ตกหล่นเข้าระบบ ด้านปัญหามันสำปะหลังราคาตกต่ำ เร่งทุกหน่วยบูรณาการช่วยเกษตรกร
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย กล่าวระหว่างเป็น ประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายฝ่ายเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) ครั้งที่ 3 ว่า รัฐบาลยังคงเดินหน้านโยบายด้านเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดผลเชิงบวกต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวม โดยเฉพาะมาตรการ “คนละครึ่ง พลัส” ที่เริ่มดำเนินการไปแล้วและเห็นผลชัดเจนในเชิงกระตุ้นเศรษฐกิจระดับฐานราก ซึ่งสร้างความสุข ความเชื่อมั่น
นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ที่ผลักดันโครงการนี้ให้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ พร้อมระบุว่าประชาชนตอบรับอย่างดี มีความพึงพอใจในการเข้าร่วม ซึ่งทำให้เม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลต่อร้านค้าในท้องถิ่น และผู้ประกอบการรายย่อยที่ได้รับอานิสงส์โดยตรง
อย่างไรก็ตาม นายอนุทิน ยอมรับว่า โครงการฯยังมีข้อจำกัดด้านความทั่วถึง โดยเฉพาะการลงทะเบียนแบบ “มาก่อนได้ก่อน” (First Come, First Serve) ซึ่งทำให้กลุ่มประชาชนที่มีความพร้อมทางเทคโนโลยีสามารถเข้าถึงสิทธิ์ได้ก่อน ขณะที่กลุ่มเปราะบางและประชาชนในพื้นที่ห่างไกลกลับถูกทิ้งไว้ข้างหลัง รัฐบาลจึงเตรียมเดินหน้า “คนละครึ่ง พลัส เฟส 2” เพื่อเปิดโอกาสให้กลุ่มที่ตกหล่นได้รับสิทธิ์อย่างเท่าเทียม
“ผมได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงการคลังร่วมกันหากลไกนำกลุ่มเปราะบางเข้าระบบให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ผู้พิการ และเกษตรกรในพื้นที่ห่างไกล เพื่อให้โครงการนี้เป็นของทุกคน ไม่ใช่เฉพาะคนที่มีสมาร์ตโฟนหรืออินเทอร์เน็ต” นายกรัฐมนตรีกล่าว พร้อมย้ำให้ ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอทั่วประเทศช่วยประชาสัมพันธ์และอำนวยความสะดวกให้ประชาชนเข้าถึงสิทธิ์ได้จริงในส่วนของภาคการเกษตร
ในส่วนของภาคการเกษตร นายอนุทิน กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาราคาพืชผลตกต่ำ โดยเฉพาะ “มันสำปะหลัง” ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจหลักที่กำลังได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง จึงได้มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์บูรณาการมาตรการดูแลเกษตรกร ทั้งด้านการพยุงราคา การขยายตลาดส่งออก และการเร่งเจรจาความตกลงการค้าเสรี (FTA) กับประเทศคู่ค้าหลัก เพื่อเพิ่มช่องทางจำหน่ายและลดปัญหาผลผลิตล้นตลาด
นายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า การแก้ปัญหาเศรษฐกิจจะต้องเดินคู่กันทั้ง “รายได้ประชาชน” และ “เสถียรภาพราคาพืชผล” โดยยืนยันว่ารัฐบาลพร้อมรับฟังเสียงสะท้อนจากทุกภาคส่วน และพร้อมปรับมาตรการให้ตอบโจทย์ความเป็นอยู่ของประชาชนในทุกระดับ เพื่อให้เศรษฐกิจหมุนเวียนได้จริงจากฐานรากสู่ระดับประเทศอย่างยั่งยืน
“โครงการคนละครึ่ง พลัส ไม่ได้เป็นเพียงนโยบายกระตุ้นการใช้จ่าย แต่เป็นเครื่องมือสำคัญในการฟื้นฟูความมั่นใจของประชาชน และสร้างความเชื่อมโยงระหว่างเศรษฐกิจเมืองกับชนบท รัฐบาลตั้งใจทำให้เห็นผลในทุกพื้นที่ และจะไม่ปล่อยให้ใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง” นายอนุทิน กล่าวทิ้งท้าย.






