กรมทรัพย์สินทางปัญญา เผย! USTR ชงขยี้! ‘จุดขายแรง’ สินค้าละเมิดฯ – แจงผลจับกุม 8 ด. รวมกว่า 1พันลบ.

​​กรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกับ ปอศ. ภาคเอกชนเจ้าของสิทธิ และหน่วยงานพันธมิตร เปิดเกมเชิงรุก! ลุยปราบปรามสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ระบุ! โฟกัสตามรายงานของ สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ หลังพบจุดจำหน่ายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาสูง เผย! ผลการลุยปราบสินค้าละเมิด IP ตั้งแต่ต้นน้ำ 8 เดือนแรก ปี 2568 ของ 3 หน่วยงานหลัก “สตช. – กรมศุลกากร – ดีเอสไอ” ยึดของกลางกว่า 2.9 ล้านชิ้น มูลค่าความเสียหายกว่า 1,000 ล้านบาท

​​นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมฯยึดมั่นแนวทางการดำเนินงานเชิงรุกในการปราบปรามสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ทั้งในท้องตลาดและช่องทางออนไลน์ อีกทั้ง ยังมุ่งสร้างระบบนิเวศทรัพย์สินทางปัญญาที่เข้มแข็ง เอื้อต่อการค้าการลงทุน ส่งเสริมผู้ประกอบการไทยตามนโยบาย Quick Big Win ของ นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์ โดย กรมฯร่วมกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และภาคเอกชนเจ้าของสิทธิ เดินหน้าตามแผนปฏิบัติการเร่งด่วนปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา โดยเฉพาะในแหล่งท่องเที่ยว ย่านการค้าสำคัญ และคลังเก็บสินค้า อย่างต่อเนื่อง เช่น ศูนย์การค้าแถวปทุมวัน โกดังแถวสมุทรสาคร

ล่าสุด ได้ ตรวจค้นจับกุมแหล่งจำหน่าย โกดัง สถานที่เก็บสินค้าปลอมแบรนด์เนมที่มีชื่อเสียง พบสินค้า เช่น นาฬิกา แว่นตา เสื้อผ้า และเครื่องประดับ ที่จะนำไปจำหน่าย ทั้งช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ เพื่อคุ้มครองสิทธิของเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญา และปกป้องผู้บริโภค จากอันตรายของสินค้าปลอมและการถูกหลอกลวงให้ซื้อสินค้าปลอมแบรนด์ดังและสินค้าด้อยคุณภาพ รวมทั้งป้องกันความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจ ช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์อันดีของประเทศ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญ ที่ส่งผลเชิงบวกต่อการประเมินสถานะการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาของไทยในเวทีสากล และส่งผลต่อเนื่องถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติที่สนใจขยายฐานการผลิตและการวิจัยพัฒนามายังไทย

​​ทั้งนี้ สถิติการจับกุมสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ในช่วง 8 เดือนแรก (มกราคม – สิงหาคม) ปี 2568 โดย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 628 คดี ของกลาง 1,652,753 ชิ้น กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) 6 คดี ของกลาง 922,567 ชิ้น และ กรมศุลกากร 229 คดี ของกลาง 393,773 ชิ้น รวมทั้งสิ้น 863 คดี ของกลาง 2,969,093 ชิ้น รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 1,000 ล้านบาท ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 ที่มีการจับกุมสินค้าละเมิดฯ 934 คดี ของกลาง 2,335,861 ชิ้น มูลค่าความเสียหายกว่า 388 ล้านบาท จะเห็นได้ว่าปี 2568 มีการจับกุมดำเนินคดีลดลง 7.6% แต่มีจำนวนของกลางเพิ่มสูงขึ้น 27.11% เนื่องจาก กรมฯ และหน่วยงานพันธมิตรมุ่งดำเนินมาตรการปราบปรามสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาตั้งแต่ต้นน้ำ โดยมีการเฝ้าระวังและจับกุมดำเนินคดีกับผู้ค้ารายใหญ่ ซึ่งเป็นแหล่งต้นตอของสินค้าละเมิดฯ เหล่านี้ ซึ่งสินค้าที่จับกุมได้ส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่มีอันตรายต่อสุขภาพและชีวิต เช่น อาหาร เครื่องสำอาง น้ำมันเครื่อง อะไหล่รถยนต์ ตลอดจนสินค้าแบรนด์เนมปลอม จำพวกนาฬิกา เครื่องประดับ และเสื้อผ้า

กรมฯ ได้วางแผนบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มงวด และเร่งรัดปราบปรามสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาในพื้นที่กรุงเทพมหานครและจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่แหล่งจำหน่ายสินค้าที่มีรายชื่อปรากฏอยู่ในรายงานตลาดที่มีสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาสูง (Notorious Markets) ของสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (United States Trade Representative: USTR)” อธิบดีฯอรมน ระบุและว่า…

​​นอกจาก การปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาในท้องตลาดแล้ว กรมฯ ได้จัดทำบันทึกข้อตกลง (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือในการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาบนอินเทอร์เน็ตกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน รวม 44 ราย ร่วมเฝ้าระวังและป้องกันการจำหน่ายสินค้าละเมิดฯ บนแพลตฟอร์ม e-Commerce อาทิ แพลตฟอร์ม Lazada Shopee  TikTok Shop  Nex Gen Commerce รวมถึง NocNoc นำมาตรการ Notice and Takedown มาใช้ คือแพลตฟอร์มจะเร่งนำสินค้าที่ได้รับแจ้งว่าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาออกจากแพลตฟอร์มโดยเร็ว ส่งผลให้สามารถระงับการจำหน่ายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาบนแพลตฟอร์มดังกล่าวตามคำร้องได้ทั้งหมด จำนวน 2,361 รายการ

ทั้งนี้ กรมฯ จะเดินหน้าขยาย ความร่วมมือนี้ไปยังแพลตฟอร์มอื่นๆ ที่ยังไม่มี MOU กับกรมฯ เพิ่มเติม เพื่อสร้างแนวร่วมในการป้องกัน การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาบนแพลตฟอร์มออนไลน์ให้เข้มแข็งยิ่งขึ้นต่อไป

นางอรมน กล่าวทิ้งท้ายว่า ความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนเจ้าของสิทธิ และภาคประชาชน ถือเป็นส่วนสำคัญในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาการร่วมกันรณรงค์ไม่ซื้อ ไม่ใช้ และไม่สนับสนุนสินค้าละเมิดฯ การตระหนักรู้และมีจิตสำนึกในการเคารพสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาหรือผลงานสร้างสรรค์ของผู้อื่น ส่งเสริมการใช้สินค้าที่มีคุณภาพ มีมาตรฐาน และถูกกฎหมาย เป็นการส่งเสริมครีเอเตอร์และงานสร้างสรรค์ และสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการค้าการลงทุน ส่งเสริมผู้ประกอบการไทยให้เข้มแข็ง แข่งขันได้ ท่ามกลางภาวะสงครามการค้าที่เกิดขึ้นในยุคปัจจุบัน

ทั้งนี้ หากท่านใด พบเห็นการกระทำที่เข้าข่ายละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา สามารถแจ้งเบาะแสมายัง กองป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา กรมทรัพย์สินทางปัญญา โทร. 02-547-4702 หรือสายด่วน 1368 หรือเว็บไซต์ www.ipthailand.go.th.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password