ราคาน้ำดิบมีแนวโน้มลดลงจากความกังวลสงครามทางการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯแม้สถานการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลางเริ่มคลี่คลาย

บทวิเคราะห์สถานการณ์น้ำมันประจำสัปดาห์ โดย บมจ.ไทยออยล์: ฉบับวันที่ 20 ตุลาคม 2568 คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 56-66 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวที่กรอบ 58-68 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ (17 ต.ค. – 23 ต.ค. 68)

ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มลดลงเนื่องจากสงครามทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ มีแนวโน้มตึงเครียดมากขึ้นเนื่องจากสหรัฐฯ ขู่ยกเลิกการค้าขายสินค้าบางประเภท ในขณะเดียวกันความขัดแย้งในตะวันออกกลางมีแนวโน้มคลี่คลายลงจากการแลกเปลี่ยนตัวประกันระหว่างอิราเอล และกลุ่มฮามาส และสหรัฐฯ พร้อมเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่านพร้อมเรียกร้องให้ผู้นำอิหร่านยกเลิกการสนับสนุนผู้ก่อการร้ายและยอมรับอิสราเอลเป็นประเทศ อย่างไรก็ตาม IMF คาดการณ์ว่าตัวเลข GDP ในปีนี้จะเติบโตมากขึ้น ขณะที่ OPEC คาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันดิบปีนี้สูงขึ้น ทั้งนี้ ตลาดจับตาการประชุมสุดยอดความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก ที่จะเกิดขึ้นภายในเดือน ต.ค. 68

ปัจจัยสำคัญที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้

• สงครามทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ยังคงตึงเครียดเนื่องจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่าสหรัฐฯ อาจหยุดการค้าขายน้ำมันปรุงอาหารรวมถึงน้ำมันพืชที่ใช้แล้วซึ่งใช้เป็นต้นทุนสำหรับการผลิตน้ำมันไบโอดีเซลและเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืนกับจีน เพื่อเป็นการตอบโต้จีนที่ปฏิเสธการซื้อถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ โดยสหรัฐฯ อ้างว่าสามารถผลิตน้ำมันปรุงอาหารได้เองโดยไม่จำเป็นต้องซื้อจากจีน ทั้งนี้ ตลาดจับตาการประชุมระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีจีนนาย สี จิ้นผิง ที่จะเกิดขึ้นระหว่างการประชุมสุดยอดความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก ณ เมือง Gyeongju ประเทศเกาหลีใต้ ในวันที่ 31 ต.ค. ถึง 1 พ.ย. 68

• ความขัดแย้งในตะวันออกกลางมีแนวโน้มคลี่คลาย โดยวันที่ 13 ต.ค. 68 กลุ่ม Hamas ปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอลที่ยังมีชีวิตอยู่ครบทั้งหมด 20 คน ขณะเดียวกัน นักโทษและเชลยชาวปาเลสไตน์เกือบ 2,000 คนที่อิสราเอลปล่อยตัวทยอยถูกส่งตัวกลับมายังฉนวนกาซาและเขต West Bank เป็นไปตามข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและกลุ่ม Hamas ด้านประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวสุนทรพจน์ต่อรัฐสภาอิสราเอลเพื่อฉลองสันติภาพ และเดินทางไปอียิปต์เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอด Gaza Summit ณ เมือง Sharm el-Sheikh ซึ่งมีประธานาธิบดีนายโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีอียิปต์ นาย Abdel Fattah el-Sisi เป็นเจ้าภาพ พร้อมด้วยผู้นำอีกกว่า 20 ประเทศเข้าร่วม เพื่อหารือเกี่ยวกับขั้นตอนต่อไปภายใต้แผนสันติภาพ 20 ข้อของประธานาธิบดีสหรัฐฯ

• นอกจากนี้ นายโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่าสหรัฐฯ พร้อมเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่านและเรียกร้องให้ผู้นำอิหร่านยกเลิกการสนับสนุนผู้ก่อการร้ายและยอมรับอิสราเอลเป็นประเทศ ถ้อยแถลงนี้มีขึ้นหลังจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของอิหร่าน นาย Abbas Araqchi ประกาศเมื่อวันที่ 11 ต.ค. 68 ว่าอิหร่านยินดีพิจารณาข้อเสนอเกี่ยวกับนิวเคลียร์ที่ยุติธรรมจากสหรัฐฯ อีกครั้ง พร้อมย้ำว่าอิหร่านจะไม่ยอมละทิ้งสิทธิในการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียม แต่จะดำเนินมาตรการสร้างความเชื่อมั่นเพื่อแสดงให้เห็นถึงการใช้นิวเคลียร์โดยสันติ อย่างไรก็ตาม วันที่ 12 ต.ค. 68 นาย Araqchi กล่าวว่าอิหร่านจะไม่ยอมรับอิสราเอลซึ่งเป็นระบอบฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และปฏิเสธคำเชิญของอียิปต์ให้เข้าร่วมงาน Gaza Summit โดยให้เหตุผลว่าไม่สามารถเข้าร่วมกับประเทศที่เคยโจมตีและยังคงคว่ำบาตรอิหร่าน

• อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มฟื้นตัวเนื่องจากรายงาน World Economic Outlook เดือน ต.ค. 68 ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ของโลก ในปี 2568 อยู่ที่ 3.2% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยเป็นการปรับเพิ่มขึ้นจากคาดการณ์เดือน ก.ค. 68 ที่เติบโต 3.0% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในขณะที่คาดการณ์อัตราการเติบโตของ GDP ในปี 2569 อยู่ที่ 3.1% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากคาดการณ์ครั้งก่อนหน้า

• ตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ คือ ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ ยอดขายบ้านปัจจุบัน เดือน ก.ย. 68 ยอดขายบ้านใหม่ เดือน ก.ย. 68 และดัชนีราคาผู้บริโภค เดือน ก.ย. 68 ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของยุโรป ได้แก่ ผลผลิตภาคการก่อสร้าง เดือน ส.ค. 68 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน ต.ค. 68 ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคผลิต เดือน ต.ค. 68 และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการ เดือน ต.ค. 68 ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของจีน ได้แก่ ดัชนีราคาบ้านเดือน ก.ย. 68 ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/68 ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม เดือน ก.ย. 68 ยอดขายปลีก เดือน ก.ย. 68 และอัตราการว่างงาน เดือน ก.ย. 68

สรุปสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมา (10 ต.ค. – 16 ต.ค. 68)

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับลดลง 3.11 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลมาอยู่ที่ 58.56 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับลดลง 3.10 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 62.28 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เนื่องจากจีนประกาศจำกัดการส่งออกแร่หายากเพิ่มขึ้นอีก ทำให้ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ขู่จะตอบโต้ทางเศรษฐกิจ โดยการตั้งกำแพงภาษีสินค้านำเข้าจีน 100% และขู่จะยกเลิกการพบปะกับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน ระหว่างเดินทางเยือนเอเชียที่กำลังจะเกิดขึ้นในเดือนนี้ ขณะที่ IEA รายงานรายได้จากการส่งออกน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปของรัสเซียในเดือนก.ย. 68 ลดลง 230 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับเดือนก่อนหน้า อยู่ที่ระดับ 13,350 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยส่งออกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 0.37 ล้านบาร์เรลต่อวัน เทียบกับเดือนก่อนหน้า อยู่ที่ระดับ 5.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน สูงสุดตั้งแต่เดือน พ.ค. 66 แต่ส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปลดลง 0.17 ล้านบาร์เรลต่อวัน เทียบกับเดือนก่อนหน้า อยู่ที่ระดับ 2.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือน เม.ย. 63 เนื่องจากยูเครนโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานต่อเนื่อง ทำให้ปริมาณการกลั่นของรัสเซียลดลงประมาณ 0.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยคิดเป็น 7.7% ของกำลังการกลั่นทั้งหมด

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password