‘ครม.หนู’ ถกนัดพิเศษ จัด 2.2 หมื่นลบ. กระตุ้นเศรษฐกิจ แก้ระยะสั้น วางเป้าระยะยาว

“ครม.นัดพิเศษ” เคาะงบ 2.2 หมื่นล้านบาท เติมเงินบัตรสวัสดิการ-คนละครึ่ง ลดภาระค่าครองชีพ พร้อมขยายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย รัฐบาลย้ำ! มีงบเพียงพอ พร้อมเดินหน้าแก้ปัญหาเศรษฐกิจเร่งด่วน หวังเชื่อมโยงมาตรการสั้น–ยาวช่วยประชาชนทันปลายปีนี้
เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2568 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดพิเศษ ภายใต้การนำของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย มีมติเห็นชอบมาตรการด้านเศรษฐกิจและสังคมหลายประการเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ทั้งการ เพิ่มวงเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการคนละครึ่ง มาตรการค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย และ การกำหนดทิศทางนโยบายการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก โดยรัฐบาลยืนยันว่า มีงบประมาณเพียงพอและจะเร่งดำเนินการให้ทันกำหนดการ
ในส่วนของ การช่วยเหลือผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ครม.อนุมัติงบประมาณ 22,780 ล้านบาท เพื่อเพิ่มวงเงินสวัสดิการให้แก่ผู้มีสิทธิ 13.4 ล้านคน โดยจะได้รับ การเติมเงินเพิ่มอีก 850 บาทต่อเดือน เป็นเวลา 2 เดือน รวมเป็น 1,700 บาท ใช้จ่ายได้ในเดือนพฤศจิกายน–ธันวาคม 2568 ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยสามารถนำไปซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าเพื่อการศึกษา และวัตถุดิบเพื่อการเกษตรจากร้านค้าธงฟ้าราคาประหยัดหรือร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ ทั้งนี้ หากวงเงินคงเหลือในแต่ละเดือนจะไม่สะสมไปยังเดือนถัดไป
ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวยังเชื่อมโยงกับโครงการ “คนละครึ่ง” ที่รัฐบาลชุดนี้ผลักดัน โดยแบ่งการดำเนินงานเป็น 2 เฟส เฟสแรก ครอบคลุมประชาชน 33 ล้านคน แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1.ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 13 ล้านคน ที่จะได้รับสิทธิรวม 2,000 บาท ใช้ได้ในช่วงสองเดือนปลายปี โดยรัฐเป็นผู้จ่ายเต็มจำนวน 2.ผู้ที่ไม่ได้อยู่ในระบบภาษีราว 9 ล้านคน จะได้รับสิทธิคนละ 2,000 บาท ใช้จ่ายสูงสุดไม่เกินวันละ 200 บาทแบบร่วมจ่ายกับรัฐ และ 3. ผู้ที่อยู่ในระบบภาษีราว 11 ล้านคน จะได้รับสิทธิคนละ 2,400 บาท โดยจ่ายแบบ 50:50 กับภาครัฐ จำกัดวันละไม่เกิน 200 บาท
โดย มาตรการนี้จะเปิดลงทะเบียนในเดือนตุลาคม และเริ่มใช้สิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคมเป็นต้นไป กำหนดเงื่อนไขการใช้จ่ายครอบคลุมสินค้าอุปโภคบริโภค บริการด้านความงามและสุขภาพ รวมถึง ค่าโดยสารบางประเภท แต่ไม่ครอบคลุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ และหนังสือ
ขณะที่ เฟสสองของโครงการคนละครึ่ง กำลังอยู่ระหว่างการออกแบบรายละเอียด โดยมี แนวคิดจะต่อเนื่องในช่วงต้นปี 2569 และเน้นกลุ่มผู้เสียภาษีมากขึ้น
นอกจากนี้ ครม.ยังมีมติอนุมัติขยายมาตรการค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย สำหรับรถไฟฟ้าสายสีแดงและสายสีม่วงออกไปอีก 2 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ถึง 30 พฤศจิกายน 2568 เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายด้านการเดินทางของประชาชน ซึ่งมาตรการดังกล่าวมาพร้อมกับ การตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่างกระทรวงคมนาคมและกระทรวงการคลัง เพื่อติดตามและประเมินผลการดำเนินงาน รวมทั้งพิจารณาทิศทางการดำเนินการในระยะถัดไป
ควบคู่กับมาตรการระยะสั้น ครม.ยังพิจารณากรอบนโยบายเศรษฐกิจระยะยาว โดยเน้นการลดต้นทุนการครองชีพ การปรับมาตรฐานสินค้าเพื่อป้องกันปัญหาการสวมสิทธิสินค้า (Transshipment) ที่ทำให้ไทยเสี่ยงต่อการถูกเก็บภาษีตอบโต้จากประเทศคู่ค้า และการจัดสรรซอฟต์โลนเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและเกษตรกรให้เข้าถึงแหล่งทุนอย่างทั่วถึง โดยรัฐบาลยืนยันว่า การดำเนินนโยบายทั้งหมดจะอยู่บนฐานงบประมาณที่มั่นคง มีเงินเพียงพอที่จะดำเนินโครงการตามเป้าหมายอย่างครบถ้วน และจะเร่งเสนอรายละเอียดที่เกี่ยวข้องเข้าสู่การพิจารณาของ ครม. ต่อไปในสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ มาตรการที่ ครม.นัดพิเศษอนุมัติเมื่อวันที่ 30 กันยายน ได้สะท้อนถึงความพยายามของรัฐบาลในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจเร่งด่วนและบรรเทาค่าครองชีพประชาชนในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็น ด้านการบริโภค การเดินทาง หรือการลดความเหลื่อมล้ำในระบบภาษี โดยมีเป้าหมาย ให้มาตรการต่าง ๆ เชื่อมโยงกันทั้งระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งผลลัพธ์ที่แท้จริงจะขึ้นอยู่กับความรวดเร็วและความต่อเนื่องของการดำเนินงานในช่วงปลายปีนี้.