แจงผลสำเร็จงาน JUAL BELI กลางเมืองสตูล ชี้! ผู้ร่วมงานแน่น ปลุกเศรษฐกิจคึกคัก ดันยอดขายทะลุ 50 ลบ.

กรมการค้าต่างประเทศ แจงผลความสำเร็จจัดงาน “มหกรรมการค้าชายแดน ณ จังหวัดสตูล: จูวัล บือลี” กลางเมืองสตูล เผย! จัดตลอด 4 วัน ได้รับความสนใจจากประชาชนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวล้นหลาม สร้างบรรยากาศสุดคึกคักในพื้นที่ สร้างยอดขายทะลุ 50 ล้านบาท

นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงการจัดงาน “มหกรรมการค้าชายแดน ณ จังหวัดสตูล (JUAL BELI : จูวัล บือลี)” ระหว่างวันที่ 7 – 10 สิงหาคม 2568 ณ บริเวณหน้าวัดมงคลมิ่งเมือง หัวสะพานตายาย อำเภอเมือง จังหวัดสตูล ว่า การจัดงานในครั้งนี้  ถือเป็นครั้งแรกที่จังหวัดสตูล เพื่อให้เป็นเวทีการค้าชายแดนระดับภูมิภาค โดยจัดขึ้น ภายใต้แนวคิด “เสน่ห์สตูลแดนใต้ ผสานมิตรภาพการค้าข้ามพรมแดน” โดยเป็นส่วนหนึ่งของ การยกระดับ เศรษฐกิจพื้นที่ชายแดนและเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ มีเป้าหมาย เพื่อสนับสนุนและเปิดโอกาสทางเศรษฐกิจให้แก่ผู้ประกอบการต่อยอดตลาดเดิม ขยายตลาดใหม่ โดยเฉพาะสำหรับ กลุ่ม SMEs เกษตรกร และผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อตอบสนองต่อนโยบายของ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รมว.พาณิชย์ ที่มุ่งฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยและเสริมสร้างความเชื่อมั่นจากทั้งในและต่างประเทศ ซึ่ง กรมการค้าต่างประเทศได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องด้วยแนวทางเชิงรุกเพื่อกระจายโอกาส ทางเศรษฐกิจสู่ภูมิภาคอย่างทั่วถึง

กิจกรรมไฮไลต์ 2 ส่วน ได้แก่…

1. การจัดแสดงและจำหน่ายสินค้า : ผู้ประกอบการจากทั่วประเทศเข้าร่วมออกบูธ รวมจำนวน 120 บูธ นำเสนอสินค้าคุณภาพที่หลากหลาย อาทิ กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม กลุ่มสินค้าแฟชั่น ไลฟ์สไตล์และของตกแต่ง กลุ่มสินค้าด้านความงาม กลุ่มสินค้าสุขภาพและสมุนไพร กลุ่มสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ และกลุ่มสินค้าเกษตรและผลไม้ นอกจากนี้ ยังเสริมทัพด้วยสถาบันทางการเงิน ได้แก่ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร รวมถึงบริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) มีรายละเอียด ดังนี้

   • ยอดขายรวมตลอดการจัดงาน คิดเป็นมูลค่า 3,065,642 บาท และ ยอดผู้เข้าชมตลอดการจัดงาน จำนวน 16,976 คน

   • ผู้ประกอบการจากจังหวัดมหาสารคาม หนองบัวลำภู บุรีรัมย์ กาฬสินธุ์ อุบลราชธานี และร้อยเอ็ด อยู่ในภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เข้าร่วมงานด้วย โดยมียอดขายรวม 385,000 บาท

   • สินค้าที่มียอดจำหน่ายสูงสุด คือ (1) อาหารแปรรูป ได้แก่ ปลาช่อนแดดเดียว ปลาส้มสมุนไพร ลูกชิ้นปลา กุนเชียงหมู และ (2) สินค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ คือ เสื้อผ้าไทย

2. กิจกรรมการเจรจาจับคู่ธุรกิจ (ออนไลน์และออนไซต์): เปิดเวทีระหว่างผู้ประกอบการไทยกับผู้ประกอบการประเทศเพื่อนบ้าน มีรายละเอียด ดังนี้

   • ผู้ประกอบการไทยเข้าร่วม 20 ราย และ ผู้นำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน (มาเลเซีย และ เวียดนาม) รวม 10 ราย มีจำนวนคู่เจรจาธุรกิจรวม 31 คู่ 

   • สินค้าที่ได้รับความนิยม ได้แก่ (1) อาหารแปรรูป (ปลาช่อนแดดเดียว อาหารทะเลตากแห้ง น้ำพริก ปลากระป๋อง ก๋วยเตี๋ยวสำเร็จรูป เนื้อโคขุน และขนมจีบซาลาเปาแช่แข็ง เป็นต้น) (2) ผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม (อกไก่เพื่อสุขภาพ น้ำผึ้งผสมมะนาวชนิดเข้มข้น และ เครื่องดื่มโซดา) และ (3) ผลไม้สด (ส้มโอทับทิมสยาม)

   • คาดการณ์มูลค่าคำสั่งซื้อภายใน 6 เดือน ถึง 1 ปี คิดเป็นมูลค่าประมาณ 52,654,400 บาท

นางอารดา ระบุเพิ่มเติมว่า กรมการค้าต่างประเทศเชื่อมั่นว่าความสำเร็จของงานในครั้งนี้สะท้อนถึงพลังของพื้นที่ชายแดนในการเป็น “ประตูเศรษฐกิจ” ที่พร้อมต่อยอดสู่ตลาดภูมิภาคได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยกรมฯจะยังคงเดินหน้าจัดกิจกรรมในลักษณะนี้ ในพื้นที่ชายแดนและระเบียงเศรษฐกิจพิเศษทั่วประเทศ เพื่อผลักดันเศรษฐกิจฐานรากให้แข็งแรงและเชื่อมโยงสู่ตลาดอาเซียน ต่อไป.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password