กรมพัฒนาธุรกิจฯ เร่งเครื่องขจัดธุรกิจผิดกม. ตั้งหน่วยงานป้องกันปราบปรามนอมินีต่างด้าว!

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เดินหน้าป้องกันและปราบปรามธุรกิจนอมินีของคนต่างด้าว ล่าสุด สั่งจัดตั้งหน่วยงานภายในระดับกองและแต่งตั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามธุรกิจผิดกฎหมาย มุ่งกวาดล้างธุรกิจที่ฝ่าฝืนกฎหมาย

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ปัจจุบัน กรมฯพยายามให้ภาคธุรกิจได้รับความสะดวก รวดเร็ว และจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลได้ง่ายขึ้น โดยเน้นให้บริการผ่านระบบออนไลน์ แต่ในทางกลับกัน ช่องทางดังกล่าวอาจทำให้ผู้ไม่สุจริตใช้เป็นช่องทางหลอกลวงประชาชนได้ง่ายเช่นกัน โดยจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลและเปิดบัญชีกับธนาคารเพื่อหลอกลวงประชาชนในลักษณะ “บัญชีม้าแบบนิติบุคคล”

นอกจากนี้ ยังมี นิติบุคคลบางรายที่หลีกเลี่ยงหรือประกอบธุรกิจโดยฝ่าฝืนกฎหมาย รวมถึงกรณีที่ บุคคลต่างด้าวจดทะเบียน นิติบุคคลโดยอาศัยคนไทยเป็นตัวแทนอำพรางหรือนอมินี (Nominee) ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชนและส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน

โดย สถานการณ์ดังกล่าวทวีความรุนแรงมากขึ้นเป็นลำดับ กรมฯ จึงได้ขานรับนโยบายของ นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์ ที่มุ่งเน้นป้องกันและปราบปรามธุรกิจอำพรางของคนต่างด้าว (นอมินี) และเร่ง จัดตั้งกองป้องกันและปราบปรามธุรกิจผิดกฎหมาย เพื่อรับผิดชอบเรื่องดังกล่าวโดยตรง และบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดเพื่อการป้องกันและปราบปรามการฝ่าฝืนกฎหมาย และ ยังได้ออกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามธุรกิจผิดกฎหมาย โดยมี อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เป็นประธานคณะกรรมการ ซึ่งใน การประชุมคณะกรรมการฯ ครั้งแรก เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2568 ที่ประชุมฯได้กำหนดกรอบนโยบายและยุทธศาสตร์ด้านการป้องกันและปราบปรามธุรกิจที่หลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืนกฎหมาย รวมทั้ง มีมติแต่งตั้งคณะอนุกรรมการด้านการป้องกันการจดทะเบียนธุรกิจ คณะอนุกรรมการด้านการวิเคราะห์ข้อมูลธุรกิจ คณะอนุกรรมการด้านการตรวจสอบบัญชีธุรกิจ และคณะอนุกรรมการด้านกฎหมาย เพื่อดำเนินการตามภารกิจในแต่ละด้าน

สำหรับ แนวทาง วิธีการตรวจสอบ รวมทั้ง มาตรการในการป้องกันและปราบปรามธุรกิจที่หลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืนกฎหมาย ทาง คณะอนุกรรมการแต่ละด้าน จะได้พิจารณากำหนดต่อไป ทั้งนี้ หากพบการกระทำความผิดจะประสานความร่วมมือกับหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินคดีแก่ผู้กระทำความผิดให้ถึงที่สุด

การดำเนินการป้องกันและปราบปรามธุรกิจผิดกฎหมายในรูปแบบของคณะกรรมการฯ และการบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเป็นการบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อภารกิจภาครัฐ การลงทุน และดำเนินธุรกิจภาคเอกชนเป็นไปด้วยความสะดวก ทำให้ให้เกิดความเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ และส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาประเทศในระยะยาว รวมถึงให้ ทุกภาคส่วนได้รับประโยชน์จากการพัฒนาประเทศอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม นายพูนพงษ์ กล่าวส่งท้าย.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password