คต. จัด ‘TRC 2025 สัญจร’ นครพนม จูงใจเกษตรกร ผลิตข้าวไทยคุณภาพดี มีมาตรฐาน สู่ความต้องการตลาด

กรมการค้าต่างประเทศ เร่งเครื่องจัดโครงการ Thailand Rice Convention 2025 สัญจร ครั้งที่ 6 ที่นครพนม ปลุกกระแส “พัฒนาข้าวคุณภาพดี มีมาตรฐาน ตรงตามความต้องการของตลาด” สร้างมูลค่าเพิ่มและขีดความสามารถการแข่งขันของข้าวไทยในตลาดโลก

นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) หรือ DFT กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 29 – 30 ส.ค. 2568 กรมฯ โดยความร่วมมือของสำนักงานพาณิชย์จังหวัดนครพนม ได้จัดโครงการ Thailand Rice Convention 2025 สัญจร (TRC 2025 สัญจร) ครั้งที่ 6 ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ จังหวัดนครพนม เพื่อเชื่อมโยงการพัฒนาอุตสาหกรรมข้าวไทยทั้งระบบจากภาคการตลาดสู่ภาคการผลิต ภายใต้แนวคิด “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” สร้างความรู้ความเข้าใจในเรื่องของตลาดข้าว แนวโน้มสถานการณ์ตลาดข้าวโลก พฤติกรรมและความนิยมการบริโภคข้าวในต่างประเทศ กฎ ระเบียบและมาตรฐานการส่งออกข้าว การเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูก และทิศทางการปรับตัวเพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงของข้าวไทยด้วยการยกระดับการผลิตข้าวคุณภาพดีและแปรรูปผลิตภัณฑ์จากข้าวเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม ให้แก่ เกษตรกร กลุ่มวิสาหกิจชุมชน หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ตลอดจนผู้ที่สนใจในแวดวงอุตสาหกรรมข้าวในจังหวัดนครพนมและพื้นที่ใกล้เคียง มากกว่า 200 ราย

ภายในงาน TRC 2025 สัญจร ประกอบด้วย กิจกรรมสัมมนาให้ความรู้ในวันที่ 29 สิงหาคม 2568 ณ โรงแรมเวลาดี โดยวิทยากรผู้มีความรู้มากประสบการณ์ด้านตลาดข้าวและส่งออกข้าวไปต่างประเทศ การเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูกข้าวแบบยั่งยืนให้มีต้นทุนต่ำแต่ผลผลิตสูง และการเสวนาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ โดยมีตัวแทนจากภาคเอกชนผู้เชี่ยวชาญการใช้เทคโนโลยี เกษตรกรต้นแบบจากวิสาหกิจชุมชนแปรรูปข้าวตำบลบ้านผึ้ง (ข้าวสุข) และประธานศูนย์ข้าวชุมชนตำบลหนองฮีและศูนย์ข้าวชุมชนระดับจังหวัดร่วมกันถ่ายทอดแนวคิดและมุมมองการพัฒนาปรับตัวของเกษตรกรไทยให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงและการแข่งขันในตลาดสินค้าข้าวปัจจุบัน เน้นการยกระดับการผลิตข้าวเชิงมูลค่า ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อลดต้นทุนแรงงานและเวลาแปรรูปผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืนให้เกษตรกรในระยะยาวรวมทั้งยังมีการจัดนิทรรศการแสดงยุทธศาสตร์ข้าวไทยด้านการพัฒนาการผลิต ขั้นตอนการส่งออกข้าว มาตรฐานข้าวหอมมะลิไทย ข้าวอินทรีย์เพื่อการส่งออกไปต่างประเทศ และการแสดงสินค้าข้าวอินทรีย์และผลิตภัณฑ์แปรรูปจากข้าว

นอกจากนี้ เกษตรกรและผู้ที่สนใจยังได้มีโอกาสศึกษาดูงานการผลิตข้าวอินทรีย์และการแปรรูปข้าว ณ ฟาร์มข้าวคุณแม่ ซึ่งเป็นกลุ่มเกษตรกรต้นแบบที่ประสบความสำเร็จเป็นที่ประจักษ์จากการพัฒนาตนเองตั้งแต่การเป็นผู้ปลูกข้าวอินทรีย์คุณภาพดี คิดค้น พัฒนาและแปรรูปผลิตภัณฑ์นวัตกรรมจากข้าวอินทรีย์ โดยเกษตรกรที่เข้าร่วมกิจกรรมได้รับทั้งความรู้และแรงบันดาลใจในการพัฒนาปรับปรุงการผลิตข้าวของตนเอง ยกระดับการแปรรูปข้าว มุ่งสู่การส่งเสริมสินค้าข้าวไทย บนพื้นฐานของการช่วยเหลือถ่ายทอดองค์ความรู้ซึ่งกันและกัน ตามนโยบาย “ไทยทำ ไทยใช้ ไทยช่วยไทย” ของกระทรวงพาณิชย์

โครงการ TRC 2025 สัญจร นครพนม นับเป็นการสานต่อกิจกรรม TRC สัญจร ที่จัดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2023 ณ จังหวัดเชียงราย สุพรรณบุรี อุบลราชธานี นครศรีธรรมราช และร้อยเอ็ด ซึ่งได้รับการตอบรับจากเกษตรกร ผู้ปลูกข้าว กลุ่มวิสาหกิจชุมชน ผู้ประกอบการ และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องในทุกพื้นที่เป็นอย่างดี มีเกษตรกรมากกว่า 1,000 ราย ที่ได้รับความรู้ ประสบการณ์ และประโยชน์จากกิจกรรมนี้ เกิดแรงบันดาลใจในการพัฒนาปรับปรุงการผลิตข้าวให้ดีขึ้นได้ภายใต้บริบทของตนเองและยังเป็นศูนย์กลางสื่อสารถ่ายทอดองค์ความรู้ต่อไปยังเกษตรกรผู้ปลูกข้าวกลุ่มอื่น ๆ ในภาคการผลิตต่อไป ส่งเสริมให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับอุตสาหกรรมข้าวทั้งระบบ ช่วยให้เกษตรกรและผู้ที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมข้าวไทยตระหนักถึงความสำคัญของการปรับตัวให้ทันต่อภาวะการแข่งขันภายใต้กลไกตลาด

ความสำเร็จของการจัดกิจกรรม TRC สัญจร ในภูมิภาคดังกล่าว แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือระหว่างภาคการผลิตและภาคการตลาด และการบูรณาการร่วมกันของทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชนในการผลักดันนโยบายการพัฒนาอุตสาหกรรมข้าวไทยแบบ “ตลาดนำการผลิต” ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ตามวิถีแห่งการช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกันแบบ “ไทยทำ ไทยใช้ ไทยช่วยไทย” โดยต่อจากนี้ กรมการค้าต่างประเทศจะมุ่งเน้นการสร้างความเข้มแข็งและการเติบโตให้กับวิสาหกิจชุมชนและผู้ประกอบการรายเล็กที่มีความพร้อมเข้าร่วมงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติ นำเสนอคุณลักษณะเด่นของข้าวในแต่ละพื้นที่ปลูก ประชาสัมพันธ์ข้าวคุณภาพของไทยที่มีคุณประโยชน์ ปลอดภัย ได้มาตรฐาน ตลอดจนผลิตภัณฑ์จากข้าวที่หลากหลาย สร้างโอกาสในการส่งออกข้าวให้แก่วิสาหกิจชุมชนและผู้ประกอบการรายเล็ก ซึ่งจะช่วยขยายตลาด เพิ่มมูลค่าข้าวไทยและรายได้ของเกษตรกรไทยให้สูงขึ้นอย่างยั่งยืน.