“ธนกร” สั่ง “เต็มเหนี่ยว” ลุยตรวจโรงงาน ในจังหวัดฉะเชิงเทรา สั่งปิดอีก 1 แห่ง พบผิด พ.ร.บ.โรงงานฯ เสี่ยงกระทบสิ่งแวดล้อม

นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้ส่งชุดปฏิบัติการเต็มเหนี่ยวกระทรวงอุตสาหกรรม นำโดย นายฐาปกรณ์ กุลเจริญ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายสุรศักดิ์ จันทร์ชุม อุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด (สอจ.) และกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบ โรงงานห้างหุ้นส่วนจำกัด ถังรุ่งเรือง ประกอบกิจการคัดแยกสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุไม่ใช้แล้วที่ไม่เป็นของเสียอันตราย และประกอบกิจการนำน้ำมันและตัวทำละลายที่ใช้แล้วมาปรับปรุงเป็นเชื้อเพลิงทดแทน ซ่อมและล้างถัง ตั้งอยู่ ณ หมู่ที่ 14 ตำบลเกาะขนุน อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งเคยเกิดเพลิงไหม้อาคารเก็บวัตถุดิบกระดาษและถังพลาสติก และได้สั่งให้ปรับปรุงแก้ไขโรงงาน ตามมาตรา 37 แห่งพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 มาก่อนหน้านี้

โดย กรอ. และ สอจ.ฉะเชิงเทรา ยังพบว่ามีการประกอบกิจการไม่เป็นไปตามที่ได้รับอนุญาต จึงได้ร้องทุกข์กล่าวโทษในข้อหาตั้งและประกอบกิจการโรงงาน และการครอบครองซึ่งวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 แห่งพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 โดยไม่ได้รับอนุญาต

ชุดปฏิบัติการเต็มเหนี่ยว ได้เข้าตรวจสอบโรงงานดังกล่าวโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า เนื่องจากที่ผ่านมาพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ พบห้างหุ้นส่วนจำกัด ถังรุ่งเรือง ยังปรับปรุงแก้ไขตามคำสั่งไม่ครบถ้วน ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตราย ความเสียหายหรือเดือดร้อนอย่างร้ายแรงแก่ประชาชน หรือทรัพย์สินที่อยู่ในโรงงานและบริเวณใกล้เคียง

สำหรับการตรวจสอบในครั้งนี้ ไม่พบการประกอบกิจการ แต่สภาพภายในของโรงงานไม่เรียบร้อย มี ความสุ่มเสี่ยงต่อการส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและด้านความปลอดภัย จึงมีคำสั่งให้หยุดประกอบกิจการเพื่อปรับปรุงแก้ไขโรงงานโดยด่วน และเมื่อปรับปรุงแก้ไขถูกต้องครบถ้วนแล้ว ก็พร้อมที่อนุญาตให้เปิดโรงงานได้ในทันที ตามนโยบายปิดเร็ว เปิดเร็ว พึ่งพาได้

นายฐาปกรณ์ กุลเจริญ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้เน้นย้ำอยู่เสมอว่า สถานประกอบการใดก็ตามที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนและสิ่งแวดล้อม จะต้องถูกสั่งให้หยุดกิจการก่อน เพื่อให้เกิดการปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้อง โดยไม่มีเงื่อนไข อย่างไรก็ดี ขอยืนยันว่า หากมีการแก้ไขถูกต้องและผ่านการตรวจสอบแล้ว ก็จะสามารถกลับมาเปิดกิจการได้ ขณะเดียวกัน กระทรวงอุตสาหกรรม ขอให้ผู้ประกอบทุกรายสบายใจได้ว่า หลังผู้ประกอบการแก้ไขและปรับปรุงทุกอย่างได้ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ภายในไม่เกิน 7 วันจะมีเจ้าหน้าที่ฯ มาตรวจสอบและยุติคำสั่งฯ เพื่อให้สามารถกลับมาเปิดกิจการได้อีกครั้ง”.