12 ข่าวฮอต! เม้าท์มันส์สนั่นเมือง…(021068) 

พบกับ “12 ข่าวร้อน” ประจำวันพฤหัสบดีที่ 2 ตุลาคม 2568 ก่อนจะย่างเข้าสู่ห้วง หฤหรรษ์…ปลายฝนต้นหนาว ที่อากาศยังไม่หนาว แต่ที่หนาวคือ “คนการเมือง” เพราะมีหลายเรื่องที่ดูสับสนวุ่นวายกันเสียจริง? แม้จะเป็น “รัฐบาล 4 เดือน” แต่เหมือนจะมีสัญญาณเตือนถึงอันตรายหลายเรื่อง งั้น…เรามาเริ่มเรื่องของเรากับข่าวนี้ก่อนเลย….

(1) ทัพฟ้าพร้อมเต็มกำลังศึก – สายข่าวรายงานวานนี้ (1 ต.ค.)…การประชุดนัดแรกของ สมช.วันนี้ (2 ต.ค.) ไม่น่าจะมีเรื่อง การสร้างกำแพงปิดกั้นพรมแดนไทย-กัมพูชา แต่เอาเข้าจริง! เห็นว่า ที่ประชุม สมช. ยังคงมีเรื่องนี้อยู่ ควบคู่ไปกับการพิจารณา แต่งตั้งประธานกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือ JBC ของฝ่ายไทย และ การเสนอแผนปฏิบัติของกระทรวงกลาโหม หลายคนมองว่า…สายข่าวหลอกใช้สื่อ หวังกดดัน นายกฯอนุทิน ชาญวีรกูล เข้าทำนอง “รู้เขาหลอก แต่เต็มใจให้หลอก” นั่นเพราะ…คนไทยและประเทศไทย ได้ประโยชน์สูงสุด จากเกมชิงพื้นที่สื่อรอบนี้ ซึ่ง ที่ประชุมฯก็เห็นด้วยอย่างยิ่งกับแนวคิดนี้…ส่วนรายละเอียดลึกๆ ค่อยว่ากันใหม่ เอาเป็นว่า…ปัญหาไทย-กัมพูชา ยังเป็นเป้าสำคัญของ สมช. ในยุครัฐบาลอนุทิน ก็อย่างที่ “ผบ.ทอ. – คนใหม่” พล.อ.อ. เสกสรร คันธา ว่าไว้…หลังการลงพื้นที่ จ.สระแก้ว และ จ.อุบลราชธานี เพื่อตรวจการเตรียมความพร้อมรบ พร้อมกับยืนยันว่า…ทุกอย่างมีความพร้อมเต็มกำลังศึก!!!​ หากต้องมีการขอรับการสนับสนุนภารกิจชายแดนไทย​ -​ กัมพูชา ในอนาคต…ชัดมะ! เหมนนนนนน!!!.

(2) ลุ้นกันตัวโก่ง??? –  ที่จริงข่าวใหญ่การเมืองวันนี้ ก็มีเรื่อง “สินบนแก๊งคอลเซ็นเตอร์” ให้ได้อ่านอยู่แล้ว แต่เมื่อมี ข้อมูลใหม่ ก็ต้องหยิบมาพูดถึงกันเสียหน่อย…งานนี้ รังสิมันต์ โรม ปธ. กมธ. ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ออกมาแถลงยืนยันว่า…เบนจามิน สมิธ ตัวกลางเชื่อมประสานแก๊งคอลเซ็นเตอร์กับ ผู้นำกัมพูชา รวมถึง บางคนในฝั่งไทย? บัดนี้…จรลี บินลัดฟ้าหนีออกจากประเทศไทยไปแล้ว! หลังตกเป็นข่าวดังมาก่อนหน้านี้ โดย “ฝรั่งสัญชาติเขมร” แอบนั่ง เครื่องบินไพรเวตเจต หนีออกนอกประเทศไปตั้งแต่วันที่ 29 ก.ย.แล้ว แต่ไม่ทราบปลายทางไปไหน? ไม่รู้ว่าเพราะ “หนู(นก)รู้” หรือเป็นเพราะ โชคเข้าข้าง…นายกฯอนุทิน กันแน่??? หากสมัยเป็น รองนายกฯและรมว.มหาดไทย ยุค “รัฐบาลแพทองธาร” แล้วเซ็นอนุมัติให้ “ฝรั่งขี้นก” รายนี้…ย้ายจากสัญชาติกัมพูชา มาถือ…สัญชาติไทย ล่ะก็…งานนี้ “อ่วมอรทัย…ยับเยิน!” แน่ๆ เห็นว่า…สัปดาห์หน้า กมธ.ชุดนี้ จะเชิญ รองนายกฯธรรมนัส พรหมเผ่า มาให้ข้อมูล ในฐานะที่เป็นรู้จักมักจี่ และมีภาพถ่ายทำบุญร่วมกันกับ นายเบนจามิน และเชิญ ไชยชนก ชิดชอบ รมว.ดีอี. เข้าชี้แจงกรณีพูดถึงสินบน 40 ล้านบาท รวมถึง อีกหลายหน่วยงาน เข้าชี้แจง ส่วนจะมากันหรือไม่? ต้องลุ้นกันตัวโก่ง คริๆๆๆ.

(3.) เร่งจ่ายเยียวยา – “โฆษกรัฐบาล” สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ อ้างความห่วงใยของ นายกฯอนุทิน ที่ได้สั่งการเร่งจ่ายเงินเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ ประชาชนในพื้นที่ 7 จังหวัด ที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่… จ.อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ สระแก้ว จันทบุรี และตราด รวม 315,476 ครัวเรือน จะต้องได้รับเงินเยียวยาแน่นอน ตามเกณฑ์การจ่ายเงินเยียวยาอย่างแน่นอน โดยวานนี้ (1 ต.ค.) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ส่งข้อมูลให้ธนาคารออมสิน ดำเนินการโอนเงินให้ผู้ประสบภัย 238,053 ครัวเรือนแล้ว แบ่งเป็น 1. ชาวบ้าน จ.บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ และสุรินทร์ 147,370 ครัวเรือน วงเงิน 736,850,000 บาท ซึ่งจะได้รับเงินเยียวยาวันที่ 6 ต.ค. และ 2. จ.ศรีสะเกษ อุบลราชธานี สระแก้ว และตราด 90,683 ครัวเรือน วงเงิน 364,417,000 บาท และจะได้รับเงินเยียวยาวันที่ 7 ต.ค. ส่วนผู้ประสบภัยที่เหลือ ปภ. จะทยอยนำส่งรายชื่อให้ ธนาคารออมสิน และโอนให้แล้วเสร็จภายในเดือนตุลาคมนี้ อนื่ง ผู้ประสบภัยสามารถตรวจสอบสถานะ “การรับเงินช่วยเหลือ” ได้ทาง https://relief68.disaster.go.th/Dashboard/BoardHelpRegister.

(4) รอจีนชัดเจน!!??สีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศ ระบุภายหลังจากที่ สื่อใหญ่ค่ายอเมริกัน ตีข่าวกรณี รัฐบาลจีน ขนอาวุธมาให้กองทัพกัมพูชา เพื่อมาโจมฝ่ายไทย โดยระบุว่า…ฝ่ายจีนอาจจะให้ แต่เขาไม่ได้สนับสนุนที่จะเอาอาวุธนั้นมารุกรานประเทศอื่น ซึ่งการให้ความช่วยเหลือในการป้องกันประเทศเป็นเรื่องธรรมดา แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะให้ความช่วยเหลือกัมพูชามารุกรานประเทศไทย ทั้งนี้ รมว.ต่างประเทศ ชี้ว่า…หากมีการซื้อขายอาวุธก็ถือเป็นเรื่องปกติ  ซึ่งไทยเราก็มี ส่วนจะเชิญ ตัวแทนสถานทูตจีนในไทย มาหารือร่วมกันหรือไม่? นายสีหศักดิ์ ย้ำว่า ทาง รมว.กลาโหมบอกว่า “เป็นข่าวเก่า” ส่วนจะประชาสัมพันธ์ให้คนไทยเข้าใจอย่างไร เพราะขณะนี้คนไทยเข้าไปถล่มเพจทางการจีนนั้น โดยยืนยันว่า…เขาจะไปเช็กดู และจะขอความกระจ่างจากทางสถานทูตจีน อย่างไรก็ตาม เขาจะขอคุยกับสถานทูตจีนก่อน เพราะการให้ความช่วยเหลือด้านการป้องกันประเทศ เป็นเรื่องที่หลายประเทศทำกัน แต่ไม่ได้หมายความว่า…ทางการจีนประสงค์จะให้ความช่วยเหลือกัมพูชาเพื่อจะไปรุกรานประเทศอื่น ประเด็นนี้สำคัญและเรื่องนี้ยังไม่มีรายงานอย่างเป็นทางการ คงต้องรอความชัดเจนจากทางการจีนอีกที!!!.

(5) กว้างเทียบ ‘เจ้าพระยา’ – หลังจาก…โชว์กึ๋น! แนวคิด/แนวทางดำเนินงาน บนเป้าหมาย พลิกฟื้นเศรษฐกิจไทย ชู นโยบาย Quick Big Win “5 เสาหลัก” มุ่ง “กระตุ้นสั้น ได้ยาว กระจายตัว” ระหว่างการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา เมื่อวันก่อน ล่าสุด คราเสร็จประชุมมอบนโยบายแก่…ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงการคลัง  “ดร.เอก” เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกฯและรมว.คลัง ในฐานะ “หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ” ของ“รัฐบาล 4 เดือน” ก็เซ็นคำสั่งแบ่งงานให้…วรภัค ธันยาวงษ์ “รมช.คลัง” ทันที! งานนี้…เจ้าตัว ขอดูกระทรวงและหน่วยงานหลักๆ ไม่กี่แห่ง? โฟกัสแค่…กรมสรรพากร ศุลกากร สศค. สคร. และอีก 3 แบงก์รัฐออมสิน ธ.ก.ส. และ ธอส. ที่เหลืออีก 14 หน่วยงานรัฐ มอบให้ “วายุภักษ์ 2” รับผิดชอบกันไป ถือว่า…ใจกว้างเป็นแม่น้ำเจ้าพระยาทีเดียว! หยั่งว่า…ระดับนักกลยุทธ์ชั้นยอด เรื่องจะ เหวี่ยงแห…ครอบจักรวาล ย่อมไม่มีในหัวสมอง!!! 555.

(6) ส่วนน้อย ภายในแม้จะมี “ประธานบอร์ดฯ” เป็นถึง…“อดีตปลัดฯคลัง” ดร.สมชัย สัจจพงษ์ แต่การเข้าทำงานวันแรก ณ วังบางขุนพรหม ของ วิทัย รัตนากร ผู้ว่าแบงก์ชาติ…ป้ายแดง ก็แค่เพียง “เสียงส่วนน้อย” ทั้งในกลุ่ม…ผู้บริหารระดับสูง และ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) การจะ “หักดิบ…ชี้นำ” เชิงนโยบาย ในองค์กร Conservative แห่งนี้…ไม่ใช่เรื่องง่าย!!! ถึงแม้จะเป็น “ส่วนน้อย…ภายใน” แต่ก็เป็น “ส่วนใหญ่…ของคนภายนอก” อย่างน้อย…เพื่อนร่วมงาน องค์กรเก่า “แบงก์ออมสิน” นำโดย รองฯลภาวรรณ จันทร์กระจ่าง ก็ร่วมพิสูจน์แนวคิดนี้ ยกทีม…ตบเท้า ร่วมแสดงความยินดีถึงที่ทำการแบงก์ชาติ หวังใจว่า…เพื่อนผู้คุ้นชิน ที่วันนี้ มีดีกรี “หัวหน้าทีมเศรษฐกิจฯ” จะเมียงมองมายัง…องค์กรที่หลายคน? ถนัดแต่ทำงานในห้องแอร์!!?? มาลุ้นกัน???…อดีตอธิบดีฯ อดีตปลัดฯ และอดีตผู้บริหารแบงก์รัฐ สังกัดกระทรวงการคลัง จะร่วมฝ่าฟันนำพาเศรษฐกิจไทย ในมิติการเงินและการคลัง มุ่งไปข้างหน้าอย่างเป็นเอกภาพ และทรงประสิทธิภาพ เพียงใด???.

(7) รับไม้ต่อ กรม ESG – นี่ก็เป็นอีกหน่วยงานรัฐ ที่มี “หัวหน้าองค์กรคนใหม่” สำหรับ กรมสรรพสามิต ดีเดย์ “1 ต.ค.” เหมือนกับหน่วยงานอื่นๆ เมื่อ คนเก่าดร.กุลยา ตันติเตมิท ย้ายไปคุมงานที่ กรมศุลกากร และเป็น คนใหม่ ดร.พรชัย ฐีระเวช ที่เข้ามา “รับไม้ต่อ” ในตำแหน่ง “อธิบดีฯ” พร้อมขับเคลื่อน…ยุทธศาสตร์ SMART Excise พุ่งเป้า…มุ่งหน้าสู่ความเป็น “กรม ESG” เช่นที่ อดีตอธิบดีฯคนก่อนๆ อย่าง… เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ เคยวาง…ยุทธศาสตร์ เป้าหมาย และแผนงาน กันเอาไว้ พร้อมการนำ…ไฮเทคโนโลยี มาใช้…เพื่อช่วยในการดำเนินงานอย่างเต็มที่! หลังเสร็จสิ้น…พิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกรมสรรพสามิต คงต้องพูดคุยกันถึงเนื้องานกันต่อ? ที่สำคัญ…บรรดา ผู้บริหารระดับสูงกรมสรรพสามิต ก็คงต้องเตรียมการ “รับการตรวจเยี่ยม” และ “รับมอบหมายนโยบาย” จากฝ่ายการเมือง อย่าง…วรภัค ธันยาวงษ์ “รมช.คลัง” ที่เพิ่งจะได้รับการแบ่งงาน และคุมกรมภาษีเดียว คือ ณ ที่กรมแห่งนี้…ส่วนจะเป็นเมื่อใด? มีสาระสำคัญอย่างใด? ถึงตอนนั้น…จะรีบนำมาเล่ากันฟังในทันที!!!.

(8) ธงนำ ‘ร่างพิมพ์เขียว’ประธาน กกร. “ผยง ศรีวาณิช” ดีกรี ปธ.สมาคมธนาคารไทย พ่วง เอ็มดี.ใหญ่ แบงก์กรุงไทย ฝากขอบคุณ “รัฐบาลอนุทิน” ในนาม…กกร. “สภาหอการค้าฯ – สภาอุตสาหกรรมฯ – สมาคมธนาคารไทย” ที่รัฐบาลได้ให้ความสำคัญ…รับฟังและทำงานแบบมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง! กับข้อเสนอของ ภาคเอกชน ซึ่ง รัฐบาล ได้นำไปบรรจุไว้เป็นส่วนหนึ่งของ นโยบายรัฐบาล ที่ได้แถลงต่อรัฐสภา เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เจ้าตัวและแกนนำ กกร. ยืนยัน! พร้อมจะ สนับสนุนการทำงานของ “รัฐบาล 4 เดือน” อย่างเต็มที่ โดยภาคเอกชนเชื่อมั่นแรงกล้า! ว่า…ร่างพิมพ์เขียวเวที “Reinvent Thailand” ที่เสนอผ่าน นายกฯอนุทิน ชาญวีรกูล ถึง รองนายกฯเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ในฐานะ “หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ” ของรัฐบาลชุดนี้ สามารถจะใช้เป็นกรอบการทำงานที่รวดเร็วและคล่องตัว หมาะสมกับบริบทโลกที่มีการเปลี่ยนแปลง ในการฟื้นฟูและยกระดับเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไป ได้อย่างแน่นอน สอดรับกับ เป้าหมายสูงสุด…นโยบาย Quick Big Win โดยทุกอย่างจะไหลมาบรรจบ และสัมฤทธิ์ผลให้เห็นเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน…ในห้วงเวลาก่อนถึงการเลือกตั้งใหญ่ครั้งใหม่อย่างแน่นอน…ว่าไปโน้นนนนนน!!!.

(9) เร็วขึ้น 15 ปีอนาคตอุตสาหกรรมไทยจะเป็นอย่างไร? เมื่อ รัฐบาลอนุทิน ชาญวีรกูล ประกาศนโยบายใหม่ ให้ไทยบรรลุเป้า Net zero เร็วขึ้น 15 ปี จากเดิมปี 2065 เป็นปี 2050 เรื่องนี้…ดร.เกียรติศักดิ์ คำสี นักวิเคราะห์อาวุโส ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ SCB EIC จับเรื่องมาวิเคราะห์ได้อย่างน่าสนใจ และตอบคำถามข้างต้นได้อย่างลงตัว มุมมองของนักวิจัยค่ายไทยพาณิชย์ ชี้ว่า…สิ่งนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในเชิงนโยบายด้านสภาพภูมิอากาศของไทย นับเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่จะเขย่าอนาคตของภาคอุตสาหกรรมไทย และเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยให้อุตสาหกรรมไทย ปรับตัวสู่ “เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ” ได้เท่าทันโลก และไม่ต้องล่าช้ากว่า 111 ชาติ ถึง 15 ปี กระทั่ง เสี่ยง! หลุดจากวงจรการค้าโลกในอนาคต   โดยการเปลี่ยนผ่านสู่ “เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ” จำต้องอาศัยแรงส่งจากภาครัฐอย่างจริงจัง แม้เป้าหมายใหม่จะถือเป็นความก้าวหน้า แต่ในระดับโลก…ไทยเพียงแค่ “กลับเข้าสู่มาตรฐานสากล” เหมือน…ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป และเวียดนาม ที่ได้ประกาศ Net zero 2050 ไปก่อนแล้ว ย่อมเป็นความท้าทายและโจทย์สำคัญที่ผู้ประกอบการไทยต้องเร่งปรับตัวให้ทัน!!!.

(10) การเงินต้องรับผิดชอบ – ไม่ใช่ข่าวเล็กๆ แล้ว สำหรับข้อเรียกร้องของ แนวร่วมภาคประชาสังคม, แนวร่วมการเงินที่เป็นธรรมเอเชีย (FFA ) และ แนวร่วมการเงินที่เป็นธรรมประเทศไทย (FFT) บนเวที Bangkok Climate Action Week (BKKCAW) จัดขึ้นเมื่อช่วงสายวันนี้ (2 ต.ค.) พวกเขาต่างร่วมกันแสดงจุดยืน…เน้นย้ำให้ “สถาบันการเงินทั่วเอเชีย” จำเป็นต้องดำเนินการอย่างจริงจัง และมีความรับผิดชอบมากขึ้น ในการรับมือกับผลกระทบทางสังคมและสิ่งแวดล้อมข้ามพรมแดน ที่เกิดจากการจัดหาเงินทุนเพื่อการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน ระหว่างการแถลงข่าว แกนนำอย่าง… เบอร์นาเด็ต วิคตอริโอ หัวหน้าโครงการ แนวร่วมการเงินที่เป็นธรรมเอเชีย ปิยนันท์ จิตต์แจ้ง ตัวแทน กลุ่มรักษ์เชียงของ และ สฤณี อาชวานันทกุล หัวหน้าทีมวิจัย แนวร่วมการเงินที่เป็นธรรมประเทศไทย ได้เน้นย้ำ…ถึงความเสี่ยงจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ โครงสร้างพื้นฐานเชื้อเพลิงฟอสซิล และห่วงโซ่อุปทานแร่ธาตุที่ยังขาดการควบคุม ซึ่งมักส่งผลกระทบอย่างไม่เป็นธรรมต่อประชากรกลุ่มเปราะบางที่อาศัยอยู่ข้ามพรมแดน พวกเขาเห็นตรงกันว่า…การเร่งขับเคลื่อนสู่เป้าหมายการเปลี่ยนผ่านที่เป็นธรรมของการเงินภูมิภาค จำเป็นที่…ผู้กำหนดนโยบาย ธนาคาร และนักลงทุน ต้องผนวกกลไกการคุ้มครอง ความโปร่งใส และต้องหารือกับภาคส่วนต่าง ๆ เข้าไว้เป็น “แกนหลัก” ของการจัดหาเงินทุนเพื่อการเปลี่ยนผ่านพลังงานข้ามพรมแดน…เห็นด้วยอย่างยิ่ง!!!.

(11) ปรับสูตรคำนวณเงินชราภาพบุปผา เรืองสุด เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) เผยถึงมติของ คณะกรรมการประกันสังคมในการประชุมครั้งที่ 16/2568 ที่เห็นชอบในหลักการ การปรับสูตรคำนวณค่าจ้างเฉลี่ยสำหรับการคำนวณเงินบำนาญชราภาพ โดยใช้ ค่าจ้างเฉลี่ยตลอดช่วงเวลาที่ผู้ประกันตน ส่งเงินสมทบ และปรับค่าตามคะแนนบำนาญชราภาพ (Pension Point) หวังให้สอดคล้องกับรายได้ที่แท้จริง! ของผู้ประกันตน แถมยังเป็นสร้างความธรรมอีกด้วย  หลักเกณฑ์การคำนวณและการจ่ายที่สำคัญ คือ 1. คำนวณค่าจ้างเฉลี่ยทุกเดือน ที่ส่งเงินสมทบ โดยปรับค่าจ้างแต่ละเดือนเป็นคะแนนบำนาญ ซึ่งคำนวณจากค่าจ้างของผู้ประกันตนเทียบกับค่าจ้างอ้างอิง (ค่าจ้างเฉลี่ยของผู้ประกันตนตามมาตรา 33), 2. จัดทำกติกาการเปลี่ยนผ่าน หากสูตรใหม่ให้ผลน้อยกว่าสูตรเดิม จะมีการชดเชยส่วนต่างเป็นเวลา 5 ปี โดยปีแรกชดเชย 100% และลดลงปีละ 20% จนถึงปีที่ 5, 3. ผู้ที่รับบำนาญอยู่แล้ว หากคำนวณใหม่แล้วได้จำนวนมากขึ้น จะปรับเพิ่มให้ตั้งแต่เดือนถัดไป และ 4. การดำเนินการปรับสูตรบำนาญใหม่ จะทำควบคู่กับการปรับวิธีการคำนวณอัตราบำนาญรายเดือนทั้งนี้ ตาม พ.ร.บ.หลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ. 2562 หน่วยงานของรัฐมีหน้าที่ต้องจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้อง เพื่อให้ได้ข้อมูลที่รอบด้านและสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน…ทราบแล้วเปลี่ยน!!!

และ (12) Street Art กทม.“โฆษก กทม.” เอกวรัญญู อัมระปาล เผยว่า เพราะศิลปะเป็นภาษาสากลที่ไร้พรมแดน ทุกคนสามารถเข้าใจและเข้าถึงได้ ซึ่งนอกจากจะเป็นสิ่งจรรโลงใจผู้คนแล้ว ศิลปะยังขับเคลื่อนเมืองในหลายมิติ อาทิ การพัฒนาคน การท่องเที่ยว และเศรษฐกิจ ดังนั้น กรุงเทพมหานคร จึงมีนโยบายเปิดพื้นที่ของเมืองให้เต็มไปด้วยศิลปะที่หลากหลาย ประชาชนเข้าถึงได้ และส่งเสริมให้ศิลปินมีพื้นที่สำหรับผลิตผลงานและแสดงฝีมืออย่างสร้างสรรค์ โดย Street Art เป็นแขนงหนึ่งของศิลปะที่ กทม. สนับสนุนมาอย่างต่อเนื่อง โดย กรุงเทพมหานคร ขอเป็นตัวกลางในการนำพาให้ศิลปินได้มาพบกับพื้นที่ และให้เจ้าของพื้นที่ได้มาพบกับศิลปิน จึงขอเชิญชวนคนที่มีผนังอยากให้คนมาวาด มาเจอกับคนที่อยากวาดแต่ไม่รู้จะวาดที่ไหน โดย เจ้าของพื้นที่ และศิลปิน สามารถส่งข้อมูลผ่านแบบฟอร์มได้ที่ https://forms.gle/qKhS1jxuZ8tzBbVG8 ทั้งนี้ ขอสงวนสิทธิ์ให้เจ้าของผนังเป็นผู้เลือกศิลปิน!!!. แล้วพบกันใหม่พรุ่งนี้.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password