“12 ข่าวร้อนๆ” ประจำวันสุดท้ายของสัปดาห์แรกเดือนตุลาคม “วันศุกร์ที่ 3” ไล่เรียงข่าวฮอต…ที่จะหยิบเอามาเม้าท์กัน ให้มันส์สนั่นเมือง…เริ่มต้นกับข่าวนี้ก่อนเลย….

(1) เริ่มจุดแรกรั้วกันเขมร – นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย นำบางส่วนของ ครม. ร่วมลงพื้นที่ รับฟังการบรรยายสถานการณ์เหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ ณ ห้องประชุมเหมบุตร กองกำลังสุรนารี อ.เมืองสุรินทร์ พร้อมตรวจติดตามการเยียวยาและการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ จากนั้น ได้พบปะประชาชนในพื้นที่ ณ โดมโรงเรียนพนมดงรักพิทยา อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ตอนหนึ่ง นายกฯอนุทิน ขึ้นเวทีเพื่อพูดคุยกับชาวบ้านในพื้นที่ ว่า วันนี้เดินทางมาคณะใหญ่และมีรัฐมนตรีร่วมกันมาหลายคนเพราะตั้งใจจะมาเยี่ยมประชาชนที่ จ.สุรินทร์ ด้วยความเป็นห่วงและนำกำลังใจอย่างเปี่ยมล้น จากนั้น ได้แนะนำรัฐมนตรี ที่ร่วมคณะ ก่อนจะย้ำว่า…พวกเราทุกคนพร้อมที่จะมาทำงานแก้ไขปัญหาให้กับชาวบ้านและไม่ต้องห่วง ยืนยันเงินเยียวยาสัปดาห์หน้า เข้ากระเป๋าทุกคน เงินอยู่ในธนาคารออมสิน และยังกล่าวว่า…ก่อนหน้านี้ เขาเคยสร้างบังเกอร์เมื่อ 2-3 เดือนก่อน ตอนนี้เป็นนายกฯ และมท.1 จึงทำได้มากกว่านั้นพันเท่า และต้องทำอย่างเต็มที่ ระหว่างนั้น ได้สอบถามประชาชนว่า…จะให้เปิดด่านหรือไม่ ซึ่งประชาชนยกมือบอกปิดด่าน ก่อนจะถามกลับว่า…ถ้าหากคนเปิดด่านจะเจอมือหรือตีน ชาวบ้านตอบกลับว่าตีน! ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวว่า…ก่อนหน้านี้ นายกฯอนุทิน และคณะ มีโอกาสร่วมรับประทานอาหารกลางวัน ร่วมกับบรรดาทหารหาญที่ปฏิบัติหน้าที่บริเวณแนวพรมแดนไทย-กัมพูชา และก่อนกลับ นายกฯอนุทิน ยังได้บอกกับชาวบ้านอีกว่า…พรุ่งนี้จะเริ่มลงมือก่อสร้างรั้วเริ่มจุดแรก​ที่ อ.บ้านกรวด​ จ.บุรีรัมย์.

(2) ฟ้อง ม.157 สอบช้า ‘คดีฮั้ว สว.’ – ต่อให้ การเมืองไม่เปลี่ยนขั้ว! หาก กกต. ยังคงล่าช้าต่อการสอบ…สอบคดีฮั้วเลือก สว.!!! ยังไง ฝั่ง “สว.สำรอง” ก็ต้องยื่นฟ้องเป็นธรรมดา ล่าสุด (3 ต.ค.) อัครวัฒน์ พงศ์ธนาชลิตกุล หนึ่งในกลุ่ม สว.สำรอง พร้อมทีมทนายความ เดินทางมายัง สน.ทุ่งสองห้อง ยื่นร้องทุกข์กล่าวโทษ กกต.ตั้งทั้งคณะ โดยเฉพาะ เลขาฯแสวง บุญมี ด้วยข้อหาฉกรรจ์ “ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จนทำให้กระบวนการเลือกตั้ง สว. ที่ผ่านมาเสียหายอย่างร้ายแรง”พร้อมกับขอให้ดำเนินคดีอาญากับ กกต. และ เลขาฯแสวง ฐาน…อาจมีส่วนรู้เห็นหรือปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตในการเลือกตั้ง สว. รอบที่ผ่านมา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ พ.ร.ป. ว่าด้วย ป.ป.ช. มาตรา 172 รวมถึง กฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง อัครวัฒน์ ระบุว่า…ทั้งหมด (กกต. และ เลขาฯแสวง) ล้วนถูกกล่าวหาว่าอาจมีส่วนรู้เห็นหรือปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตในการเลือกตั้ง สว. รอบที่ผ่านมา และยืนยันว่า…การเคลื่อนไหวครั้งนี้ไม่ใช่การเล่นการเมือง แต่เป็นการปกป้องหลักการประชาธิปไตย และในฐานะผู้มีส่วนได้เสียในกระบวนการเลือกตั้ง สว. มีสิทธิ์ที่จะติดตามและเรียกร้องให้ความจริงถูกเปิดเผย คดีที่มีหลักฐานปรากฏตั้งแต่แรกกลับถูกปล่อยให้ยืดเยื้อนานนับเดือนนับปี โดยที่ กกต. ไม่ได้เร่งตรวจสอบหรือชี้แจงข้อมูลต่อประชาชน ทั้งที่มีสำนวนการสืบสวนเบื้องต้นอยู่ในมือแล้ว.

(3) แข็งอย่างกองทัพไทย? – อ่าน วิเคราะห์ข่าวการเมือง วันนี้ คนไทยอาจรู้สึกหงุดหงิด!!?? กับท่าที่ของ นายกฯอนุทิน ชาญวีรกูล แต่กับรายงานข่าวชิ้นนี้ อ้างอิง “ข้อมูลใหม่” ระบุถึง แม่ทัพภาคที่ 1 คนใหม่ พล.ท.วรยส เหลืองสุวรรณ ที่มีหนังสือตอบกลับไปยังฝั่งกัมพูชา ก่อนจะถึงวันนัดหมายการประชุม คณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย-กัมพูชา (RBC) ในวันที่ 10-12 ต.ค.นี้ ที่เมืองบันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา เพื่อประชุมติดตามการดำเนินการต่อจาก ข้อตกลงการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา(GBC) เมื่อ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งในครั้งนั้น มีข้อสรุปใน 3 ประเด็น คือ การปราบปรามสแกมเมอร์ การเก็บกู้ทุ่นระเบิด และการจัดระเบียบชายแดน เนื้อหาในหนังสือดังกล่าว ระบุว่า… “หากการประชุม RBC ในวันที่ 10-12 ต.ค. ไม่มีหัวข้อการหารือเรื่องแผนการอพยพคนกัมพูชาออกจากบ้านหนองจาน บ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ออกจากพื้นที่ ก็ขอเลื่อนการประชุมออกไปก่อน จนกว่าฝ่ายกัมพูชาจะนำเรื่องดังกล่าวมาหารือ” รายงานข่าวยังระบุด้วยว่า…หาก กองทัพภาคที่ 1 ยังไม่ได้ประชุม RBC ในส่วนของ กองทัพภาคที่ 2 และ กองบัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กปช.จต.) ก็จะไม่มีการประชุม RBC เช่นกัน จนกว่า กองทัพภาคที่ 1 จะมีความเรียบร้อย!!! แน่นอนว่า…หากการ ประชุม RBC ใน 3 พื้นที่ ไม่มี  ก็อย่าหวังจะได้เห็นการประชุม GBC ระหว่าง รมว.กลาโหม 2 ชาติ เลย! เห็นท่าทีของกองทัพแล้ว คนไทยก็พอวางใจได้ ขืนปล่อยให้การเจรจาขึ้นกับ ฝ่ายการเมือง เพียงลำพัง อนาคนคนไทยเสียดินแดนให้พวกเขมรชัวร์! รึว่าไง???.

(4) เอาทั้ง 2 โปรเจ็กต์หวย – นาทีนี้…คนไทยจะเพิ่งงง! กับ “ศึกชิงเจ้านโยบายเพื่อการออม”…โปรเจ็กต์เดิม “สลาก กอช.หรือหวยเกษียณ” ของรัฐบาลเพื่อไทย ยังไม่ล้มเลิก…เพราะเลิกไม่ได้! ได้แต่ชะลอ??? เแม้จะผ่านการพิจารณาของ   สภาผู้แทนราษฎร ไปแล้ว หาก นายกฯอนุทิน ชาญวีรกูล ไม่เซ็นอนุมัติลงมา เรื่องก็จะยังค้างคาอยู่ที่ กองงานของสำนักนายกรัฐมนตรี ต่อไป เรื่องนี้…ดูเหมือน “ดร.ออฟ” เผ่าภูมิ โรจนสกุล อดีต รมช.คลัง จะร้อนใจฝุดๆ ถึงกับ แจก Press ให้กับสื่อค่ายต่างๆ ช่วยกันตีข่าว คู่ขนานไปกับ โปรเจ็กต์ใหม่ แนวๆ “สลากฯดิจิทัลเพื่อการออม” (ยังไม่มีชื่อและรายละเอียดที่ชัดเจน) ที่ รองนายกฯเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ตอบกระทู้สดในสภาผู้แทนราษฎร นัยว่า…เงินทุกๆ 100 บาท หักนำส่งรัฐบาล 23% และจ่ายเป็นเงินรางวัล 60% ยังเหลือ 17% ที่เป็นค่าบริหารและอื่นๆ ของสำนักงานสลากกินแบ่งฯ บางส่วนของ 17% แต่ยังไม่รู้ว่า…เท่าไหร่??? จะถูกโอนไปเป็น “เงินออม” ของคอหวยที่ซื้อสลากดิจิทัลผ่านแอปฯเป๋าตัง ดูเหมือน ฝั่งเพื่อไทย…จะออกอาการหงุดหงิด รีบกางผลประโยชน์ที่ประชาชนได้จะรับระหว่าง..2 โปรเจ๊กหวยออมเงิน ยืนยัน! 100% ของเงินที่ซื้อ “หวยเกษียณ” จะได้คืนครบ ส่วนโปรเจ็กต์ของ พรรคสีน้ำเงิน อย่างเก่งก็ได้แค่ 5-10% แต่ดูทรงแล้ว ได้คืนมาเป็นเงินออมสัก 5% ก็ดีถมถืดแล้ว…กระนั้น เอามันทั้ง 2 โปรเจ็กต์นั่นแหละ เพราะเป็นประโยชน์ต่อเซียนหวย และช่วยขจัดหวยเพื่อนบ้าน ที่ยามนี้…รุกหนักคนไทยเหลือเกิน!!! 555.

(5) ก่นด่าจนได้ลด – หลังจาก ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ปรับตัวลดลงมาอย่างต่อเนื่อง ตลอดช่วงสัปดาห์นี้ ทว่า…ฝั่งไทย กลับยังไม่มีท่าทีจากบริษัทน้ำมันในไทย หรือแรงกดดันจากฝั่ง “รัฐบาลอนุทิน” ว่า…จะปรับลดราคาจำหน่ายน้ำมันสำเร็จรูป…กี่โมง??? จนมี เสียงก่นด่า…ดังมาจากทั่วทุกสารทิศ ล่าสุด เป็น อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รมว.พลังงาน ที่ตอบคำถามผู้สื่อข่าวในเรื่องดังกล่าว โดยระบุว่า…วันนี้คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) มีมติเห็นชอบปรับลดอัตราเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับน้ำมันดีเซลลง 50 สตางค์ต่อลิตร มีผลพรุ่งนี้ (4 ต.ค.) และได้ขอความร่วมมือบริษัทน้ำมันเพื่อลดราคาน้ำมันเบนซินด้วย อีก 50 สตางค์ ทั้งนี้ จะพยายามดูแลราคาน้ำมันไม่ให้เป็นภาระของประชาชนในช่วงฤดูหนาวที่กําลังจะมาถึง ซึ่งเป็นช่วงราคาพลังงานในตลาดโลกสูงขึ้น โดยได้หารือภายในกระทรวงฯ จะบริหารราคาไม่ให้สูงเกินไป ทั้งราคาไฟฟ้า ก๊าซหุงต้ม จะตรึงราคาที่ปัจจุบัน ส่วน น้ำมันดีเซลที่กําหนดราคาไม่เกิน 32 บาทต่อลิตร สำหรับ ค่าไฟฟ้างวดแรกปี 2569 (มกราคม-เมษายน ) เบื้องต้นมี 2 แนวทาง อาจเป็นการตรึงราคาหรือปรับลดราคา ซึ่งจะต้องมีการติดตามอย่างใกล้ชิด ยืนยันว่าจะไม่สูงกว่างวดนี้ หากมีการบริหารจัดการได้ดีก็อาจจะลดลง…เฮ่อ! กว่าจะได้ลด ไม่เหมือนตอนประกาศขึ้นราคาน้ำมันเลยเน๊อะ!!!.

(6) ปั้น SMEs ไทยสู่เวทีค้าโลก –  บัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) กล่าวถึงการเปิดตัว “หลักสูตร EXIM 2X รุ่นที่ 1 ปี 2568” มุ่งพัฒนาศักยภาพ ผู้ประกอบการ SMEs กลุ่ม GEN Y ที่สนใจหรือเริ่มต้นทำการส่งออก ให้ก้าวสู่การเป็นผู้ส่งออกที่แข็งแกร่งและเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย โดย หลักสูตร EXIM 2X ครอบคลุมองค์ความรู้และโอกาสในการส่งออกอย่างครบวงจร ตั้งแต่…การเข้าถึงแหล่งเงินทุนและการบริหารความเสี่ยงด้านการค้าระหว่างประเทศ กลยุทธ์การตลาดต่างประเทศ โลจิสติกส์ มาตรฐานสินค้าและทรัพย์สินทางปัญญาไปจนถึงแนวคิดการบริหารธุรกิจอย่างยั่งยืน (ESG) พร้อมทั้ง กิจกรรม Business Matching เวทีพบปะพันธมิตรการค้าต่างประเทศ การศึกษาดูงานและการถ่ายทอดประสบการณ์จริงจากผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จ ด้าน ชลัช รัตนบุญนิธิ เอ็มดี.คนใหม่ เสริมว่า แผนพัฒนา SMEs ของ EXIM BANK ปี 2568 จะยังคงมุ่งสนับสนุนทั้งทางการเงินและไม่ใช่การเงิน (SMEs Synergize) ใน 3 ด้านคือ การให้สินเชื่อหมุนเวียน เพื่อเตรียมการส่งออกพร้อมทั้งเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงทางการค้าระหว่างประเทศ การยกระดับสู่มาตรฐานสากล และ การให้คำปรึกษาทางธุรกิจ พร้อมพัฒนาผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมทางการเงินเพื่อเสริมศักยภาพการแข่งขัน โดยผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงสินเชื่อดอกเบี้ยคงที่ 3 ปี เริ่มต้นเพียง 2% ต่อปี พร้อมรับกรมธรรม์ประกันการส่งออก “EXIM for Small Biz” เพื่อให้เกิดความมั่นใจในการรับชำระเงินจากผู้ซื้อต่างประเทศ.

(7) จองซื้อเกินจริง 2.5 เท่า – นับเป็นอีกความสำเร็จอันงดงามของ ค่าย GULF ภายหลัง การออกหุ้นกู้วงเงิน 30,000 ล้านบาท โดยได้รับความสนใจจากทั้งนักลงทุนทั่วไปและนักลงทุนสถาบันเป็นจำนวนมาก โดยแสดงความจำนงในการจองหุ้นกู้ของบริษัทฯ มากถึงกว่า 73,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 2.5 เท่าของจำนวนที่ประสงค์จะเสนอขาย (Oversubscription) ยุพาพิน วังวิวัฒน์ CFO คนเก่ง บอกว่า…สิ่งนี้ สะท้อนความมั่นใจของผู้ลงทุนที่มีต่อบริษัทฯ ในด้านความแข็งแกร่งของธุรกิจ หลังจากการควบรวมกิจการกับ บมจ.อินทัช โฮลดิ้งส์ (INTUCH)…“การเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้นับเป็นการเสนอขายหุ้นกู้ครั้งแรกภายใต้บริษัทใหม่ภายหลังการควบรวมกิจการกับ INTUCH ซึ่งทางบริษัทฯ ได้รับผลตอบรับที่ดีเป็นอย่างมากจากนักลงทุน อีกทั้งหลังการควบรวม บริษัท GULF ได้รับการปรับอันดับเครดิตของหุ้นกู้และองค์กรเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ “AA-” จึงทำให้การระดมทุนในครั้งนี้มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยที่ค่อนข้างต่ำ ซึ่งคาดว่าจะสามารถ ประหยัดค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยไปได้ประมาณ 300-400 ล้านบาทต่อปี” CFO สาวสวยแถม ยืนยันสำหรับการเสนอขายหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ รวม 4 ชุด คือ หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 3 ปี อัตรา ดบ.คงที่ 1.76% มูลค่า 4,900 ล้านบาท หุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 5 ปี ดบ.คงที่ 2.00% มูลค่า 13,900 ล้านบาท หุ้นกู้ชุดที่ 3 อายุ 7 ปี ดบ.คงที่ 2.20% มูลค่า 8,100 ล้านบาท และหุ้นกู้ชุดที่ 4 อายุ 10 ปี ดบ.คงที่ 2.37% ต่อปี มูลค่า 3,100 ล้านบาท โดย หุ้นกู้ทั้ง 4 ชุด มี ดบ.คงที่เฉลี่ย 2.05% และอายุเฉลี่ยหุ้นกู้ 5.7 ปี ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับ บมจ.กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) ได้ที่: https://www.facebook.com/share/19uWA5ZPLE/?mibextid=wwXIfr.

(8) ผลิตบุคลากรด้านดิจิทัล –  ดร.วศิน อุดมรัชตวนิชย์ ปธ. คณะจนท.ด้านทรัพยากรบุคคล แบงก์กรุงศรีอยุธยา ประกาศเดินหน้า ขับเคลื่อนสังคมไทยสู่ยุคอุตสาหกรรม 4.0 จับมือ…โดยการเซ็น MOU ร่วมกับ รศ.ดร.วิทยา วัณณสุโภประสิทธิ์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อพัฒนาหลักสูตร วิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีดิจิทัล (Bachelor of Engineering in Computer Engineering and Digital Technology)ตั้งเป้าผลิต บุคลากรด้านดิจิทัลรุ่นใหม่ สอดรับกับความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป ก่อนจะย้ำว่า…ความร่วมมือในครั้งนี้ ยังช่วยตอกย้ำบทบาทขององค์กรที่ไม่เพียงมุ่งสร้างความก้าวหน้าในธุรกิจ แต่ยังมุ่งมั่นยกระดับโครงสร้าง  มอบโอกาสในการเรียนรู้ และการทำงานที่สร้างคุณค่าให้แก่คนรุ่นใหม่ และสังคมไทย อีกด้วย ทั้งนี้ ความร่วมมือดังกล่าว จะเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนสำคัญในการสร้างบุคลากรคุณภาพด้านดิจิทัลรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจและนวัตกรรมของประเทศไทยอย่างยั่งยืน.

(9)การเงินเพื่ออนาคต –  กอบศักดิ์ ภูตระกูล กก. รองผจก.ใหญ่ พร้อม ผู้จัดงาน Money Expo Udonthani 2025 ร่วมพิธี เปิดบูธธนาคารกรุงเทพ ซึ่งจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “It’s all connected with Bangkok Bank” เชื่อมต่อทุก Lifestyle ของลูกค้าในทุกๆ มิติ โดยธนาคารฯได้คัดสรรผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงิน โดยเฉพาะ กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ช่วยสร้างความมั่นคงในชีวิตให้กับตัวเองและครอบครัว อาทิ ผลิตภัณฑ์เงินฝากที่ตอบโจทย์การออมและสร้างวินัยทางการเงิน ผลิตภัณฑ์สินเชื่อสำหรับเสริมสภาพคล่องและขยายโอกาสทางธุรกิจ ผลิตภัณฑ์กลุ่มประกันภัยและประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองความเสี่ยงและความมั่นคงของครอบครัว ผลิตภัณฑ์กองทุนรวมสำหรับผู้ที่ต้องการวางแผนการลงทุนในระยะยาว และบริการทางการเงินดิจิทัลที่ทันสมัย สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ซึ่งได้รับความสนใจจากพี่น้องชาวจังหวัดอุดรธานีและจังหวัดใกล้เคียงอย่างต่อเนื่อง โดยมี พจณี คงคาลัย ผช. ผจก.ใหญ่ สายลูกค้าบุคคล และ คณะผู้บริหารแบงก์กรุงเทพ ภาคอีสาน ร่วมให้การต้อนรับ ทั้งนี้ งานฯจัดถึงวันที่ 5 ต.ค.นี้ ณ ลานโปรโมชัน ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล อุดรธานี.

(10) เกียรติคุณ บริจาคเลือด – โยซูเกะ อูนิกาเมะ ปธ.บริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซัมมิท แคปปิตอล ลีสซิ่ง จำกัด กล่าวด้วยความภาคภูมิใจ หลังจากบริษัทฯได้รับใบประกาศเกียรติคุณชั้นสามัญ จาก ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ในฐานะ องค์กรที่สนับสนุนการบริจาคโลหิตอย่างต่อเนื่อง โดยมีปริมาณโลหิตที่ได้รับบริจาคมากกว่า 1,315 หน่วย ซึ่งถือเป็นผลลัพธ์สำคัญที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของผู้นำในการขับเคลื่อนกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างแท้จริง เขาย้ำว่า…บริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ควบคู่กับการสร้างคุณค่ากลับคืนสู่สังคม โดยเฉพาะการดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) ที่เน้นการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ และยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย “ที่ผ่านมา ซัมมิท แคปปิตอล ให้ความสำคัญของการช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์ที่จำเป็นต้องการใช้โลหิต และส่งต่อโลหิตเพื่อนำไปใช้ช่วยชีวิตผู้ป่วยทั่วประเทศที่ต้องการเลือด โดยร่วมกับ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย จัดกิจกรรมบริจาคโลหิตตั้งแต่ปี พ.ศ. 2565 เปิดหน่วยรับบริจาคประจำทุกๆ 3 เดือนมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง ผู้ร่วมบริจาคโลหิต ประกอบด้วย ผู้บริหาร พนักงาน ตลอดจนพนักงานภายในอาคารอื้อจือเหลียง และประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการช่วยเพิ่มคลังเลือดให้เพียงพอต่อความต้องการ ดังนั้น รางวัลนี้ไม่ใช่เพียงการยกย่ององค์กร แต่คือเครื่องยืนยันถึงความมุ่งมั่นร่วมกันของผู้บริหารและพนักงานทุกคน ที่พร้อมสานต่อเจตนารมณ์ของซัมมิท แคปปิตอล ในการทำธุรกิจควบคู่กับการสร้างสังคมที่เข้มแข็งและยั่งยืน” โยซูเกะ อูนิกาเมะ ระบุ ทั้งนี้ การจัดพิธีมอบฯ มีขึ้น ณ ห้องแกรนด์ ไดมอนด์ บอลรูม อิมแพค ฟอรั่ม เมืองทองธานี เมื่อเร็วๆ นี้.  

(11) ภาพรวมเขื่อน กฟผ.ยัง OK – ชวลิต กันคำ ผช.ผู้ว่าการผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เผยว่า กฟผ. ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หลังจาก กรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า จะมีฝนตกในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบน จากอิทธิพลของร่องมรสุมของพายุบัวลอย การติดตามครอบคลุมถึงความมั่นคงระบบไฟฟ้า และสถานการณ์น้ำในเขื่อนของ กฟผ. ทั่วประเทศ โดยจากการเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.อุตรดิตถ์ และสุโขทัย พบว่า…ยังไม่ส่งผลกระทบต่อระบบการส่งจ่ายไฟฟ้าในพื้นที่ กระนั้น กฟผ. พร้อมระดมจิตอาสาเร่งบรรจุถุงยังชีพเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัยอย่างเร่งด่วน ส่วน สถานการณ์น้ำในเขื่อนภาคเหนือและภาคอีสาน โดยเฉพาะ เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนภูมิพล เขื่อนเจ้าพระยา เขื่อนอุบลรัตน์ รวมถึงสถานการณ์น้ำใน เขื่อนใหญ่ต่าง ๆ ของ กฟผ. ในปัจจุบัน โดยภาพรวมพบว่า…มีปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำอยู่ที่ 52,671 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 86 ของความจุอ่าง มากกว่าปีที่แล้ว 5,161 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่สามารถรับน้ำได้อีก 8,806 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 14 ยังอยู่ในเกณฑ์ควบคุม มีศักยภาพและความมั่นคงปลอดภัยในการรองรับน้ำได้เพียงพอตลอดฤดูฝน…พอเบาใจกันได้บ้าง!!!.  

(12) กฟภ.เตือนภัยมิจฉาชีพ – ข่าวนี้สำคัญมาก ต้องเตือนๆ กันไว้ โดย การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) แจ้งข่าวด่วน! ยืนยัน กฟภ. ไม่ได้มีนโยบายการใช้ “บัญชีไลน์ไอดี pea463” และ “ไม่ได้เปิดบัญชี LINE ใหม่” เพื่อยกระดับบริการออนไลน์แต่อย่างใด ดังนั้น การที่ผู้ใช้ไฟฟ้าได้รับข้อความชวนให้…แอดไลน์ไอดีดังกล่าว ถือเป็นการกระทำของ มิจฉาชีพ ที่นำ…ชื่อและโลโก้ของ กฟภ. ไปแอบอ้างเพื่อหลอกลวง. ทั้งนี้ กฟภ. ขอย้ำเตือนประชาชนให้ระมัดระวัง! อย่าหลงเชื่อ…ให้ข้อมูลส่วนตัว หรือโอนเงิน ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัย หรือต้องการสอบถามข้อมูลที่ถูกต้อง สามารถติดต่อได้ที่ PEA Contact Center โทร 1129 หรือที่สำนักงาน กฟภ. ในพื้นที่ พร้อมกันนี้ ยังได้ระบุถึง ลักษณะของกลลวงมิจฉาชีพ กล่าวคือ ใช้โทรศัพท์ หรือส่งข้อความอ้างตัวว่าเป็น “เจ้าหน้าที่ กฟภ.” หรือ หลอกให้แอดไลน์ โดยอ้างว่า…จะให้บริการ หรือแจ้งข้อมูลผ่านบัญชีไลน์ปลอม เป้าหมายคือ หลอกขอข้อมูลส่วนตัว เช่น เลขบัตรประชาชน หรือข้อมูลบัญชีธนาคาร รวมถึงการหลอกให้โอนเงิน โดยมีข้อแนะนำที่จะต้องปฏิบัติตามนี้ 1. ตั้งสติ: หากได้รับโทรศัพท์หรือข้อความที่น่าสงสัย ให้ตั้งสติและอย่าหลงเชื่อทันที, 2. อย่ากดลิงก์: ไม่ควรกดลิงก์ที่ส่งมาในข้อความที่น่าสงสัยหรือไม่ทราบที่มา, 3. ตรวจสอบข้อมูล: ตรวจสอบให้รอบคอบก่อนเพิ่มเพื่อนกับบัญชีไลน์ของหน่วยงานใดๆ, 4. ติดต่อโดยตรง: หากมีข้อสงสัย ให้ติดต่อ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคในพื้นที่โดยตรง หรือโทรสอบถามที่ PEA Contact Center โทร 1129 และ 5. แชร์แจ้งเตือน: โปรดแชร์ข้อมูลนี้เพื่อแจ้งเตือนคนใกล้ตัว ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ…ทราบแล้วเปลี่ยน!!!…แล้วพบกันใหม่สัปดาห์หน้า.