12 ข่าวฮอต! เม้าท์มันส์สนั่นเมือง…(061068)

เชิญพบกับ “12 ข่าวร้อนๆ” เม้าท์มันส์…สนั่นเมือง ประจำวันจันทร์ที่ 6 ตุลาคม 2568 โดยไม่ซ้ำกับข่าวอื่นๆ ที่นำเสนอตามช่องทางปกติของ เว็บไซต์ข่าวยุทธศาสตร์ ออนไลน์ ไล่เรียง…ข่าวการเมือง ความมั่นคง เศรษฐกิจ ธุรกิจ และข่าวสังคมทั่วไป เริ่มที่ข่าวนี้ก่อนเลย…

(1) สั่ง ครม.ลงพื้นที่อุทกภัย – “นายกฯอนุทิน ชาญวีรกูล” ทำหน้าที่ ปธ.การประชุม คณะกรรมการอำนวยการและบริหารสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติ (คอภ.) ครั้งที่ 1/2568 ก่อนจะแจ้งให้ทราบว่า ปัจจุบันได้เกิดสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม ในหลายพื้นที่และหลายจังหวัด ก่อความเสียหายทั้งทรัพย์สินและชีวิตของประชาชน แถมช่วงสุดสัปดาห์นี้ ไทยยังได้รับอิทธิพลจาก พายุแมตโม และตั้งแต่กลางเดือนนี้เป็นต้นไป จะเป็นห้วงฤดูมรสุม อาจก่อให้เกิดฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากในหลายพื้นที่ รัฐบาลห่วงใยต่อสถานการณ์อุทกภัยและดินโคลนถล่ม จึงสั่งการให้ ครม.กระจายตัวลงพื้นที่ที่มีอุทกภัย เพื่อติดตามสถานการณ์ พร้อมให้ความช่วยเหลือ และให้กำลังใจประชาชน รวมถึงสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้ความช่วยเหลือเยียวยาประชาชนผู้ประสบภัยโดยเร็ว.
(2) เยียวยา 6.8 แสนครัวเรือน – ต่อเนื่องกันมา…โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี “สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ” แจงผลประชุม คอภ. โดยมีมติแต่งตั้ง “ธรรมนัส พรหมเผ่า” รองนายกฯและรมว.เกษตรฯ เป็น ประธานคณะกรรมการปฏิบัติการระบายน้ำ กำหนดให้ต้องประชุมทุกสัปดาห์และรายงานต่อที่ประชุม ครม. สำคัญกว่านั้น คือ กรณีที่ นายกฯอนุทิน กำชับให้เร่งมอบเงินอุดหนุนเยียวยาสำหรับครัวเรือน โดยมอบหมายให้ “ภราดร ปริศนานันทกุล” รมต.สำนักเป็นผู้ดูแล ซึ่งข้อมูล 15 พ.ค. – 6 ต.ค. มีผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนรวม 685,554 ครัวเรือน โดยจะได้เยียวยาครัวเรือนละ 9,000 บาท รวมเป็นเงิน 6,169.986 ล้านบาท โดยจะนำเข้าสู่ ที่ประชุม ครม. ในสัปดาห์หน้า พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรียังได้กำชับ เรื่องการเร่งรัดการเบิกจ่าย โดยขอให้ทำโดยเร็วที่สุด ไม่ใช่ว่าท่วมปีนี้ ได้เงินปีหน้า ทั้งยังมีข้อสั่งการเรื่องการระบายน้ำ โดยให้ กรมชลประทาน คงการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา ไม่ให้เกิน 2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที.

(3) ถวายความเห็นตามเดิม – ที่สุดความพยายามของ อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ปมการ ขอพระราชทานอภัยโทษ ก็มีเค้าลางความสำเร็จ หลังจาก รมว.ยุติธรรมคนใหม่ “พล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์” สั่งการให้ ปลัดกระทรวงยุติธรรม แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาเรื่องดังกล่าว ให้เสร็จโดยเร็ว ต่อเนื่องจากที่ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้พิจารณาและส่งเรื่องให้ รมว.ยุติธรรม ถวายความเห็นประกอบพระราชดำริ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยได้ยืนยันตามความเห็นเดิมของ “อดีต รมว.ยุติธรรม” พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ที่เห็นควร “ยกฎีกา” ของ อดีตนายกฯทักษิณ ตามที่ กรมราชทัณฑ์ เสนอ ส่งผลให้ อดีตนายกฯทักษิณ ต้องถูกคุมขัง ในเรือนจำตามคำพิพากษาศาลฎีกา เป็นเวลา 1 ปี.
(4) ยืนยันชัดเจน! งด RBC – กองทัพภาคที่ 1 โดย ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 สรุปสถานการณ์ประจำวันที่ 6 ต.ค.2568 สืบเนื่องจากกองทัพภาคที่ 1 ขอให้ภูมิภาคทหารที่ 5 จัดทำแผนอพยพประชาชนชาวกัมพูชา ในพื้นที่บ้านหนองจาน และบ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง จ.สระแก้ว และ บ้านคลองแผง อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว รวม 3 พื้นที่ ก่อนจะเข้าสู่การประชุม RBC ตามคำเชิญของภูมิภาคทหารที่ 5 ของกัมพูชา นั้น โดยได้รับหนังสือตอบกลับเมื่อ 5 ต.ค.68 ที่ผ่านมา ว่า ทางภูมิภาคทหารที่ 5 ไม่สามารถดำเนินการตามที่กองทัพภาคที่ 1 ได้เสนอไป กองทัพภาคที่ 1 ขอยืนยันว่า…หากไม่ได้รับความร่วมมือจาก ภูมิภาคทหารที่ 5 ของกัมพูชา เกี่ยวกับการจัดทำแผนการอพยพประชาชนกัมพูชาที่อยู่ในเขตอธิปไตยของไทย การประชุม RBC ไม่สามารถที่จะเกิดขึ้นได้ เนื่องจากไม่มีวาระเพิ่มเติมที่จะนำไปสู่การยุติของปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา.

(5) ครม.จ่อถกงบคนละครึ่งพลัส – “ภราดร ปริศนานันทกุล” รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแล สำนักงบประมาณ ระบุว่า…พรุ่งนี้ (7 ต.ค.) ในการประชุม คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีการบรรจุวาระ “แผนบูรณาการ” ที่มอบหมายงานให้ “รองนายกรัฐมนตรี” ไปดูแลงานบูรณาการด้านต่างๆ และ อาจจะดูเรื่องงบกลาง ที่จะนำไปใช้ใน โครงการคนละครึ่งพลัส พร้อมกันนี้ ยังมีเรื่องเร่งด่วน! ที่รัฐบาลอยากจะผลักดันมากสุดในขณะนี้ นั่นคือ…การจัดสรรงบประมาณเพื่อการเยียวยาประชาชนในพื้นที่อุทกภัย ย้อนหลังกลับไปตั้งแต่เดือน พ.ค. – 30 ก.ย.2568 ประมาณ 5 แสนหลังคาเรือน คาดว่าจะใช้งบประมาณจากงบกลางรวมหลายพันล้านบาท ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอน ระหว่างการสำรวจตรวจสอบและพิจารณา แต่ยังไม่นำเข้าสู่ที่ประชุม ครม. ในยามนี้ได้ทัน กระนั้น รัฐบาลพร้อมจะเร่งรัดให้ “หน่วยงานราชการ” ไปสำรวจในส่วนที่เสียหายจากอุทกภัยทั่วประเทศโดยเร็ว.
(6) สร้างเสน่ห์ ต.หุ้นไทย – สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง, สำนักงาน ก.ล.ต., ตลาดหลักทรัพย์ฯ และสภาธุรกิจตลาดทุนไทย ผนึกกำลังเปิด “ชุดมาตรการสร้างเสน่ห์ตลาดหุ้นไทย” ประกาศสนับสนุน…มาตรการส่งเสริมการออมระยะยาวและการลงทุนในตลาดทุน (TISA) โดยหวังให้เป็นมาตรการ QUICK WIN ที่จะต้องเห็นผลเป็นรูปธรรมในช่วง 4 เดือนนับจากนี้ โดย “ชุดมาตรการสร้างเสน่ห์ตลาดหุ้นไทย” ประกอบด้วย 4 มาตรการหลัก คือ 1.Quality Demand, 2.Attractive Supply, 3.Trusted Market และ 4.Supportive Ecosystem ซึ่งใน 4 มาตรการ มีเรื่องที่อยู่ในความสนใจของนักลงทุน นั่นคือ…การสร้างวัฒนธรรมการลงทุนระยะยาวผ่านบัญชีการลงทุนส่วนบุคคล, การปรับขั้นตอนการออกและเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ให้มีประสิทธิภาพและทำให้ตลาดทุนไทยเป็นที่น่าสนใจและสามารถแข่งขันในระดับภูมิภาคได้, การยกระดับการกำกับดูแลผู้ประกอบวิชาชีพในตลาดทุน (gatekeepers) เพื่อป้องปรามการกระทำที่ไม่เหมาะสม และการนำนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มการเข้าถึงการลงทุนของผู้ลงทุนรายย่อยและเปลี่ยนผ่านตลาดทุนสู่ตลาดทุนดิจิทัล.

(7) ทองคำทะลุ 6 หมื่นแล้ว – “ร้านทอง” ชั้นนำ ยามนี้ จำต้องเร่งเบิกถอดเงินสด มารองรับกับกระแสที่คนไทย “เทขายทองคำ” จนแทบหมดหน้าตัก! ล่าสุด สถานการณ์ราคาทองคำ ที่ สมาคมค้าทองคำ รายงานก็คือ…แค่เปิดตลาดรอบแรก เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (6 ต.ค.) ราคาทองคำพุ่งพรวด 600 บาท ดันราคาขายทองคำแท่ง 96.5% ขึ้นไปอยู่ที่บาททองคำละ 60,850 บาท บนฐาน Gold Spot 3,922 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ค่าเงินบาท 32.36 บาท/ดอลลาร์ จนกลายเป็น…ราคาสูงสุด (All Time High) เป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ ตามสถานการณ์ราคาทองคำในตลาดโลก ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์ก “ปิดบวก” เมื่อ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์ติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 7 โดยมีแรงหนุนจากความกังวลที่เพิ่มขึ้นต่อผลกระทบทางเศรษฐกิจ จากการ ปิดหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯที่ยืดเยื้อ และจากความคาดหวังว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง.

(8.) ธุรกรรมแบบไร้กระดาษ – เอไอเอ ประเทศไทย โดย “CEO – นิคฮิล แอดวานี” ผนึกพันธมิตรด้านความยั่งยืน…กรุงเทพมหานคร ภายใต้การนำของ “ผู้ว่าฯชัชชาติ สิทธิพันธุ์” และศูนย์สิ่งแวดล้อมศึกษา (EEC) ที่ดาราหนุ่มหล่อ “อเล็กซ์ เรนเดลล์” เป็น ปธ.กก.บห. ประกาศสานต่อ แคมเปญ AIA+ Go Green ปีที่ 2 ภายใต้สโลแกน “AIA+ พลัสชีวิตดี ๆ ให้คุณ” ร่วมรณรงค์การทำ ธุรกรรมแบบไร้กระดาษ เชิญชวนให้ลูกค้าสมัครใช้บริการ “เอกสารและใบเสร็จอิเล็กทรอนิกส์” ผ่าน แอปพลิเคชันเอไอเอ พลัส โดยทุก ๆ 10 กรมธรรม์ เอไอเอจะปลูกต้นไม้เพิ่มหนึ่งต้น ตั้งเป้าหมาย 100,000 กรมธรรม์ หรือเท่ากับ 10,000 ต้น ทั่วกรุงเทพมหานคร ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้าน ESG ที่มุ่งสร้างสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืนให้แก่ผู้คนและสังคมไทย.
9.) รฟม.ปรับแผนซ่อมถ.สามเสน – “ปฎิเวช เหระยัง” ผอ.กองบริหารงานก่อสร้าง 4 รฟม. แถลงว่า ในการ ซ่อมแซมถนนสามเสนที่ทรุดตัวนั้น ได้ปรับพื้นที่ด้านล่าง และนำอุปกรณ์เครื่องจักร รวมถึงน้ำปูนซีเมนต์ผสมสารเคมีชนิดแห้งเร็ว เพื่อฉีดเข้าไปเสริมเสถียรภาพของดินที่อยู่รอบๆ อุโมงค์รถไฟฟ้า ใต้อาคาร สน.สามเสน แต่ยังไม่แล้วเสร็จ คาดต้องใช้เวลา 1 สัปดาห์ สารเคมีจึงเซตตัว ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ จึงต้องปรับรูปแบบการรื้อถอนอาคาร สน.สามเสน โดยเปลี่ยนไปรื้อถอนที่ล็อกฝั่งซ้ายสุดของอาคารก่อน เพื่อที่ชิ้นเศษที่รื้อถอนจะไม่ตกลงมาใส่เจ้าหน้าที่ด้านล่าง ส่วนฝั่งขวาของอาคาร หลังจากรื้อโครงหลังคาที่อยู่บริเวณดาดฟ้าเสร็จ ก็จะเหลือแค่ภารกิจลงไปเสริมเสถียรภาพของดินใต้อาคารเท่านั้น ซึ่ง การปรับแผนครั้งนี้ ไม่ใช่เพราะอาคาร สน.สามเสน เกิดการทรุดตัว หรือมีดินไหลอย่างมีนัยสำคัญ และจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด.

10.) บุญกฐินพระราชทาน – ธนาคารกรุงเทพ จัดพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคล “พระมงคลมิ่งเมือง” มอบเป็นที่ระลึกแก่ ผู้มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญสมทบปัจจัยถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน ประจำปีนี้ (ต่อเนื่องเป็นปีที่ 59) โดยได้รับความเมตตาจากเจ้าประคุณ สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย ธมคโช) เป็นประธานฝ่ายสงฆ์จุดเทียนชัย นั่งปรกอธิษฐานจิต พร้อมด้วย คณะพระภาวนาจารย์ชื่อดัง 8 รูปจากภาคอีสาน ร่วมนั่งปรกอธิษฐานจิตในพิธี โดยมี “พจณี คงคาลัย” ผช.ผจก.ใหญ่ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมผู้แทนจากธนาคารฯ เข้าร่วมพิธี ณ พระอุโบสถ วัดสำราญนิเวศ พระอารามหลวง อ.เมืองฯ จ.อำนาจเจริญ โดยงานจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 19 ต.ค. 2568 ณ วัดสำราญนิเวศ จึงขอเชิญชวนพนักงาน ลูกค้า และผู้มีศรัทธาร่วมทำบุญได้ที่ บัญชี “พระกฐินพระราชทาน ธนาคารกรุงเทพ” เลขที่ 101-7-31539-9 สอบถามเพิ่มเติมที่ ฝ่ายการประชาสัมพันธ์ โทร. 0 2626 3403, 0 2626 3353.

11.) 29 ปี “เรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ” – “ปรางรัตน์ เกียรติทรงศักดิ์” รองเอ็มดี. ซีพี ออลล์ ในฐานะ ประธานพุทธปัญญาชมรม ซีพี ออลล์ กล่าวถึงโอกาส ครบรอบ 29 ปี “เรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ” โดยปีนี้ ซีพี ออลล์ ได้จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ โดยนิมนต์พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ 9 รูป ผู้สร้างสาธารณะประโยชน์จากหลายภูมิภาค มาเจริญพระพุทธมนต์และบรรยายธรรม ซึ่งจัดขึ้นเป็นพิเศษ เพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาส ร่วมทำบุญครั้งใหญ่ ร่วมถวายสลากภัตเสริมสิริมงคล และเพื่อสาธารณะประโยชน์ โดยมี พุทธปัญญาชมรมเป็นสะพานบุญ ตามนโยบายสร้างชุมชนอุ่นใจ ภายใต้ปณิธานองค์กรของซีพี ออลล์ “Giving & Sharing” ภายในงานฯ ได้รับเกียรติจาก “ก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์” ปธ.กก. บห. ซีพี ออลล์ กล่าวถึงงานเนื่องในโอกาสครบรอบ 29 ปี ของโครงการฯ ขณะที่ พระเทพปฏิภาณวาที ผช.เจ้าอาวาสวัดสุทัศน์ฯ กล่าวสัมโมทนียกถา โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่น มีประชาชนและพนักงาน เข้าร่วมงานอย่างคึกคัก และมีพุทธศาสนิกชนจำนวนมากมาร่วมงาน และทำบุญถวายสลากภัต จัดงานขึ้น ณ ห้อง B 104-105 ชั้น B อาคาร THE TARA ถนนแจ้งวัฒนะ ผู้สนใจสามารถติดตามกับกิจกรรม เรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ ได้ทุกวันศุกร์ เวลา 12.00 – 13.30 น. ผ่านช่องทาง facebook fanpage CPALL หรือฟังย้อนหลังได้ที่ช่องทางเดียวกัน พร้อมรับฟังคติธรรมดีๆ ในช่องทาง TikTok ได้ที่ ธรรมะTiktok.
12.) มะเร็งเต้านม! พบเร็ว โอกาสหายสูง – พญ.วิภาวี นิยมในธรรม แพทย์ชำนาญการจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ระบุในวงเสวนา “Breast Cancer Campaign 2025” ผ่านแคมเปญ “รวมพลังช่วยกันหยุดยั้งมะเร็งเต้านม Beautifully United to Help End Breast Cancer” จัดโดย เอสเต ลอเดอร์ ประเทศไทย ตอนหนึ่งว่า…ปัจจุบันมะเร็งเต้านมยังคงเป็นปัญหาสุขภาพที่ผู้หญิงทั่วโลกต้องเผชิญ และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน สถานการณ์มะเร็งเต้านมในไทยพบผู้ป่วยใหม่กว่า 20,000-22,000 รายต่อปี สะท้อนให้เห็นว่าผู้หญิงไทยโดยเฉลี่ย 1 ใน 8 มีโอกาสตรวจพบมะเร็งเต้านม จากปัจจัยเสี่ยง เช่น อายุที่มากขึ้น เคยเป็นเนื้องอก หรือมะเร็งที่เต้านม พันธุกรรม มีประจำเดือนเร็ว ก่อนอายุ 12 ปี หรือหมดหลังอายุ 55 ปี เคยได้รับรังสีที่เต้านม หรือทรวงอก ภาวะอ้วนน้ำหนักเกิน และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น พร้อมกับย้ำเตือนไปยังผู้หญิงทุกคนว่า…หากสามารถตรวจพบเซลมะเร็งได้เร็ว ก็มีโอกาสจะรักษาหายได้สูง! โดยมีบทเรียนจากผู้รอดชีวิตมะเร็งเต้านมมายืนยันแนวคิดนี้…แล้วพบกันใหม่พรุ่งนี้!!!.