กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) จัดงาน ‘มหกรรมดีพร้อมเสน่ห์ไทย (Thai Vibe by DIPROM)’ ระหว่างวันที่ 10-12 ตุลาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น. ณ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 3 เมืองทองธานี สนับสนุน SMEs ในการขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ด้านอาหารและแฟชั่นไทย ตามนโยบายการพัฒนาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของประเทศ

โดยมี นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม (รมว.อุตสาหกรรม) เป็นประธานในพิธีร่วมด้วย นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และ นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ณ ชาเลนเจอร์ 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี

ภายในงานมี 4 โซนที่เป็นไฮไลต์พิเศษ ได้แก่ 1) โซนDIPROM Pavilion พื้นที่หลักของงานจัดขึ้นภายใต้แนวคิด ‘Empowering Local, Elevating Global’ นำเสนอผลงานด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์จากชุมชน พร้อมกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ด้านอาหาร เช่น การสาธิตการทำอาหาร และการเรียนรู้เรื่องเสน่ห์ของวัตถุดิบไทย

2) โซน Soft Power จาก 4 ภูมิภาคโซนจำลองบรรยากาศและสถาปัตยกรรมท้องถิ่นของภาคเหนือ ภาคกลางและตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ พร้อมคัดเลือกร้านอาหารชื่อดังและเมนูเด็ดที่เป็น ‘Hidden Gems’ ของแต่ละภาคเพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานได้ลิ้มลอง

3) โซนเสน่ห์ไทย Café พื้นที่นำเสนอเมนูเครื่องดื่มสุดสร้างสรรค์จากวัตถุดิบหลักอย่างกาแฟ ชา และโกโก้ ซึ่งแสดงถึงอัตลักษณ์ของแหล่งปลูกแต่ละแห่ง ผ่านการนำเสนอในรูปแบบของการชงและชิม เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานได้ค้นพบรสชาติที่ถูกใจ

4) โซนดีพร้อมแฟชั่น พื้นที่แสดงความหลากหลายของงานแฟชั่นไทยตั้งแต่ผ้าไทยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เน้นการสร้างแรงบันดาลใจในการแต่งกายสไตล์ไทยที่สามารถนำไปใช้ได้จริง

นอกจากนี้ผู้เข้าร่วมงานยังจะได้เพลิดเพลินไปกับมินิคอนเสิร์ตและการแสดงประจำท้องถิ่นจากทั่วทุกภาคของประเทศที่จะหมุนเวียนสร้างสีสันตลอดทั้ง 3 วัน พร้อมกิจกรรมเวิร์กช็อปที่ให้ทุกคนได้ลงมือสัมผัสและเรียนรู้ฝีมือช่างไทยด้วยตัวเองอีกด้วย

นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า งานนี้ไม่ใช่แค่งานแสดงสินค้าธรรมดา แต่เป็นเทศกาลไลฟ์สไตล์ที่ออกแบบมาเพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสประสบ การณ์ที่แท้จริง ไม่ว่าจะเป็นรสชาติของอาหารไทยต้นตำรับ ความงามของแฟชั่นไทยร่วมสมัย หรือฝีมือช่างที่สะท้อนเอกลักษณ์ไทย โดยกระทรวงฯ คาดการณ์ว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานตลอดระยะเวลา 3 วัน ไม่น้อยกว่า 30,000 คน และสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ไม่ต่ำกว่า 250 ล้านบาท.