กรมทรัพย์สินฯร่วมอาเซียน ถกเอกชนจีนฮ่องกง ชู! ระบบนิเวศทรัพย์สินทางปัญญา เอื้อการค้า/ลงทุน กรอบFTA อาเซียน-ฮ่องกง

กรมทรัพย์สินทางปัญญา เดินหน้าหารือความร่วมมือในเวทีอาเซียนและเขตบริหารพิเศษ “จีนฮ่องกง” มุ่งยกระดับความเข้าใจและการรับรู้ด้านทรัพย์สินทางปัญญา ส่งเสริมการค้าการลงทุน หวังเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการในภูมิภาค หวังใช้เป็นต้นแบบ “อัพ” ผู้ประกอบการไทยแข่งขันและก้าวสู่ตลาดโลกได้อย่างยั่งยืนในอนาคต

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.กนิษฐา กังสวนิช รองอธิบดีฯ และคณะ เข้าร่วม การประชุมด้านทรัพย์สินทางปัญญาระหว่างอาเซียนและเขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (ASEAN-Hong Kong, China (HKC) IP Roadshow ซึ่งจัดขึ้นภายใต้ กรอบความตกลงการค้าเสรีอาเซียน – ฮ่องกง (ASEAN – Hong Kong, China Free Trade Agreement: AHKFTA) เมื่อวันที่ 8 – 10 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา ณ เขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจ และการรับรู้เกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญา ที่เอื้อต่อการค้าและการลงทุนระหว่างกัน

นางอรมน กล่าวว่า ไทยและประเทศสมาชิกอาเซียนได้ใช้เวทีการประชุมครั้งนี้เป็นโอกาสในการยกระดับการรับรู้และเสริมสร้างความเชื่อมั่นเกี่ยวกับนโยบายด้านทรัพย์สินทางปัญญาของภูมิภาคอาเซียน ให้กับภาคเอกชนชั้นนำของจีนฮ่องกง โดยภายในงานมี การจัดเวที “I-Pitch, I-Plunge” เพื่อให้ผู้แทนจากประเทศอาเซียนได้นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับระบบการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญา และงานบริการต่างๆ ที่ทันสมัย รวมทั้ง เปิดคลินิกให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการขอรับความคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาในประเทศสมาชิกอาเซียน เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงระบบนิเวศด้านทรัพย์สินทางปัญญาที่เข้มแข็ง ส่งเสริมการค้าและการลงทุนของภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมฮ่องกงในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ในโอกาสนี้ ผู้แทนกรมฯ ได้ร่วมหารือกับสำนักงานทรัพย์สินทางปัญญาของจีนฮ่องกง (Hong Kong Intellectual Property Department: HKIPD) เพื่อกำหนดทิศทางความร่วมมือด้านทรัพย์สินทางปัญญาระหว่างกัน ภายใต้แผนปฏิบัติการด้านทรัพย์สินทางปัญญาอาเซียนฉบับใหม่ (ASEAN Intellectual Property Rights Action Plan: AIPRAP) ซึ่งมีกรอบเวลาการดำเนินงานระหว่างปี พ.ศ. 2569 – 2573 โดยตั้งเป้า ส่งเสริมบทบาทของทรัพย์สินทางปัญญาในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของสองภูมิภาค ซึ่งประเด็นที่ทุกฝ่ายเห็นพ้องกันและมุ่งให้ความสำคัญเป็นลำดับต้นๆ ได้แก่ แนวทางการประเมินมูลค่าทรัพย์สินทางปัญญา (IP Financing) เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงแหล่งทุนและใช้เป็นหลักประกันทางธุรกิจ แนวทางการคุ้มครองผลงานสร้างสรรค์ในยุคที่ AI เข้ามามีบทบาทมากขึ้น รวมทั้ง แนวทางการป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาบนช่องทางออนไลน์อย่างเป็นรูปธรรม

นอกจากนี้ ผู้แทนกรมฯ ยังได้เข้าศึกษาดูงานที่สภาเพิ่มผลผลิตแห่งจีนฮ่องกง (Hong Kong Productivity Council: HKPC) ซึ่งเป็น หน่วยงานสำคัญที่ทำหน้าที่ส่งเสริมและยกระดับขีดความสามารถด้านนวัตกรรม เทคโนโลยี และการเพิ่มผลิตภาพของภาคอุตสาหกรรมและภาคธุรกิจแบบครบวงจร ตั้งแต่ การพัฒนาทักษะทางเทคโนโลยีใหม่ๆ การฝึกอบรมบุคลากร การสนับสนุนด้านการเงิน เพื่อผลักดันภาคธุรกิจ โดยเฉพาะ SMEs ของจีนฮ่องกงให้สามารถขยายสู่ตลาดต่างประเทศได้
“การศึกษาดูงานในครั้งนี้ นับเป็นโอกาสอันดีในการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างกรมฯ และ HKPC เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และองค์ความรู้ร่วมกัน เพื่อนำแนวทางการพัฒนาและส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการของจีนฮ่องกง มาปรับใช้ในการพัฒนาระบบสนับสนุนผู้ประกอบการไทย ให้สามารถยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันและก้าวสู่ตลาดโลกได้อย่างยั่งยืนในอนาคต” นางอรมน กล่าวทิ้งท้าย.